แน่นอนใครๆ ก็รักษ์โลกและอยากมีอากาศดีๆ สิ่งแวดล้อมดีๆ อยู่กับเราไปนานๆ รถยนต์พลังงานไฟฟ้าช่วยรักษาสิ่งแวดล้อมได้มากกว่ารถยนต์น้ำมันอย่างมาก บางคนอาจจะเคยได้ยินคนพูดว่าการใช้รถไฟฟ้าอาจจะสร้างมลพิษมากกว่ารถน้ำมันทั่วไปเสียอีก เนื่องจากการผลิตไฟฟ้าก็สร้างมลพิษอยู่ดี เราอยากจะบอกว่านั่นเป็นคำพูดที่ไม่มีข้อมูลจริงเลย ในความเป็นจริงแล้ว การผลิตน้ำมันต้องใช้พลังงานไฟฟ้าในการสูบขึ้นมาจากผืนดิน แล้วไหนยังมีการขุดเจาะน้ำมันทางทะเลอีก ซึ่งต้องใช้เรือหรือท่อน้ำมันในการขนส่ง ยังไม่รวมถึงการรั่วไหลที่เราเห็นในข่าวกันทุกปี นอกจากนั้นยังต้องเอามากลั่น และใช้รถบรรทุกหรือท่อน้ำมันเพื่อขนส่งมาที่ปั๊มน้ำมัน และใช้พลังงานในการปั๊มน้ำมันอีก ยังไม่รวมที่ถึงการเผาผลาญน้ำมันในรถยนต์ที่เราเอามาขับกัน เห็นได้ว่าเส้นทางการผลิตเชื้อเพลิงเป็นกระบวนการที่สกปรกตั้งแต่ต้นจนจบ และผลิตมลพิษอย่างมากมายมหาศาล
หากมาเทียบกับการใช้ไฟฟ้าของรถยนต์ไฟฟ้า จะเห็นได้ว่าไม่ต้องมีการสูบจากพื้นดิน ไม่ต้องขนส่ง ไม่ต้องส่งไปต่างประเทศ ไม่ต้องกลั่น ไฟฟ้าถูกส่งมาตรงให้คุณชาร์จได้เลย แน่นอนถึงแม้ว่าพลังงานไฟฟ้าอาจจะผลิตจากการเผาถ่านหินก็ตาม แต่โดยรวมแล้ว ยังไงก็ทำร้ายโลกน้อยกว่าการผลิตน้ำมันอย่างมาก และทางเลือกในการผลิตไฟฟ้าจากพลังงานสะอาด เช่น พลังงานแสงอาทิตย์ พลังงานลม พลังงานน้ำ ฯลฯ ก็จะทำให้กระบวนการผลิตไฟฟ้าสะอาดได้จากต้นน้ำถึงปลายน้ำ
รถยนต์ไฟฟ้ามีต้นทุนค่าพลังงานอยู่ที่ประมาณ 0.5-1 บาท / 1 กิโลเมตร หากคิดแบบเต็มที่เลย ตัวอย่าง การชาร์จไฟที่บ้านจนเต็ม 8 ชั่วโมง จะเสียค่าไฟประมาณ 237 บาท วิ่งได้ 400 กิโลเมตร จะตกประมาณ 0.59 บาท/ 1 กิโลเมตร ขณะที่รถยนต์ใช้น้ำมันมีต้นทุนค่าพลังงาน 3-4 บาท / 1 กิโลเมตร เทียบโดยน้ำมันจะเฉลี่ย 1 ลิตร (แก๊สโซฮอล์ 95 คือ 47 บาท) วิ่งในระยะทางตรงได้ 15 กิโลเมตรต่อลิตร เท่ากับว่ามีค่าใช้จ่าย 3.13 บาท/ กิโลเมตร
เมื่อวันที่ 8 มิ.ย. ราชกิจจานุเบกษา ก็เพิ่งประกาศกฎกระทรวง ลดภาษีรถ EV ที่เข้าโครงการรัฐบาลเสีย "ภาษีสรรพสามิต" แค่ 2% จากปกติ 8% ทำให้ราคารถยนต์ไฟฟ้าลดฮวบลงมากันเป็นแสนๆ เลยทีเดียว ส่วนราคาเหลือเท่าไหร่นั้น ฝากไปเช็กของแต่ละค่ายกันเองนะ
รถยนต์ไฟฟ้า มีชิ้นส่วนทั้งคันน้อย จึงทำให้ซ่อมบำรุงได้อย่างรวดเร็ว และประหยัดค่าใช้จ่ายกว่า ในขณะที่รถยนต์น้ำมันใช้อะไหล่จำนวนที่มากกว่า และเครื่องยนต์มีความซับซ้อน เมื่อเกิดปัญหาก็จะมีค่าใช้จ่ายสูงกว่า นอกจากนั้นด้วยกระแสโลกที่กำลังในความนิยมรถยนต์พลังงานไฟฟ้า หากคุณใช้รถไป 5 ปี 10 ปี คิดอยากจะขาย รถไฟฟ้าก็จะขายได้ราคากว่า ลองคิดดูสิ ถ้าคุณซื้อรถใหม่เป็นรถน้ำมันตอนนี้ แล้วอีก 10 ปีข้างหน้าอยากจะขาย แต่สถานบริการน้ำมันในอีก 10 ปีข้างหน้าอาจจะเปลี่ยนเป็นสถานบริการพลังงานไฟฟ้าเป็นหลักไปแล้ว และใครๆ ก็ใช้รถไฟฟ้ากันหมดแล้ว รถยนต์น้ำมันของคุณจะขายก็ไม่ค่อยได้ราคาแล้ว
เป็นที่รู้กันว่ารถไฟฟ้านั้นเงียบจนแทบจะไม่รู้ว่าสตาร์ทอยู่หรือเปล่า ทำให้ไม่มีเสียงรบกวนชาวบ้าน และอัตราการเร่งของรถยนต์ไฟฟ้าก็แรงกว่า แถมการกระตุกก็น้อยกว่ารถน้ำมัน
และนี่ก็เป็นเหตุผล 5 หลักๆ ที่อยากจะบอกคนที่กำลังจะซื้อรถใหม่ ว่าให้ใจเย็นๆ ก่อน รถยนต์ไฟฟ้าบางค่ายช่วงนี้ปิดจอง บางค่ายก็เอามาเปิดตัวให้เกิดความอยาก แต่ตัวรถจริงยังไม่เข้ามาขาย เราก็รอกันไปก่อนเถอะ มันคุ้มค่า
ที่มา: Welldone Guarantee
Tags