Employer War สงครามชิงพนักงานหัวกะทิ

  • ธุรกิจ
  • February 20, 2019
Employer War สงครามชิงพนักงานหัวกะทิ
คนเรา “ทำงาน” เพื่อแลก “เงิน” ก็จริง แต่สำหรับคนยุคนี้ ตัวเลขในสลิปเงินเดือนอาจจะไม่ใช่ทั้งหมดของชีวิตอีกแล้ว มาดูกันว่าพวกเขาต้องการอะไรจากสถานที่ทำงานในฝันกันบ้าง

ถ้าเลือกได้ คุณอยากทำงานแบบไหน ระหว่างบริษัทที่เงินเดือนสูงแต่กฎระเบียบเข้มงวดจนหายใจแทบไม่ออก กับ บริษัทที่ให้เงินเดือนในระดับยอมรับได้แต่มีความยืดหยุ่นให้ชีวิตมากกว่า ไม่จำเป็นต้องสแกนนิ้วเข้าทำงานในออฟฟิศทุกวัน หรือมีห้องให้พักงีบเติมพลังก่อนกลับมาลุยงานต่อ

ดูเหมือนว่ามนุษย์งานสมัยนี้จะไม่มอง “เงิน” เป็นคำตอบสุดท้าย แต่พวกเขาต้องการความสุขจากการทำงาน รวมถึงสร้างสมดุลระหว่างการทำงานและการใช้ชีวิต ไม่ใช่ทิ้งทุกอย่างไว้เบื้องหลังเพื่อทุ่มเทกับงานอย่างเดียว ซึ่งนี่ก็อธิบายถึงเหตุผลที่ทำให้ผู้คนอยากเป็นเจ้าของธุรกิจ เพราะอยากจะเป็นนายตัวเอง หรือฝันจะเป็นฟรีแลนซ์มืออาชีพที่สามารถบริหารจัดการงานกับชีวิตได้ลงตัว

ทุกวันนี้ บริษัทต่างๆ ทุ่มทุนใช้เงินเดือนและผลตอบแทนสูงๆ เป็นอาวุธดึงดูดคนเก่งให้เข้ามาทำงานด้วย โดยเฉพาะบริษัทด้านไอทีที่เปิดศึกชิงพนักงานหัวกะทิกันอย่างดุเดือด รวมไปถึงธุรกิจค้าปลีกและอุตสาหกรรมต่างๆ ที่จำเป็นต้องพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อใช้สู้กับคู่แข่งในโลกยุคดิจิทัล

แต่ก็ใช่ว่าทุกบริษัทจะมีทุนหนาเพื่อมาสู้ศึกซื้อตัวพนักงาน อีกทั้งมนุษย์งานยุคใหม่ก็ไม่ได้ต้องการแค่ตัวเลขสูงๆ ในสลิปเงินเดือนอีกแล้ว TDPK เลยมองว่า สวัสดิการและความใส่ใจอื่นๆ ที่เงินอาจซื้อไม่ได้กำลังจะกลายเป็นปัจจัยตอบโจทย์ตลาดงานในปัจจุบัน ซึ่งเกิดขึ้นทั่วโลกด้วย ไม่ใช่แค่ในไทย

IWG ผู้ให้บริการพื้นที่สำนักงาน ได้สำรวจข้อมูลจากนักธุรกิจกว่า 18,000 คน ใน 96 บริษัท พบว่า มีพนักงานราว 70% ที่ต้องทำงานจากนอกออฟฟิศอย่างน้อยสัปดาห์ละครั้ง นอกจากนี้ การทำงานที่ยืดหยุ่นได้กลายเป็นส่วนหนึ่งของกลยุทธ์ด้านสวัสดิการในหลายๆ บริษัท ซึ่งช่วยเพิ่มความสามารถในการแข่งขัน และเพิ่มประสิทธิภาพในการทำงาน รวมทั้งดึงดูดและรักษาพนักงานเอาไว้

การทำให้สำนักงานเป็นสถานที่ที่น่าทำงานมากขึ้นก็เป็นส่วนสำคัญเช่นกัน ไม่ว่าจะเป็นการตกแต่งที่ช่วยปลุกความคิดสร้างสรรค์ นั่งทำงานมุมไหนก็ได้ ไม่จำเจกับโต๊ะ-เก้าอี้ในห้องสี่เหลี่ยม มีมุมบันเทิง หรือพื้นที่ออกกำลังกาย

Employer interview

ในขณะเดียวกัน ทางบริษัทก็ควรใจกว้างมอบหมายงานที่เปิดโอกาสให้พนักงานได้ทำงานในแบบของตัวเอง แม้จะเดินบนเส้นทางที่แตกต่างแต่ก็ไปสู่เป้าหมายขององค์กรได้ รวมถึงสนับสนุนให้พนักงานได้พัฒนาตัวเองเพื่อก้าวสู่เส้นทางที่ก้าวหน้าในอาชีพ และคำนึงถึงสมดุลระหว่างการทำงานกับการใช้ชีวิตของพนักงานด้วย

“Line Thailand” มีชื่อติดอันดับของบริษัทที่คนรุ่นใหม่ใฝ่ฝันที่อยากจะร่วมงานด้วย นอกเหนือจากคาแรกเตอร์การ์ตูนสุดน่ารักแล้ว ยังมีสวัสดิการและความเอาใจใส่ที่ดีต่อใจมนุษย์งาน เช่น การหยุดสงกรานต์ยาว 1 สัปดาห์ เพราะเป็นช่วงที่พนักงานควรได้ใช้เวลาอยู่กับครอบครัว หรือให้วันลาพักร้อนเท่ากันทั้งบริษัทไม่ว่าจะเป็นพนักงานน้องใหม่หรือผู้บริหารระดับสูง

ส่วนสวัสดิการอื่นๆ ก็มีทั้งข้าวเช้าและข้าวกลางวันฟรี มีห้องนอนพักผ่อนในออฟฟิศและกิจกรรมออกกำลังกาย อีกทั้งยังมีประกันสุขภาพที่ครอบคลุมถึงคู่สมรสและบุตร หรือแม้แต่คู่สมรสเพศเดียวกันที่มีการจดทะเบียน มีการให้เงินขวัญถุงแต่งงาน สิทธิ์ลาไปฮันนีมูน 7 วัน รวมถึงสิทธิ์คุณพ่อลาเลี้ยงลูก นอกเหนือจากสิทธิ์ลาคลอดสำหรับผู้หญิง

อีกบริษัทที่ให้ความสำคัญเรื่องคนคือ “ฟู้ดแพชชั่น” เจ้าของแบรนด์ บาร์บีคิวพลาซ่า ซึ่งมองว่าพนักงานเป็นผู้ขับเคลื่อนความสำเร็จ ดังนั้น จึงอยากให้พนักงานมีความสุขเพื่อถ่ายทอดไปยังลูกค้า ยกตัวอย่างคลิปที่โด่งดังไปทั่วในโลกโซเชียล “พนักงานร้านอาหารก็มีแม่” ที่สื่อถึงเรื่องราวของพนักงานบางส่วนที่ต้องทำงานในวันแม่ บริษัทจึงจัดให้คนเหล่านี้พาแม่มากินที่ ร้านบาร์บีคิวพลาซ่า ก่อนหน้านั้น

สวัสดิการที่จับต้องไม่ได้เหล่านี้กำลังเข้ามามีบทบาทในตลาดงานมากยิ่งขึ้น และมีความสำคัญไม่ยิ่งหย่อนไปกว่าเงินเดือน หรือสิ่งที่จับต้องได้อย่างประกันชีวิต ประกันสุขภาพ และกองทุนสำรองเลี้ยงชีพ

Tags

  • HR

You May Like