โควิด-19 และ Digital Disruption สอง Game Changer ที่เปลี่ยนโลกธุรกิจและการทำงานไปอย่างสิ้นเชิง นอกจากเปลี่ยนรูปแบบการทำงานแล้ว ยังได้เปลี่ยนวัฒนธรรมและทัศนคติในการทำงานด้วย ทั้งกระแสการลาออกครั้งใหญ่ การลดเวลาทำงานเหลือเพียง 4 วันต่อสัปดาห์ และการที่พนักงานเลือกจะลาออกหากต้องกลับไปทำงานที่ออฟฟิศ ล้วนแสดงให้เห็นถึงการเปลี่ยนแปลงครั้งใหญ่ที่องค์กรต้องเผชิญ 
&nbsp;
นอกจากวัฒนธรรมองค์กรแล้ว ปัจจุบันพนักงานยังให้ความสำคัญกับองค์กรที่จะสามารถผลักดันให้พวกเขาเติบโตและพัฒนาได้ พร้อมไปกับการสร้างสมดุลชีวิตส่วนตัวและการงานอย่างกลมกลืน นั่นแปลว่า
ไม่ใช่เพียงองค์กรที่จะเลือกคนทำงาน แต่คนทำงานก็จะเลือกองค์กรที่ต้องการด้วย ยิ่งไปกว่านั้น เมื่อเทคโนโลยีเข้ามาดิสรัปให้เทรนด์การทำธุรกิจเปลี่ยนไป องค์กรยิ่งต้องทำงานหนักขึ้นกับการสรรหาบุคลากรที่มีทั้งศักยภาพและทัศนคติเหมาะสมที่สุด 
&nbsp;
ทรู ดิจิทัล พาร์ค ในฐานะศูนย์กลางเทคและสตาร์ทอัพที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน ที่มีเป้าหมายส่งเสริมคนรุ่นใหม่และคนไทยให้อัปสกิลด้านดิจิทัล เพิ่มความรู้และทักษะใหม่ที่องค์กรและตลาดแรงงานต้องการ ศูนย์กลางนวัตกรรมดิจิทัลและพื้นที่เพื่อการสร้างสรรค์นวัตกรรม ร่วมกับ ConNEXT แพลตฟอร์มเพื่อสร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นใหม่ 
และตัวกลางเชื่อมคนรุ่นใหม่กับองค์กร ที่มีเป้าหมายในการสร้าง Talent จำนวน 1 ล้านคน ภายในปี 2025 ให้กับประเทศไทย ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มในเครือของ  Techsauce ผู้นำเสนอความรู้ด้านเทคโนโลยีธุรกิจ 
&nbsp;
ได้ร่วมกันจัดงาน “Tech ConNEXT Job Fair 2022 Connecting Your Next Opportunities” งานที่จะเชื่อมทุกโอกาสให้องค์กรและเด็กจบใหม่ วันที่ 6-8 กรกฎาคมนี้ ที่ ทรู ดิจิทัล พาร์คชั้น 6 และ 7  
&nbsp;
สำหรับบริษัทและองค์กรที่สนใจออกบูธสามารถติดต่อได้ที่ : 
Email : <a href="mailto:Techconnextjobfair@truedigitalpark.com" target="_blank" rel="noopener">Techconnextjobfair@truedigitalpark.com</a>

%e0%b9%80%e0%b8%9f%e0%b9%89%e0%b8%99%e0%b8%ab%e0%b8%b2%e0%b9%80%e0%b8%9e%e0%b8%b7%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%99%e0%b8%a3%e0%b9%88%e0%b8%a7%e0%b8%a1%e0%b8%87%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b8%aa%e0%b8%b2%e0%b8%a2-2_1

เฟ้นหาเพื่อนร่วมงานสายเทคกว่า 1,000 คน  ในงาน Tech ConNEXT Job Fair 2022

วันที่ 9 พฤษภาคม 2565 ศ.ดร.ศุภชัย ปทุมนากุล รองปลัดกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์วิจัยและนวัตกรรม ประธานในพิธี เเละ นายภานุวัฒน์ ตริยางกูรศรี รองปลัดกระทรวงอุตสาหกรรม ให้เกียรติมาร่วมงานในพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือจัดตั้งสถาบันวิศวกรรมปัญญาประดิษฐ์ โดยผู้เเทนจาก 6 มหาวิทยาลัย นำโดย รศ.ดร.สุพันธุ์  ตั้งจิตกุศลมั่น อธิการบดี มหาวิทยาลัยซีเอ็มเคแอลร่วมกับคณาจารย์จากมหาวิทยาลัยเครือข่ายประกอบด้วย ศ.นายแพทย์บรรจง มไหสวริยะ อธิการบดี มหาวิทยาลัยมหิดล รศ.ดร. สัมพันธ์ สิงหราชวราพันธ์ รองอธิการบดี มหาวิทยาลัยเชียงใหม่ ผศ.ดร.จุมพล  ชื่นจิตต์ศิริ รองอธิการบดีฝ่ายกฎหมายและบริการวิชาการมหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ รศ.ดร.สมยศ เกียรติวนิชวิไล คณบดี คณะวิศวกรรมศาสตร์ สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เเละรศ.ดร.รัชพล สันติวรากร คณบดีคณะวิศวกรรมศาสตร์มหาวิทยาลัยขอนแก่น ณ ห้องกมลทิพย์ โรงเเรมสุโกศล กรุงเทพมหานคร 
โดยภายในงานนอกจากทั้ง 6 มหาวิทยาลัยจะลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือเพื่อจัดตั้งสถาบันวิศวกรรมปัญญาประดิษฐ์เเล้ว ยังร่วมกันนำสถาบันดังกล่าวลงนามความร่วมมือร่วมกับภาคเอกชนอย่าง กลุ่มธุรกิจเอ็นเตอร์ไพรส์ หัวเว่ย เทคโนโลยี (ประเทศไทย) จํากัด จำกัด บริษัท ที.ซี.ซี. เทคโนโลยี จำกัด บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด บริษัท ทรู ดิจิทัล พาร์ค จำกัด เเละ กสิกร บิซิเนส-เทคโนโลยี กรุ๊ป อีกด้วย 
NVIDIA ร่วมพัฒนาผู้มีความสามารถด้าน AI ด้วยการเสริมพลังให้กับมหาวิทยาลัยผ่านทาง NVIDIA Deep Learning Institute และ teaching kits  
Keith Strier - Worldwide VP of AI Nation Partnership and Member of US AI Nation Program, NVIDIA กล่าวว่า“เนื่องจาก AI เข้ามามีบทบาทในการขับเคลื่อนความเปลี่ยนแปลงในทุกอุตสาหกรรม เป็นจังหวะที่ดีที่ทั้ง 6 มหาวิทยาลัยได้ร่วมกันก่อตั้ง สถาบันวิศวกรรมปัญญาประดิษฐ์ (AI Engineering Institute; AIEI)  ที่ NVIDIA ทาง NVIDIA Deep Learning Institute ของเรามีทรัพยากร และการอบรมที่จำเป็นสำหรับนักศึกษาในการสร้างทักษะและความรู้อันมีค่าในด้าน AI เราจะร่วมมือกับมหาวิทยาลัยในการพัฒนาผู้มีความสามารถที่จำเป็นสำหรับ AI ecosystem 
ทั้งนี้ สถาบันวิศวกรรมปัญญาประดิษฐ์ (AI Engineering Institute; AIEI) จัดตั้งขึ้นเพื่อเป็นแกนกลางในการช่วยประสานงานระหว่างเครือข่ายมหาวิทยาลัย เพื่อร่วมกันจัดการศึกษา แบ่งปันทรัพยากรเเละ เปิดโอกาสให้นักศึกษาเข้าถึงผู้เชี่ยวชาญจากมหาวิทยาลัยในเครือข่ายได้อย่างมีประสิทธิภาพมากขึ้น 
โดยหลักสูตรวิศวกรรมปัญญาประดิษฐ์และคอมพิวเตอร์(AiCE) มหาวิทยาลัยซีเอ็มเคแอล ได้รับการพิจารณาให้เป็นหลักสูตรนำร่องสำหรับการจัดการศึกษาที่เน้นการพัฒนาสมรรถนะของผู้เรียนเป็นหลัก(Competency-based Education) ซึ่งเป็นหลักสูตรที่ก้าวข้ามขีดจำกัดของการศึกษารูปเเบบเดิม เพื่อให้นักศึกษาได้พัฒนาทักษะที่สามารถนำไปใช้ได้จริง นอกจากนี้ยังเป็นการส่งเสริมให้นักศึกษามีโอกาสในการพัฒนาเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์และคอมพิวเตอร์ร่วมกับภาคอุตสาหกรรมเพื่อการพัฒนาประเทศ และสร้างปรากฎการณ์ใหม่เเห่งวงการการศึกษาในการพัฒนาศักยภาพของผู้เรียนให้ตรงต่อความต้องการของภาคอุตสาหกรรมได้อย่างมีประสิทธิภาพ 
ดร.อักฤทธิ์ สังข์เพ็ชร ผู้อำนวยการหลักสูตรวิศวกรรมปัญญาประดิษฐ์และคอมพิวเตอร์มหาวิทยาลัยซีเอ็มเคแอล เผยว่า โครงสร้างหลักสูตรวิศวกรรมปัญญาประดิษฐ์และคอมพิวเตอร์ มหาวิทยาลัยซีเอ็มเคแอล ที่ได้รับเลือกเป็นหลักสูตรนำร่องนั้น ได้ถอดความต้องการจากประสบการณ์งานวิจัยและการพัฒนาของคณาจารย์ ทั้งหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน มาพัฒนาเป็นองค์ความรู้ที่ครอบคลุมทั้งสี่ด้านของสาขาวิศวกรรมปัญญาประดิษฐ์ (AI Engineering) 
มหาวิทยาลัยซีเอ็มเคแอล (CMKL University) เป็นมหาวิทยาลัยชั้นนำด้านวิศวกรรมและเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์ ภายใต้ความร่วมมือของสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง (KMITL) และ มหาวิทยาลัยคาร์เนกีเมลลอน (Carnegie Mellon University) สถาบันการศึกษาที่เชี่ยวชาญด้านหลักสูตรวิศวกรรมคอมพิวเตอร์อันดับ 1 ของโลก ประเทศสหรัฐอเมริกา ภายใต้แนวคิด “Enabling Endless Possibilities” 
ศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับสถาบันสถาบันวิศวกรรมปัญญาประดิษฐ์ ได้ที่ <a href="http://aiei.tech" target="_blank" rel="noopener">http://aiei.tech</a>

%e0%b8%a1%e0%b8%ab%e0%b8%b2%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%97%e0%b8%a2%e0%b8%b2%e0%b8%a5%e0%b8%b1%e0%b8%a2%e0%b8%8b%e0%b8%b5%e0%b9%80%e0%b8%ad%e0%b9%87%e0%b8%a1%e0%b9%80%e0%b8%84%e0%b9%80%e0%b9%80%e0%b8%ad-2

มหาวิทยาลัยซีเอ็มเคเเอล ลงนามความร่วมมือจัดตั้งสถาบันปัญญาประดิษฐ์

กรุงเทพฯ 12 เมษายน 2565 – อีคอมเมิร์ซยังเป็นเทรนด์ที่มาแรงอย่างต่อเนื่อง แต่ไม่ใช่ธุรกิจทุกรายจะไปรอดเพราะการแข่งขันสูง เจ้าของธุรกิจต้องปรับตัวรับมือกับเทรนด์ใหม่ๆ ที่เปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็วตลอดเวลา หากปรับตัวได้เร็วก็อยู่รอด ทรู ดิจิทัล พาร์ค ศูนย์กลางเทคและสตาร์ทอัพที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน เดินหน้าขับเคลื่อนเศรษฐกิจดิจิทัลของไทย จัดโครงการ “SME NEXTFORMATION by True Digital Park Batch 2” ติดอาวุธให้เอสเอ็มอีสร้างการเติบโตของธุรกิจด้วยเทคโนโลยีและเครื่องมือดิจิทัล ร่วมกับพันธมิตรผู้เชี่ยวชาญระดับโลกหลายราย รวมทั้ง TikTok แพลตฟอร์มสร้างคอนเทนต์วิดีโอสั้นที่ดึงดูดความสนใจจากผู้คนทั่วโลก แนะเคล็ดลับการตลาด Short Video Marketing ช่วยสร้างแบรนด์และเพิ่มยอดขายให้แก่ผู้ประกอบการ SMEs ที่เข้าร่วมโครงการ
 
เคล็ดลับสร้างธุรกิจให้เติบโตบนออนไลน์ 
Short Video Marketing เป็นเทรนด์การตลาดดิจิทัลที่มาแรง จากกระแสความนิยมของแพลตฟอร์มวิดีโอสั้นที่ช่วยเสริมการตลาดออนไลน์ได้อย่างมีประสิทธิภาพ สามารถสร้างการรับรู้ของแบรนด์และสร้างยอดขายให้ธุรกิจได้มากที่สุด คุณจตุธน พิทักษ์พงศ์ Head of SMB, TikTok แบ่งปันข้อมูลการเติบโตอย่างก้าวกระโดด ทั้งในด้านจำนวนผู้ใช้งานและการพัฒนาเครื่องมือต่างๆ ของ TikTok ที่ช่วยให้เอสเอ็มอีสามารถทำธุรกิจได้อย่างยั่งยืนว่า ในปีที่ผ่านมามีผู้คนมากกว่า 1 พันล้านคนใช้ TikTok เพื่อความบันเทิง  ค้นหา และแบ่งปันความสุขกับผู้อื่น พร้อมกับการเรียนรู้ใหม่ๆ TikTok เป็นผู้นำด้านแพลตฟอร์มวิดีโอสั้นที่ถูกจัดอันดับให้เป็น 1 ใน 4 แพลตฟอร์มโฆษณาหลักที่มีประสิทธิภาพสูงสุด  อีกทั้งผู้ใช้ TikTok เป็นกลุ่มคนที่เน้นการมีส่วนร่วมกับเนื้อหาต่างๆ เข้าถึงง่าย และกว่า 63% ของผู้ใช้งาน มีศักยภาพในการจับจ่ายซึ่งตรงกับกลุ่มเป้าหมายของเอสเอ็มอี ทำให้ TikTok สามารถช่วยเอสเอ็มอีได้ในทุกมิติ ทั้งโน้มน้าวลูกค้าให้ตัดสินใจซื้อสินค้าได้ง่ายขึ้น กระตุ้นยอดขาย การเข้าถึงกลุ่มเป้าหมายที่มีประสิทธิภาพ รวมถึงการสร้างตัวตนของแบรนด์ผ่านครีเอทีฟบน TikTok เพื่อบรรลุเป้าหมายในการทำธุรกิจของเอสเอ็มอีในทุกรูปแบบ
 
 
ทริคสร้างวิดีโอสั้นที่ดึงดูดใจได้ภายใน 7 วินาที
ปัจจุบันผู้บริโภคมีตัวเลือกมากขึ้นในการเสพสื่อต่างๆ การดึงดูดความสนใจจึงมีเวลาเพียงแค่ 7 วินาทีเท่านั้น ดังนั้นรูปแบบวิดีโอสั้นที่มีความน่าสนใจ นอกจากต้องกระชับ สื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายได้ตรงไปตรงมาอย่างสร้างสรรค์แล้ว ยังต้องทำลายกำแพงความไม่น่าสนใจด้วยเสียง ไม่ว่าจะเป็น เสียงพูด เสียงเพลง รวมถึงการให้อินฟลูเอนเซอร์ช่วยเล่าเรื่องราวให้สนุกสนานจากสิ่งที่อยู่รอบตัว เกาะติดเทรนด์ล่าสุด ซึ่ง TikTok มีเครื่องมือต่างๆ ที่ช่วยให้การทำวิดีโอสั้นไม่ใช่เรื่องยาก นอกจากนี้ เคล็ดลับการสร้างสรรค์วิดีโอสั้นให้น่าสนใจอาจเริ่มต้นสร้างคอนเทนต์จากสิ่งที่อยู่รอบตัว การนำคอมเมนต์หรือสิ่งที่มักโดนถามในชีวิตประจำวันมาทำเป็นคอนเทนต์ วิธีการทำหรือการใช้ผลิตภัณฑ์ รีวิวสินค้าต่างๆ เป็นต้น กล่าวคือ คอนเทนต์ที่ดีไม่จำเป็นต้องเพอร์เฟค แต่จะต้องสื่อสารกับกลุ่มเป้าหมายที่ธุรกิจต้องการได้
 
เสริมธุรกิจเอสเอ็มอีไทยให้เติบโตกับระบบนิเวศแบบครบวงจรสำหรับสตาร์ทอัพที่ทรู ดิจิทัล พาร์ค
ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่ร่วมโครงการ “SME NEXTFORMATION by True Digital Park Batch 2” นอกจากจะได้เรียนรู้เจาะลึกกับ TikTok for Business รวมถึงเครื่องมือการทำโฆษณาต่างๆ ที่จะช่วยให้เข้าถึงลูกค้าผ่านสื่อรูปแบบวิดีโอสั้น ที่ไม่เพียงแค่เป็นที่จดจำ แต่ยังวัดผลและพัฒนาให้ธุรกิจเอสเอ็มอีเติบโตได้จริง ใช้งานง่าย ตอบโจทย์ทุกความต้องการในการทำธุรกิจ ยิ่งไปกว่านั้น ผู้ประกอบการเอสเอ็มอียังสามารถเสนอไอเดียธุรกิจในโปรแกรม The Perfect Pitch และเข้าสู่โปรแกรมบ่มเพาะ Startup Garage กับ ทรู ดิจิทัล พาร์ค พร้อมแลกเปลี่ยนความรู้และต่อยอดธุรกิจกับเครือข่ายพันธมิตรธุรกิจทั้งไทยและต่างประเทศ รับสิทธิ์ใช้ Co-working space ฟรี 3 เดือน รับเครดิตในการต่อยอดธุรกิจออนไลน์ต่างๆ จากพันธมิตรอีกด้วย
&nbsp;
ผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่สนใจสร้างธุรกิจให้เติบโตบนแพลตฟอร์มออนไลน์ สามารถติดตามเข้าร่วมโครงการ “SME NEXTFORMATION by True Digital Park ในครั้งต่อไป ได้เร็วๆ นี้ ได้ที่ <a href="http://www.truedigitalpark.com">www.truedigitalpark.com</a>

%e0%b8%97%e0%b8%a3%e0%b8%b9-%e0%b8%94%e0%b8%b4%e0%b8%88%e0%b8%b4%e0%b8%97%e0%b8%b1%e0%b8%a5-%e0%b8%9e%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b9%8c%e0%b8%84-%e0%b8%88%e0%b8%b1%e0%b8%9a%e0%b8%a1%e0%b8%b7%e0%b8%ad-tikto-2

ทรู ดิจิทัล พาร์ค จับมือ TikTok ติดอาวุธให้เอสเอ็มอีทำธุรกิจพุ่งทะยาน

11 เมษายน 2565, กรุงเทพมหานคร – ดีป้า พร้อมพันธมิตรภาครัฐและภาคเอกชน ร่วมประกาศรายชื่อและมอบรางวัลแก่ 10 สุดยอดทีมผู้เข้าแข่งขันจากกิจกรรม HACKaTHAILAND Competition &amp; Beyond Hackathon ที่มาร่วมไขโจทย์แก้ปัญหาระดับชาติในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรม 3 กลุ่มหลักของประเทศ ภายหลังขับเคี่ยวกันมายาวนานถึง 168 ชั่วโมง จนได้มาซึ่งสุดยอดนวัตกรรมที่จะมาช่วยพลิกโฉมประเทศ
&nbsp;
ผศ.ดร.ณัฐพล นิมมานพัชรินทร์ ผู้อำนวยการใหญ่ สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล หรือ ดีป้า เปิดเผยว่า ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา ดีป้า มุ่งมั่นผลักดันให้เกิดการยกระดับทักษะดิจิทัลแก่คนไทย เพื่อรองรับการเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างเศรษฐกิจยุคชีวิตวิถีใหม่ (นิวมอร์มัล) หลังได้รับผลกระทบจากการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) ผู้คนต้องเร่งปรับพฤติกรรมโดยมีเทคโนโลยีดิจิทัลเป็นเครื่องมือสำคัญในการแก้ไขปัญหาและอำนวยความสะดวก ดังนั้นประเทศไทยจึงจำเป็นต้องเตรียมความพร้อมให้ประชาชนสามารถเข้าถึงและประยุกต์เทคโนโลยีดิจิทัลได้อย่างเหมาะสม สร้างสรรค์ ปลอดภัย และเกิดประโยชน์ เพื่อเดินหน้าสู่ยุคเศรษฐกิจและสังคมดิจิทัลได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน
&nbsp;
กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอีเอส) โดย ดีป้า พร้อมด้วยเครือข่ายพันธมิตร ทั้งภาครัฐและภาคเอกชนจึงได้จัดทำโครงการ HACKaTHAILAND ขึ้น เพื่อสร้างความตระหนักและส่งเสริมการพัฒนาทักษะและองค์ความรู้ด้านเทคโนโลยีดิจิทัลแก่ประชาชนไทย โดยหนึ่งในกิจกรรมสำคัญคือ การแข่งขัน HACKaTHAILAND Competition &amp; Beyond Hackathon ที่จัดขึ้นเพื่อระดมสมองสู่แนวความคิดใหม่ ร่วมไขโจทย์แก้ปัญหาระดับชาติใน 3 กลุ่มอุตสาหกรรมหลักของประเทศ ได้แก่ การเกษตร การท่องเที่ยว และการขนส่ง
&nbsp;
HACKaTHAILAND Competition &amp; Beyond Hackathon เป็นการแข่งขัน Hackathon ในระยะเวลา 168 ชั่วโมง ซึ่งผู้เข้าแข่งขันทั้ง 126 ทีมจะได้รับโจทย์จากทางรายการ ก่อนร่วมกันระดมแนวคิด และนำเสนอต่อคณะกรรมการ จากนั้นจะมีการคัดเลือก 3 รอบ ซึ่งในรอบแรก Elimination Pitching จะคัดเลือก 30 ทีมสุดท้ายจากผู้เข้าแข่งขันทั้งหมด รอบที่สอง Semi-final Pitching จะคัดผู้เข้าแข่งขันเหลือ 20 ทีม และรอบสุดท้าย Final Pitching ผู้เข้าแข่งขันจะถูกคัดเหลือเพียง 10 ทีม ซึ่งทั้งหมดจะได้ร่วมแก้ไขปัญหาจริงกับหน่วยงานพันธมิตร และจะมีการติดตามการทำงาน รวมถึงผลงานของ 10 ทีมผู้ชนะอย่างต่อเนื่องตลอดระยะเวลา 1 เดือนหลังการแข่งขัน (ระหว่างวันที่ 18 เมษายน - 17 พฤษภาคม 2565)
&nbsp;
“ภายหลังขับเคี่ยวกันมายาวนานถึง 168 โมง จนมาถึงการนำเสนอผลงานของผู้เข้าร่วมแข่งขันในกิจกรรม HACKaTHAILAND Competition &amp; Beyond Hackathon ภายใต้โครงการ HACKaTHAILAND New Normal: Digital Possibilities วันนี้แสดงให้เห็นว่า ทุกทีมต่างทุ่มเทอย่างเต็มที่ในการระดมสมอง ต่อยอดแนวความคิด เพื่อให้ได้มาซึ่งนวัตกรรมดิจิทัลที่จะมาช่วยแก้ไขปัญหาใน 3 ภาคอุตสาหกรรมหลักของประเทศ และแม้ตลอดระยะเวลาการดำเนินกิจกรรมจะมีต้องเผชิญกับการระบาดของโควิด-19 แต่ทุกทีมต่างมุ่งมั่น ตั้งใจ และมีความพยายามในการเข้าร่วมกิจกรรม เพื่อเรียนรู้และพัฒนาทักษะ เพื่อสร้างสรรค์ผลงานร่วมกับวิทยากรทุกคนอย่างสุดความสามารถ ในนามของ  ดีป้า ขอขอบคุณน้อง ๆ ทุกทีมที่เข้าร่วมกิจกรรมการแข่งขันของเรา และขอแสดงความยินดีกับ 10 ทีมสุดท้ายที่ได้รับการคัดเลือกในวันนี้ พร้อมเป็นกำลังใจให้กับน้อง ๆ ที่ไม่ได้รับคัดเลือก และขอให้ไม่หยุดที่จะสร้างสรรค์ผลงานเพื่อเป็นส่วนหนึ่งในการแก้ไขปัญหาของประเทศต่อไป” ผู้อำนวยการใหญ่ ดีป้า กล่าว
&nbsp;
ทีมที่ได้รับรางวัลชนะเลิศจากกิจกรรม HACKaTHAILAND Competition &amp; Beyond Hackathon ได้แก่ ทีม Wang: Data Market (ว่าง: ตลาดข้อมูล) กับผลงานพื้นที่ช่วยเหลือคนว่างงานให้สามารถสร้างรายได้ผ่าน การจัดระเบียบข้อมูล ได้รับเงินรางวัลมูลค่า 1,000,000 บาท รองชนะเลิศอันดับที่ 1 ได้แก่ ทีม NBP กับผลงาน         แอปพลิเคชันที่จะย้ายทั้งทะเลมาในมือคุณ รับเงินรางวัล 500,000 บาท รองชนะเลิศอันดับที่ 2 ได้แก่ ทีม Unknow กับผลงานแพลตฟอร์มแบ่งปันวัฒนธรรมอาหารให้กับนักท่องเที่ยว รับเงินรางวัล 300,000 บาท และทีมผู้ชนะอันดับที่ 4-10 ได้รับเงินรางวัลทีมละ 50,000 บาท
&nbsp;
นอกจากนี้ ทีมผู้ชนะ 5 อันดับแรกจะได้รับสิทธิ์ Fast Track เข้าสู่รอบ Investor Pitch ของมาตรการ depa Digital Startup Fund โดยเป็นการเปิดโอกาสให้ทุกทีมได้นำเสนอผลงานของตนเองกับกลุ่มนักลงทุน ผู้แทนจากหน่วยงานภาครัฐและภาคเอกชน รวมถึงวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) เพื่อสร้างเครือข่าย และเป็นแนวทางในการต่อยอดธุรกิจที่จะสร้างมูลค่าเพิ่มให้กับเศรษฐกิจของประเทศต่อไป
&nbsp;
โครงการ HACKaTHAILAND จะมีไปจนถึงวันที่ 17 เมษายนนี้ ผู้สนใจสามารถเข้าชมโดยไม่มีค่าใช้จ่าย ตั้งแต่เวลา 10.00 – 20.00 น. ณ HACKaTHAILAND Venue @TRUE DIGITAL PARK และสามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับกิจกรรมต่าง ๆ ได้ที่ LINE Official Account: @depaThailand หรือ Facebook Page: HACKaTHAILAND และ depa Thailand

%e0%b8%9b%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a8%e0%b8%a3%e0%b8%b2%e0%b8%a2%e0%b8%8a%e0%b8%b7%e0%b9%88%e0%b8%ad-10-%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b8%a1%e0%b8%aa%e0%b8%b8%e0%b8%94%e0%b8%97%e0%b9%89-2_1

ประกาศรายชื่อ 10 ทีมสุดท้าย HACKaTHAILAND

กรุงเทพฯ 28 มีนาคม 2565 - บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน)  ผนึกกำลัง บมจ. ทรู คอร์ปอเรชั่น ลงนามบันทึกข้อตกลงความร่วมมือในการพัฒนานวัตกรรมดิจิทัลเพื่อธุรกิจพลังงาน เตรียมความพร้อมด้านดิจิทัลต่อยอดสู่การสร้างระบบนิเวศเศรษฐกิจใหม่ มุ่งส่งเสริมศักยภาพการผลิตและเพิ่มประสิทธิภาพในการแข่งขันให้กับภาคเอกชนและสตาร์ทอัพยุคใหม่ ตลอดจนยกระดับอุตสาหกรรมพลังงานยุคดิจิทัล ควบคู่กับการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อมอย่างยั่งยืน
ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ ประธาน บี.กริม และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM เปิดเผยว่า รู้สึกเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้ร่วมงานกับกลุ่มทรู พันธมิตรที่แข็งแกร่งด้านโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมและระบบนิเวศดิจิทัล เพื่อนำศักยภาพของเครือข่ายอัจฉริยะทรู 5G และเทคโนโลยีดิจิทัล สร้างสรรค์นวัตกรรมล้ำสมัย เพิ่มประสิทธิภาพในการบริหารจัดการพลังงานไฟฟ้าและพลังงานสะอาด ที่ไม่เพียงเป็นประโยชน์ต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศไทย แต่ยังสร้างคุณค่าต่อสังคมและสิ่งแวดล้อมต่อไป ซึ่งความร่วมมือครั้งนี้ สอดรับกับหนึ่งในยุทธศาสตร์ของบี.กริม ที่มุ่งมั่นพัฒนาโมเดลธุรกิจในรูปแบบต่างๆ เพื่อรองรับ ดิจิทัล ทรานสฟอร์เมชั่น ด้วยความร่วมมือกับพันธมิตรชั้นนำทั้งในประเทศและต่างประเทศ ผ่านการขับเคลื่อนด้วยทีมงานคนรุ่นใหม่ เพื่อสร้างการเติบโตในระยะยาวและสร้างคุณค่าให้กับสังคม พร้อมก้าวสู่บริษัทผู้ผลิตพลังงานชั้นนำระดับโลก
นายณัฐวุฒิ อมรวิวัฒน์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บริษัท ทรู คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า ความร่วมมือกับ บี.กริม บริษัทผู้นำธุรกิจผลิตพลังงานครั้งนี้ เป็นอีกหนึ่งความภูมิใจของกลุ่มทรูที่ได้มีโอกาส ร่วมทรานสฟอร์มธุรกิจพลังงานของไทยให้เข้าสู่ยุคดิจิทัลอย่างแท้จริง ซึ่งจะเป็นการยกระดับอุตสาหกรรมพลังงานไทยให้เติบโตอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน โดย บี.กริม และ กลุ่มทรู จะทำงานร่วมกันแบบบูรณาการ นำศักยภาพโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมและดิจิทัลครบวงจรของกลุ่มทรู รวมทั้งอัจฉริยภาพของเครือข่ายทรู 5G ต่อยอดและพัฒนานวัตกรรมดิจิทัลที่จะสร้างโอกาสทางธุรกิจและตอบโจทย์การใช้พลังงานทั้งในภาคครัวเรือน ภาคธุรกิจ และอุตสาหกรรม รองรับเทรนด์การใช้พลังงานที่เติบโตอย่างต่อเนื่อง ควบคู่ไปกับการดูแลสังคมและสิ่งแวดล้อม ทั้งในด้านการประหยัดพลังงาน การใช้พลังงานสะอาด และการลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมจากการผลิตและใช้พลังงานไฟฟ้า เพื่อคุณภาพชีวิตที่ดีขึ้นของคนไทย เติมเต็มวิสัยทัศน์และสนับสนุนพันธกิจของ บี.กริม ในการสร้างความมั่นคงด้านพลังงานที่จะขับเคลื่อนเศรษฐกิจและอุตสาหกรรมทั้งในประเทศและระดับภูมิภาค
ทั้งนี้ บี.กริม และ กลุ่มทรู  ได้ร่วมมือกันพัฒนาศักยภาพนวัตกรรมดิจิทัลด้านพลังงาน ผ่านการขับเคลื่อนเทคโนโลยี 4 ด้าน ประกอบด้วย
<h3>1. การพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัลด้วยพลังงานอัจฉริยะ</h3>
ความร่วมมือในการศึกษาและพัฒนาระบบโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล (Digital Infrastructure) เชื่อมโยงกระบวนการซื้อ-ขายไฟฟ้าทุกภาคส่วนเข้าด้วยกัน มุ่งสู่การเป็น Smart City และ Smart Energy - Smart Building โดยมีอาคารอัจฉริยะและอาคารประหยัดพลังงานของ บี.กริม เป็นอาคารต้นแบบในการทดสอบระบบ ซึ่งจะต่อยอดไปสู่การให้บริการลูกค้าภายนอกในอนาคต  พร้อมพัฒนาโซลูชันสำหรับอาคารประหยัดพลังงานแบบครบวงจร ตั้งแต่การผลิตไฟฟ้าโดยใช้พลังงานหมุนเวียนหรือพลังงานสะอาด การนำเทคโนโลยีมาใช้จัดการพลังงานให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุด อาทิ โซลูชัน Property Integration System และ True Smart Energy ที่เชื่อมต่ออุปกรณ์ IoT ผ่านเครือข่ายอัจฉริยะทรู 5G รวมถึงการออกแบบระบบภายในอาคารให้เป็นมิตรต่อผู้ใช้งาน เพิ่มความสะดวกสบายและความปลอดภัย อีกทั้งยังช่วยลดปริมาณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ หรือ การปล่อยก๊าซเรือนกระจกจากกิจกรรมต่างๆ
<h3>2. การพัฒนาโครงการนวัตกรรมเทคโนโลยี 5G</h3>
สร้างองค์ความรู้ ศึกษา และแลกเปลี่ยนเทคโนโลยีใหม่ๆ รวมถึงการพัฒนานวัตกรรม Smart Grid ผ่านเครือข่ายอัจฉริยะทรู 5G  ที่จะยกระดับคุณภาพของอุตสาหกรรมโรงไฟฟ้าไทย ภายใต้แนวคิด Industrial 4.0, Facility 4.0 และ Smart Industrial Estate เพื่อให้บริการพลังงานที่มีคุณภาพและเสถียรภาพภายในพื้นที่สำนักงานและนิคมอุตสาหกรรมภายใต้การกำกับดูแลของ บี.กริม ซึ่งระบบโครงข่ายไฟฟ้าอัจฉริยะ (Smart Grid) เป็นการผสานการทำงานของเทคโนโลยีสื่อสารและดิจิทัลเข้ากับระบบไฟฟ้าแบบวงจร ครอบคลุมตั้งแต่การผลิต การส่ง และ การจำหน่ายไฟฟ้า จนถึงผู้ใช้ไฟฟ้า ทั้งภาคครัวเรือน ภาคธุรกิจ และอุตสาหกรรม  โดยใช้เทคโนโลยี IoT ในการผลิต การติดตั้ง และบำรุงรักษาที่มีคุณภาพ อีกทั้งยังมีแพลตฟอร์มดิจิทัลที่ใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) สามารถวิเคราะห์ข้อมูลเชิงทำนาย (Predictive Analytics) เพื่อให้สามารถแจ้งเตือนได้ล่วงหน้า และเทคโนโลยีการเรียนรู้
ของเครื่องจักร (Machine Learning) ช่วยป้องกันชิ้นส่วนหรืออุปกรณ์ไม่ให้เกิดความเสียหาย พร้อมเพิ่มประสิทธิภาพในการผลิต อันจะนำไปสู่การบริหารจัดการที่ดี สะดวก รวดเร็ว และยังสามารถนำมาประยุกต์ใช้ให้
ตรงกับความต้องการและเกิดประโยชน์ต่อประชาชน ภาครัฐ ภาคอุตสาหกรรม และทุกภาคส่วนที่เกี่ยวข้องได้อย่างมีประสิทธิภาพ
<h3>3. การพัฒนาระบบนิเวศเศรษฐกิจใหม่และการส่งเสริมสตาร์ทอัพในประเทศไทย</h3>
ร่วมกันพัฒนาระบบนิเวศเศรษฐกิจใหม่ ด้วยความร่วมมือกับ ทรู ดิจิทัล พาร์ค ศูนย์กลางเทคและสตาร์ทอัพที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน ในการส่งเสริมสตาร์ทอัพผ่านกิจกรรม Hackathon ที่ส่งเสริมการสร้างสรรค์นวัตกรรมเทคโนโลยี
ด้านพลังงาน สิ่งแวดล้อม และความยั่งยืน ตลอดจนเปิดพื้นที่ทรู ดิจิทัล พาร์ค ในการแลกเปลี่ยนองค์ความรู้ จัดประชุมสัมมนาเชิงสร้างสรรค์ พร้อมโอกาสการลงทุนในสตาร์ทอัพที่อยู่ในระบบนิเวศของ ทรู ดิจิทัล พาร์ค เพื่อร่วมขับเคลื่อนประเทศไทยให้เป็นศูนย์กลางนวัตกรรมด้านดิจิทัล ที่จะยกระดับอุตสาหกรรมพลังงานของไทยให้พัฒนาก้าวหน้าอย่างยั่งยืน
<h3>4. การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและใช้พลังงานอย่างมีประสิทธิภาพ</h3>
ร่วมพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและโซลูชันในการให้บริการพลังงานไฟฟ้าหลักหรือระบบไฟฟ้าสำรอง รวมถึงระบบจัดการความเย็นที่มีประสิทธิภาพ สำหรับศูนย์ดาต้า เซ็นเตอร์ของทรู อินเทอร์เน็ต ดาต้า เซ็นเตอร์ (ทรู ไอดีซี) ตลอดจนสร้างโซลูชันเพื่อสนับสนุนเทคโนโลยีการจัดการพลังงาน เพิ่มสัดส่วนของพลังงานหมุนเวียนหรือพลังงานสะอาด เพื่อส่งเสริมการประหยัดพลังงาน พร้อมช่วยลดปริมาณคาร์บอนฟุตพริ้นท์ในกิจกรรมต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องในธุรกิจ ตอกย้ำความมุ่งมั่นของ ทรูไอดีซี ในการเป็นผู้นำด้านการให้บริการดาต้าเซ็นเตอร์และระบบคลาวด์ในประเทศไทยที่เป็นมิตรกับสิ่งแวดล้อม (Green Data Center) และมีความยั่งยืนในการส่งมอบบริการให้กับกลุ่มลูกค้าธุรกิจทั้งภาครัฐและภาคเอกชน
ความร่วมมือกับกลุ่มทรูในครั้งนี้ ไม่เพียงแต่เป็นประโยชน์ต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคม แต่ยังส่งเสริมการดูแลรักษาสิ่งแวดล้อม สอดคล้องกับเป้าหมายของ บี.กริม ในการก้าวสู่องค์กรที่ไม่ปล่อยก๊าซคาร์บอนไดออกไซด์ หรือ Net-Zero Carbon Emissions ภายในปี ค.ศ. 2050 (พ.ศ. 2593) ตามวิสัยทัศน์ของ บี.กริม ที่มุ่งมั่นดำเนินธุรกิจด้วยความโอบอ้อมอารี เพื่อสร้างประโยชน์สู่สังคมไทยอย่างยั่งยืนต่อไป ดร.ฮาราลด์ ลิงค์ กล่าวสรุป

bgrim-and-true-group-join-forces-to-develop-digital-innovations-for-energy-sector_1

บี.กริม ผนึก กลุ่มทรู ประกาศความร่วมมือพัฒนานวัตกรรมดิจิทัลเพื่อธุรกิจพลังงาน

ทรู ดิจิทัล พาร์ค ประกาศร่วมมือกับ TechNode Global อย่างเป็นทางการ เปิดโอกาสเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างสตาร์ทอัพเทคโนโลยีในประเทศไทย จีน และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มากขึ้น รวมถึงร่วมพัฒนานวัตกรรมและเทคโนโลยีที่ก้าวล้ำเพื่อเสริมสร้างระบบนิเวศสำหรับสตาร์ทอัพ
ความร่วมมือนี้จะส่งเสริมการผสมผสานของนวัตกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทั่วไทย จีน และเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ และคาดว่าจะช่วยเพิ่มความร่วมมือระหว่างภูมิภาค เนื่องด้วยเครือข่ายและทรัพยากรมากมายในอุตสาหกรรมเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ทั้งสองฝ่ายมี
ในฐานะที่เราเป็นส่วนหนึ่งของความร่วมมือนี้ เราได้ร่วมเป็นเจ้าภาพในการจัดงาน "Building Connections and Capabilities Before You Land in the Thai Market" และใน session นี้ เราได้ร่วมแบ่งปันประสบการณ์ คำแนะนำ และแนวทางปฏิบัติที่ดีที่สุดในการขยายธุรกิจสู่ตลาดไทยที่มีความก้าวหน้าอย่างโดดเด่นในด้านสังคมและเศรษฐกิจ ไทยก้าวจากประเทศที่มีรายได้ต่ำสู่ประเทศที่มีรายได้สูงอย่างรวดเร็ว ทำให้กรุงเทพฯ กลายเป็นศูนย์กลางระดับภูมิภาคที่สำคัญสำหรับวงการสตาร์ทอัพ
ดร.ธาริต นิมมานวุฒิพงษ์ General Manager, True Digital Park กล่าวว่า “เรามีความยินดีอย่างยิ่งที่ได้เป็นพันธมิตรกับ TechNode Global ในการเสริมพละกำลังของทั้งสองเครือข่ายให้มีความกว้างขวางยิ่งขึ้น โดย True Digital Park เอง ตลอดระยะเวลาที่ผ่านมา เรามีความตั้งใจที่จะสร้างระบบนิเวศน์ที่สมบูรณ์ เพื่อดึงดูดทั้ง Startup, Talents และ VCs จากต่างประเทศ เข้ามาสู่ตลาดเมืองไทย เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้ เข้าถึงโครงสร้างพื้นฐาน และกลุ่มลูกค้าในภูมิภาค จึงหวังเป็นอย่างยิ่งว่าความร่วมมือนี้จะนำไปสู่การพัฒนาเศรษฐกิจดิจิทัลอย่างยั่งยืน”
ด้วยเครือข่ายที่กว้างขวางด้านนวัตกรรมระดับโลก TechNode ซึ่งตั้งอยู่ในประเทศจีนกลายเป็นศูนย์กลาง ecosystem ทางเทคโนโลยีสำหรับสตาร์ทอัพ บริษัทร่วมทุน อุตสาหกรรม และพันธมิตรองค์กร ในปี 2018 TechNode ได้ขยายธุรกิจย่อย: TN Media, TN Inno (บริการผู้ประกอบการนวัตกรรม), TN Global, TN Events (บริการสร้างแบรนด์และกิจกรรม), TN Data (ฐานข้อมูลสตาร์ทอัพ ecosystem) และ TN VC (บริการเงินทุนและการจัดหาเงินทุน) ด้วย การเริ่มดำเนินการเหล่านี้ TechNode Global สนับสนุนและเชื่อมต่อ ecosystem จีนกับส่วนอื่น ๆ ทั่วโลก
ความร่วมมือระหว่าง TechNode Global กับ True Digital Park สร้างจากจุดแข็งอย่างความรู้และเครือข่ายการเชื่อมต่อที่กว้างขวางทั่วทั้งจีนและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ Dr. GANG Lu ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ TechNode Group กล่าว “เราตั้งตารอที่จะได้ทำหน้าที่เป็นแพลตฟอร์มที่เชื่อถือได้สำหรับกิจกรรมและการประชุมระดับนานาชาติ เสริมด้วยสื่อของเราที่นำเสนอข่าวสารและข้อมูลอย่างทันท่วงที ตลอดจนเป็นตัวเชื่อมต่อสำหรับผู้ประกอบการ นักลงทุน บริษัท และหุ้นส่วนอื่นๆ ทั่วโลกในขณะที่เราก้าวเป็น Innovation Ecosystem ของภูมิภาค”
เกี่ยวกับทรู ดิจิทัล พาร์ค
ทรู ดิจิทัล พาร์คเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีและสตาร์ทอัพที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ครอบคลุมพื้นที่กว่า 200,000 ตร.ม. พื้นที่แห่งนี้เป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญในการพัฒนาระบบนิเวศสตาร์ทอัพและนวัตกรรมในประเทศไทย สตาร์ทอัพ ผู้ประกอบการ บริษัทเทคโนโลยี นักลงทุน โครงการบ่มเพาะ สถาบัน และหน่วยงานภาครัฐล้วนเชื่อมต่ออยู่ในภายใต้หลังคาเดียวกันในระบบนิเวศของเรา
เกี่ยวกับ TechNode Global
TechNode Global คือแพลตฟอร์มเทคโนโลยีแห่งเอเชียที่ให้บริการข่าวเกี่ยวกับเทคโนโลยีระดับพรีเมียม ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับอุตสาหกรรมเทคโนโลยี งานอีเวนต์ และโซลูชั่นทางการตลาดที่พัฒนาโดยเฉพาะสำหรับสตาร์ทอัพ ธุรกิจร่วมลงทุน บริษัทเอกชน และผู้บุกเบิกอุตสาหกรรม บริษัทมีเครือข่ายที่กว้างขวางในด้านนวัตกรรมและธุรกิจ โดยมีบทบาทในการส่งเสริมความสัมพันธ์และธุรกิจข้ามพรมแดน
เยี่ยมชมเว็บไซต์ของ TechNode Global ได้ที่ https://technode.global

true-digital-park-announces-strategic-partnership-with-technode-global

True Digital Park ประสานความร่วมมือ TechNode Global ร่วมสร้างโอกาสสำหรับสตาร์ทอัพไทยและต่างประเทศ สู่การขยายธุรกิจในภูมิภาค

<div class="kvgmc6g5 cxmmr5t8 oygrvhab hcukyx3x c1et5uql ii04i59q">
<h4 dir="auto">ลด 20% ‘แพ็คเกจ Hybrid Event’ จัดงานแบบออนกราวด์ผสานออนไลน์ ที่ ทรู ดิจิทัล พาร์ค รองรับอีเว้นท์ขนาดเล็กไปจนถึงอีเว้นท์ขนาดใหญ่ที่มีผู้เข้าร่วมงานจากทั่วทั้งมุมโลก ไม่ว่าจะสัมมนา เวิร์คช้อป หลักสูตรอบรม แสดงสินค้า แถลงข่าว</h4>
</div>
<div class="cxmmr5t8 oygrvhab hcukyx3x c1et5uql o9v6fnle ii04i59q">
<ul>
<li dir="auto">พื้นที่อีเว้นท์เลือกได้หลายรูปแบบ ตอบโจทย์ทุก function ทั้งห้อง workshop, townhall เล็ก-ใหญ่, และ auditorium เวที แสง สี เสียง พร้อม!</li>
<li dir="auto">สร้างประสบการณ์ออนไลน์ เพิ่มการเข้าถึงผู้ชมด้วย อุปกรณ์ Live Streaming แบบครบวงจร ทั้ง HD Camera/ Switcher/ Controller มาพร้อม ไม่ต้องมีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม</li>
<li dir="auto">ทีมโปรดักชั่นมืออาชีพ เจ้าหน้าที่เทคนิคและผู้ควบคุมดำเนินการ พร้อมให้บริการ</li>
<li dir="auto">5G อินเตอร์เน็ตความเร็วสูง ที่จะทำให้อีเว้นท์ของคุณดำเนินได้อย่างไม่สะดุด</li>
<li dir="auto">พื้นที่จัดงานอีเว้นท์ได้การรับรองจาก Thailand MICE Venue Standards และ ASEAN MICE Venue Standards เพื่อยืนยันมาตรฐานสถานที่จัดการจัดประชุม นิทรรศการ ทั้งระดับประเทศไทยและอาเซียน</li>
<li dir="auto">พร้อมมาตรการ TDPK Care รักษาุความปลอดภัยของผู้เข้าใช้พื้นที่ จุดตรวจ ATK สวมหน้ากากตลอดเวลา เว้นระยะห่าง เพื่อคุณ เพื่อเรา และมีการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อพื้นที่อย่างเข้มงวด</li>
</ul>
</div>
<div class="cxmmr5t8 oygrvhab hcukyx3x c1et5uql o9v6fnle ii04i59q">
<div dir="auto">พร้อมมาตรการ TDPK Care รักษาุความปลอดภัยของผู้เข้าใช้พื้นที่ จุดตรวจ ATK สวมหน้ากากตลอดเวลา เว้นระยะห่าง เพื่อคุณ เพื่อเรา และมีการทำความสะอาดและฆ่าเชื้อพื้นที่อย่างเข้มงวด</div>
</div>
<div class="cxmmr5t8 oygrvhab hcukyx3x c1et5uql o9v6fnle ii04i59q">
<div dir="auto">โปรโมชั่น เริ่มซื้อและใช้งานได้ วันนี้ - 31 มีนาคม 2565</div>
<div dir="auto"></div>
</div>
<div dir="auto"><img class="wp-image-2031 alignleft" src="https://morphosis-staging.s3.ap-southeast-1.amazonaws.com/wpuploads/Event-space_promotion__4.jpg" alt="" width="391" height="391" /><img class="wp-image-2032 alignleft" src="https://morphosis-staging.s3.ap-southeast-1.amazonaws.com/wpuploads/Event-space_promotion__3.jpg" alt="" width="391" height="391" /></div>
<div dir="auto"><img class="alignnone wp-image-2033" src="https://morphosis-staging.s3.ap-southeast-1.amazonaws.com/wpuploads/Event-space_promotion__2.jpg" alt="" width="384" height="384" /></div>
<div dir="auto"></div>
<div class="cxmmr5t8 oygrvhab hcukyx3x c1et5uql o9v6fnle ii04i59q">
<div dir="auto"></div>
</div>

%e0%b8%a5%e0%b8%94-20-%e0%b9%81%e0%b8%9e%e0%b9%87%e0%b8%84%e0%b9%80%e0%b8%81%e0%b8%88-hybrid-event-%e0%b8%88%e0%b8%b1%e0%b8%94%e0%b8%87%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b9%81%e0%b8%9a%e0%b8%9a-2

ลด 20% ‘แพ็คเกจ Hybrid Event’ จัดงานแบบออนกราวด์ผสานออนไลน์ ที่ ทรู ดิจิทัล พาร์ค

Microsoft ประกาศแผนซื้อกิจการ Activision Blizzard และถ้าสำเร็จ การซื้อนี้จะกลายเป็นหนึ่งในการเข้าซื้อกิจการที่ใหญ่ที่สุดในอุตสาหกรรมเทคโนโลยี! การซื้อกิจการนี้จะยกระดับ Microsoft ในอุตสาหกรรมเกม ซึ่งอาจช่วย Microsoft ทำตามเป้าหมายในการเป็นบริษัทเกมที่ใหญ่เป็นอันดับสาม รองจาก Tencent และ Sony ได้สำเร็จ
หลังจากประกาศของ Microsoft หุ้นของ Activision Blizzard พุ่งขึ้นมากกว่า 30% ทันที แต่การซื้อกิจการครั้งนี้อาจไม่ได้เป็นไปอย่างราบรื่น ปัญหาเกิดขึ้นเมื่อ Bobby Kotick ซีอีโอของ Activision Blizzard ยังคงทำหน้าที่ต่อไป ก่อนหน้านี้พนักงานของ Activision ได้หยุดงานประท้วงและเรียกร้องให้ Kotick ลาออก เขาถูกกล่าวหาว่ารับรู้ถึงปัญหาการล่วงละเมิดและการเลือกปฏิบัติที่บริษัทมานานหลายปี แต่เพิกเฉยมาตลอด มากไปกว่านั้น กรมการจ้างงานและการเคหะที่เป็นธรรมแห่งแคลิฟอร์เนียได้ฟ้อง Activision Blizzard โดยกล่าวหาว่าพนักงานหญิงถูกเลือกปฏิบัติ ล่วงละเมิดทางเพศ และได้รับค่าจ้างที่ไม่เท่าเทียมจากวัฒนธรรม frat boy
ขณะเดียวกัน สัตยา นาเดลลา CEO ของ Microsoft เน้นย้ำถึงความหลากหลายและการไม่แบ่งแยก เขากล่าวว่า “เราเชื่อว่าความสำเร็จและอิสระต้องเกิดขึ้นควบคู่กับการปฏิบัติต่อทุกคนอย่างมีศักดิ์ศรีและความเคารพ” นอกจากนี้ ฟิล สเปนเซอร์ CEO ของ Microsoft Gaming กล่าวในแถลงการณ์ว่า "เราตั้งตารอที่จะขยายวัฒนธรรมที่เน้นย้ำความเท่าเทียมของเราไปสู่ทีม Activision Blizzard"
การเล่นเกมได้กลายเป็นจุดโฟกัสหลักของ Microsoft ในช่วงปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อการแพร่ระบาดของ COVID-19 ทำให้ผู้คนต้องอยู่บ้านและเล่นเกมมากขึ้น ทำให้รายรับจากการเล่นเกมของ Microsoft ทะลุ 5 พันล้านดอลลาร์เป็นครั้งแรกในเดือนมกราคม 2564 การเข้าซื้อสตูดิโอเกมทั่วโลกและการเพิ่มเกมของ Activision Blizzard ที่มีผู้ใช้งานรายเดือนเกือบ 400 ล้านคน จะช่วยส่งเสริมธุรกิจเกมของ Microsoft โดยบริษัทหวังที่จะผลักดัน Xbox เข้าสู่โทรศัพท์ แท็บเล็ต แล็ปท็อป และอุปกรณ์อื่นๆ นอกจากนี้ เกมยอดนิยมจาก Activision อย่าง "Candy Crush" จะช่วยยกระดับตำแหน่งของ Microsoft ในตลาดเกมมือถือด้วย
Satya Nadella ซีอีโอของ Microsoft กล่าวว่า "ในปัจจุบันการเล่นเกมเป็นสื่อที่มีไดนามิคและน่าตื่นเต้นที่สุดในทุกแพลตฟอร์ม และจะมีบทบาทสำคัญในการพัฒนา metaverse"
ข้อตกลงซื้อกิจการอาจต้องเผชิญกับการพิจารณาอย่างถี่ถ้วนทั้งในสหรัฐอเมริกาและต่างประเทศจากทั้งฝ่ายนิติบัญญัติและหน่วยงานกำกับดูแล ซึ่งมุ่งเน้นไปที่ข้อกังวลเกี่ยวกับการต่อต้านการผูกขาดในอุตสาหกรรมบิ๊กเทค และแม้ว่าปัจจุบัน Microsoft จะได้รับความสนใจน้อยกว่าบริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่อย่าง Facebook, Apple, Amazon และ Google แต่ Microsoft อาจกลับมาได้รับความสนใจอย่างล้นหลามอีกครั้งและกลายเป็นผู้เล่นที่น่ากลัวในอุตสาหกรรมเกมจากการซื้อกิจการครั้งนี้นั่นเอง

microsoft-%e0%b9%80%e0%b8%82%e0%b9%89%e0%b8%b2%e0%b8%8b%e0%b8%b7%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%81%e0%b8%b4%e0%b8%88%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3-activision-blizzard-%e0%b8%a1%e0%b8%b9%e0%b8%a5%e0%b8%84-2_1

Microsoft เข้าซื้อกิจการ Activision Blizzard มูลค่า 68.7 พันล้านดอลลาร์

ทรู ดิจิทัล พาร์ค คว้ารางวัลสุดยอดสตาร์ทอัพคอมมูนิตี้และสถานที่ทำงานสำหรับคนรุ่นใหม่ การันตีด้วยรางวัลระดับอาเซียน 2 ปีซ้อน 
ตอกย้ำการเป็น ศูนย์การเทคและสตาร์ทอัพที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน ด้วย รางวัล Best Community Builder ทั้งปี 2020 และ 2021 จากเวที ORIGIN Innovation Awards และควบอีกหนึ่งรางวัล ในฐานะ Best Co-working Space จากเวที ASEAN Startup Awards สะท้อนให้เห็นถึงความมุ่งมั่นของ ทรู ดิจิทัล พาร์ค ในการส่งเสริมการสร้างนวัตกรรมและธุรกิจสตาร์ทอัพให้แข่งขันได้อย่างเต็มศักยภาพ ขอบคุณทุกแรงสนับสนุนและมุ่งมั่นที่จะพัฒนาต่อไป
เพื่อตอบแทนและรักษาความเชื่อมั่นนี้ ทรู ดิจิทัล พาร์ค ได้ตั้งเป้ายกระดับอุตสาหกรรม Tech และ Startup ไทยให้เติบโตทัดเทียมนานาประเทศ โดยเตรียมพร้อมเดินหน้าต่อ ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนาสถานที่และบริการให้ครอบคลุมยิ่งขึ้น และสนับสนุนให้ผู้ประกอบการทั้งขนาดเล็ก ขนาดกลาง และ พันธมิตรขนาดใหญ่ทุกรายเติบโตขึ้นอย่างต่อเนื่อง จากการเปิดพื้นที่ให้เกิดการแบ่งปันและสร้างสรรค์องค์ความรู้ระหว่างผู้ประกอบการทุกรายใน Ecosystem

true-digital-park-wins-the-best-community-builder-award-for-two-consecutive-years-from-the-origin-innovation-awards_1

ทรู ดิจิทัล พาร์ค คว้ารางวัล Best Community Builder 2 ปีซ้อนจาก ORIGIN Innovation Awards

Carsome Group (Carsome) Unicorn startup แห่งมาเลเซีย แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซสำหรับรถยนต์แบบครบวงจรที่ใหญ่ที่สุดในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้  ได้ประกาศลงทุนรอบซีรีย์ E ซึ่งมีมูลค่ากว่า 290 ล้านดอลลาร์สหรัฐฯ หรือประมาณ 9.7 พันล้านบาท โดยการลงทุนในครั้งนี้ได้ช่วยเพิ่มมูลค่าของบริษัทให้สูงถึง 1.7 พันล้านดอลลาร์สหรัฐ และจะช่วยส่งเสริมให้ Carsome ในฐานะแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซชั้นนำสำหรับรถยนต์ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้มีความแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น
การระดมทุนรอบล่าสุด นำโดย Qatar Investment Authority (QIA), 65 Equity Partners (65EP) และ Seatown Private Capital Master Fund (Seatown) นอกจากนี้ยังมีส่วนร่วมจากนักลงทุนที่แข็งแกร่งอย่าง Mediatek, Sunway, Gokongwei Group, YTL Group และ Taiwan Mobile ด้วย
Carsome วางแผนที่จะใช้เงินที่ได้รับจากการจัดหาเงินทุนรอบนี้เร่งลงทุนในด้านบุคลากร ผลิตภัณฑ์ เทคโนโลยี ความสามารถในการเก็บข้อมูล โครงสร้างพื้นฐาน และการขยายแบรนด์ค้าปลีก Carsome Certified ในตลาดสำคัญ ๆ ของหลายประเทศในระดับภูมิภาค อย่าง มาเลเซีย อินโดนีเซีย รวมถึงประเทศไทย

malaysian-unicorn-carsome-raises-us290-million-series-e-round_1

Carsome ได้รับเงินระดมทุน 290 ล้านเหรียญสหรัฐ ในรอบ Series E

จากการคัดเลือกผู้เข้ารอบทั้งหมด 15 ทีม ผ่านบททดสอบการแข่งขันแก้โจทย์ปัญหาขยะล้นเมือง จนเหลือ 8 คนสุดท้าย เป็นสุดยอดทีมทำงานตัวแทนคนรุ่นใหม่ใส่ใจสิ่งแวดล้อมในโครงการ dEXponential Sandbox ภายใต้ความร่วมมือระหว่าง PTT Global Chemical หรือ GC ที่มุ่งมั่นในการเป็นต้นแบบเรื่องความยั่งยืนและนำหลักเศรษฐกิจหมุนเวียนมาใช้ในการบริหารองค์กรและเศรษฐกิจ และ ทรู ดิจิทัล พาร์ค ศูนย์กลางเทคและสตาร์ทอัพที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน
ในโครงการนี้ เป็นการรวบรวมทีมทำงานเยาวชนทั้ง 8 คน ที่มีความถนัดความเชี่ยวชาญที่แตกต่างกันในแต่ละสาขา ไม่ว่าจะเป็น ด้านดีไซน์ โปรแกรมเมอร์ และนักพัฒนาธุรกิจ กว่า 5 เดือนในการระดมความคิดต่อยอดไอเดียในการนำขวดพลาสติกที่ใช้แล้ว มาเข้าระบบแยกขยะ ผสานนวัตกรรมสร้างสรรค์โซลูชั่นใหม่เพื่อพัฒนากระบวนการแปรรูปพลาสติก และสร้างมูลค่าเพิ่มเป็นผลิตภัณฑ์ใหม่ เพื่อการเปลี่ยนแปลงสู่โลกอนาคตที่ดีกว่าเดิม โดยเริ่มตั้งแต่วิเคราะห์ถึงปัญหาผ่านการค้นคว้าเชิงลึก และลงพื้นที่สัมภาษณ์ผู้เกี่ยวข้องตั้งแต่ ผู้บริโภค ผู้ใช้งานระดับปฏิบัติงาน เช่นซาเล้งไปจนถึงระดับผู้บริหาร จากนั้นได้นำข้อมูลที่ได้รับมาพัฒนาเป็นไอเดียธุรกิจใหม่ ในทุกสัปดาห์ไอเดียเหล่านั้นจะถูกตั้งคำถามเพื่อได้รับคำแนะนำจากเหล่า Mentor มากประสบการณ์จากวงการรีไซเคิลและวงการสตาร์ทอัพ คุณโบ๊ท ไผท ผดุงถิ่น - CEO &amp; Evangelist จาก Builk Group One ผู้พลิกโฉมวงการก่อสร้าง / คุณแหม่ม มยุรี อรุณวรานนท์ คุณโดม บุญญานุรักษ์ และ คุณโตน ศศิน ถวิลประวัติ CEO และผู้บริหารจาก GEPP แพลตฟอร์มที่ทำให้การจัดการขยะเป็นเรื่องใกล้ตัว / NESTOR SANCHEZ - CTO  จาก Space Next Door ผู้เชี่ยวชาญด้าน PRODUCT DISCOVERY &amp; DEVELOPMENT
ผลลัพธ์ที่ได้จากโปรแกรมนี้ คือไอเดียพัฒนาจุดรับขยะพลาสติก ให้สามารถเข้าถึงประชาชน ไม่ว่าจะเป็นผู้ให้ หรือผู้รับ และยังสามารถลดต้นทุนการพัฒนาจุด Drop Point ให้ถูกลงกว่า 1,000%  โดยนอกเหนือจากการนำเสนอไอเดียแล้ว ทางทีมน้องๆ ทั้ง 8 คน ได้ทำการทดลองใช้งาน Prototype ที่ตึก ทรู ดิจิทัล พาร์ค และบริเวณสำนักงานใหญ่ บริษัท Shippop อนุสาวรีย์ เป็นเวลา 2 สัปดาห์ ซึ่งได้รับการตอบรับจากผู้ใช้จริงเป็นอย่างดี และได้นำเสนอผลลัพธ์ แลกเปลี่ยนประสบการณ์ที่เกิดขึ้นตลอดระยะเวลาการทำโครงการ แก่ผู้บริหารจาก GC ในวันที่ 3 ธันวาคม 2564 ที่ผ่านมา นอกจากนี้ น้องๆ ยังได้มีโอกาสนำเสนอแผนธุรกิจใหม่ที่จะช่วยสร้างโอกาสและต่อยอดพัฒนาเป็นธุรกิจ ตามแนวคิด Circular Economy อีกด้วย
<img class="wp-image-1943 alignleft" src="https://morphosis-staging.s3.ap-southeast-1.amazonaws.com/wpuploads/Webp.net-resizeimage-1.jpg" alt="" width="467" height="313" /><img class="alignnone wp-image-1944" src="https://morphosis-staging.s3.ap-southeast-1.amazonaws.com/wpuploads/Webp.net-resizeimage.jpg" alt="" width="469" height="288" />
“ปีนี้ เป็นปีแรกที่ทางทีม Digital Transformation ได้เริ่มทดลองกระบวนการ dEXponential โดยใช้คอนเซปของ External Incubation ซึ่งเป็นการดึงแนวคิดการพัฒนาธุรกิจแบบสตาร์ทอัพผ่านการบ่มหาไอเดียใหม่ๆ จาก Expert ภายนอกองค์กร ที่มีประสบการณ์ในด้านต่างๆ โดยเน้นเข้ามาช่วยพัฒนาต่อยอด Digital Use Case ของเราเพื่อให้เห็นโอกาสใหม่ๆ มุมมองใหม่ๆ ที่จะสามารถนำมาปรับใช้ในการต่อยอดในอนาคต รวมถึงช่วยส่งมอบผลลัพธ์ได้รวดเร็วมากยิ่งขึ้นอีกด้วย ซึ่งกระบวนการนี้ถือว่าเป็นจุดเริ่มต้นที่ดีที่จะนำผลลัพธ์มายกระดับ การบริหารจัดการ Digital Use Case ของ GC ต่อไปในอนาคต”
คุณฉัตรสุดา กาญจนรัตน์ Senior Vice President, Transformation Excellence, GC
“โครงการ dEXponential ถือเป็นจุดเริ่มเต้นที่เราเปิดโอกาสให้คนรุ่นใหม่ที่สนใจรักษ์สิ่งแวดล้อม เข้ามามีส่วนร่วมในการแก้ไขปัญหาการจัดการขยะพลาสติก ทำให้เราได้มีโอกาสเห็นมุมมองของคนรุ่นใหม่ รวมถึงได้รับการสนับสนุนจาก Mentor ที่มีความเชี่ยวชาญในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Recycle และ Business ทำให้เกิดเป็นไอเดียที่จะสามารถมาผลักดัน ต่อยอดในโครงการ YOUเทิร์น ได้ในอนาคต ในฐานะ Project Owner ผมมองเป็นโครงการที่มีประโยชน์มากๆ ครับ”
คุณณัฐกร ไกรกุล Vice President, Circular Economy, GC
#dEXponentialSandBox #GCChemistryforBetterLiving #GCCircularLiving # YOUเทิร์นเริ่มต้นที่ยู #TrueDigitalPark #TDPKSandbox

%e0%b8%aa%e0%b8%b8%e0%b8%94%e0%b8%a2%e0%b8%ad%e0%b8%94%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b8%a1%e0%b8%97%e0%b8%b3%e0%b8%87%e0%b8%b2%e0%b8%99%e0%b8%95%e0%b8%b1%e0%b8%a7%e0%b9%81%e0%b8%97%e0%b8%99%e0%b8%84%e0%b8%99_1

สุดยอดทีมทำงานตัวแทนคนรุ่นใหม่ใส่ใจสิ่งแวดล้อม กับผลลัพธ์การแก้ปัญหาขยะพลาสติก ในโครงการ dEXponential Sandbox

<div class="page" title="Page 1">
<div class="layoutArea">
<div class="column">
ภายใต้บริษัท SYNQA จากประเทศสิงคโปร์ ผู้นำด้าน Fintech มุ่งมั่นให้บริการด้านการเงินด้วยเทคโนโลยีได้ประกาศเปิดให้บริการโซลูชันใหม่อย่าง Opn.Tag ในประเทศไทย โดยมีเป้าหมายที่จะส่งเสริมและพัฒนาการใช้ระบบดิจิทัลในอุตสาหกรรม อาหารและเครื่องดื่ม รวมถึงอุตสาหกรรมการบริการด้วยเช่นกัน ด้วยการนำเทคโนโลยี NFC (near-field communication) เพื่อสร้างการให้บริการไร้สัมผัสอย่างครบวงจร
Opn.Tag เป็นตัวแท็กที่ผสานเข้ากับเทคโนโลยี NFC เพื่อให้เชื่อมต่อทุกอย่างเข้ากับโลกดิจิทัลได้อย่างง่ายดายเพียงแค่นำสมาร์ตโฟนแตะลงบนแท็ก ก็จะพบกับข้อมูลเกี่ยวกับสินค้าและบริการได้อย่างง่ายดาย ช่วยให้อุตสาหกรรมอาหารและเครื่องดื่ม และอุตสาหกรรมการบริการสามารถสร้างประสบการณ์ใหม่ให้กับลูกค้าในการเข้าถึงข้อมูลต่าง ๆ ได้อย่างไร้รอยต่อ ไร้ขีดจำกัด ไม่ว่าจะเป็นการแสดงเมนูอาหาร แสดงเมนูให้บริการภายในห้องพัก การชำระเงินค่าสินค้าและบริการ จนไปถึงการแสดงโปรโมชันและข้อมูลอื่น ๆ
นาย Jun Hasegawa ผู้ก่อตั้งและผู้บริหารของบริษัท Opn ได้กล่าวว่า การระบาดใหญ่ของไวรัสโควิด-19 ที่ผ่านมานั้นถือว่าเป็นหนึ่งในสิ่งทำให้เกิดการนำเทคโนโลยีอย่าง Opn.Tag ถูกเลือกใช้มากยิ่งขึ้น ในช่วงระยะเวลา 2 ปีที่ผ่านมา ธุรกิจและผู้บริโภคในประเทศไทยเกิดความคุ้นชินกับการใช้จ่าย
แบบไร้เงินสดมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงการสั่งอาหารเดลิเวอรีแบบไร้สัมผัสและการสั่งอาหารผ่าน QR Code แทนเล่มเมนูก็กลายมาเป็นสิ่งที่พบเห็นได้ทั่วไปในสถานประกอบการส่วนมาก เราเห็นโอกาสที่มีตรงนี้ และพัฒนาเทคโนโลยีที่จะมาช่วยเพิ่มศักยภาพในการใช้ให้มากยิ่งขึ้นเท่านั้นเอง”
สำหรับการเปิดตัวของ Opn.Tag ในประเทศไทยนั้น ทางบริษัท Opn จึงเปิดโอกาสให้เจ้าของธุรกิจร้านอาหาร เครื่องดื่มและธุรกิจบริการต่าว ๆ ได้เข้าร่วมลงทะเบียนเพื่อรับข่าวสารเพิ่มเติมจาก Opn.Tag พร้อมรับการแจ้งเตือนเกี่ยวกับการลงทะเบียนเพื่อเริ่มต้นใช้งานในขั้นตอนถัดไปด้วยการกรอกข้อมูลของคุณโดยการคลิกที่นี่ อีกทั้ง Opn ยังจะทำการคัดเลือก 50 ธุรกิจที่มีความหลากหลายและน่าสนใจให้เป็น “Pilot Merchants” เพื่อทดลองใช้บริการฟรีเป็นเวลา 1 ปีเต็ม อย่างในปัจจุบันที่มีสถานประกอบการณ์ในกรุงเทพฯ อย่าง “OOOBKK” และ “Factory Coffee” ที่ได้รับสิทธิพิเศษนี่แล้ว
คุณสามารถอ่านรายละเอียดและข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ Opn และ Opn.Tagได้ที่ <a href="https://www.opn.ooo/tag">https://www.opn.ooo/tag</a>.
</div>
</div>
</div>

opn-tag-launches-in-bangkok-for-the-food-beverage-and-hospitality-industries

Opn.Tag เทคโนโลยีใหม่แห่งการบริการและการจ่ายเงินไร้สัมผัส เปิดให้เริ่มลงทะเบียนแล้วในกรุงเทพฯ สำหรับธุรกิจร้านอาหาร เครื่องดื่มและโรงแรม

บัวหลวงเวนเจอร์ส ผนึก WHA Group ร่วมเป็นผู้ลงทุนหลักรอบ Series B ของ ‘GIZTIX’ สตาร์ทอัพสัญชาติไทย ผู้ให้บริการแพลตฟอร์มดิจิทัลด้าน e-Logistics วงเงินระดมทุนราว 260 ล้านบาท เร่งเครื่องพัฒนาบริการ-เทคโนโลยีด้านขนส่งสำหรับธุรกิจอย่างครบวงจร ครอบคลุมทุกพื้นที่ทั่วประเทศ พร้อมหนุนผู้ประกอบการขนส่งเข้าสู่แพลตฟอร์มดิจิทัล เล็งปักธงจุดยุทธศาสตร์สำคัญของไทยในฐานะศูนย์กลางภูมิภาค
บัวหลวงเวนเจอร์ส ซึ่งเป็นบริษัทร่วมลงทุนของธนาคารกรุงเทพ ผนึกกำลัง ดับบลิวเอชเอ เวนเจอร์ โฮลดิ้ง ในเครือ WHA Group ร่วมประกาศเป็นผู้ลงทุนหลักรอบ Series B ให้กับ GIZTIX สตาร์ทอัพชั้นนำด้าน e-Logistic ซึ่งเป็นผู้ให้บริการแพลตฟอร์มดิจิทัล ที่เชื่อมต่อระหว่างผู้ประกอบการด้านขนส่งและโลจิสติกส์ กับผู้ใช้บริการจากทั่วประเทศ การระดมทุนในรอบนี้มีมูลค่ารวม 7.75 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 260 ล้านบาท ซึ่งบัวหลวงเวนเจอร์ส และ WHA Group จะร่วมลงทุนฝ่ายละ 3 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือราว 100 ล้านบาท การระดมทุนรอบ Series B ยังมีนักลงทุนสถาบันชั้นนำในวงการ Startup ร่วมลงทุนด้วย ได้แก่ Addventures by SCG, KK Fund และ CAC Capital โดย GIZTIX มีแผนนำเงินดังกล่าวไปพัฒนาบริการและเทคโนโลยี สำหรับการขนส่งเพื่อธุรกิจให้ครบวงจร รวมถึงขยายพื้นที่บริการให้ครอบคลุมมากยิ่งขึ้น และลดต้นทุนการขนส่งให้ได้มากที่สุด
นายกฤษณ์ พันธ์รัตนมาลา กรรมการผู้จัดการ บริษัท บัวหลวงเวนเจอร์ส จำกัด กล่าวว่า การลงทุนในครั้งนี้นอกจากจะเป็นการร่วมลงทุนในบริษัท GIZTIX ที่มีศักยภาพและความเชี่ยวชาญในโลจิสติกส์แล้ว ยังเป็นความร่วมมือด้านการลงทุนจาก บัวหลวงเวนเจอร์ส ในฐานะ Financial Partner และ WHA Group ในฐานะ Strategic Partner ที่จะมาช่วยผลักดันให้สตาร์ทอัพไทย สามารถเติบโตและแข่งขันในอุตสาหกรรมทั้งในไทยและต่างประเทศ โดยบัวหลวงเวนเจอร์ส ในฐานะบริษัทในเครือของธนาคารกรุงเทพ ที่มีความเชี่ยวชาญด้านการเงิน พร้อมนำเสนอเทคโนโลยีด้านการเงิน หรือ FinTech เข้ามาเติมเต็มให้ระบบการให้บริการผ่านแพลตฟอร์มของ GIZTIX มีความครบถ้วนมากยิ่งขึ้น เช่น บริการสินเชื่อส่วนบุคคลสำหรับพนักงานขับรถขนส่งที่อยู่ในระบบบริษัท บริการสินเชื่อหมุนเวียนสำหรับผู้ประกอบการที่เป็นสมาชิก รวมถึงการนำข้อมูลด้านการชำระเงินมาวิเคราะห์และพัฒนาเป็นโซลูชันเพิ่มเติมในอนาคต ถือเป็นการเพิ่มโอกาสในการเข้าถึงบริการทางการเงินให้กับผู้ใช้บริการแพลตฟอร์ม และเสริมสร้างศักยภาพในการแข่งขันให้กับผู้ให้บริการขนส่งรายย่อย รวมถึงเพิ่มความสามารถในการตอบสนองต่อความต้องการของตลาดอีคอมเมิร์ซต่อไปในอนาคต
“เราเล็งเห็นถึงแนวโน้มการเติบโตที่ดีของกลุ่มธุรกิจอีคอมเมิร์ซ รวมถึงธุรกิจที่เกี่ยวเนื่อง เช่น กลุ่มอุตสาหกรรมโลจิสติกส์ ประกอบกับพฤติกรรมของผู้บริโภคมีความต้องการเลือกใช้งานจากผู้ให้บริการขนส่งต่าง ๆ อย่างแพร่หลาย เราจึงมั่นใจว่าการลงทุนครั้งนี้ จะช่วยสนับสนุนการเติบโตของห่วงโซ่อุปทานได้ทั้งระบบ ตั้งแต่ผู้ประกอบการขายสินค้า ผู้ให้บริการขนส่ง รวมถึงลูกค้าที่ซื้อสินค้า ซึ่งทุกคนจะได้รับบริการด้านขนส่งที่มีประสิทธิภาพจากการนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วยบริหารจัดการ ควบคุมต้นทุนและระยะเวลาในการขนส่งได้เป็นอย่างดี ภายใต้ระบบงานของ GIZTIX ที่กำลังจะถูกพัฒนาให้มีศักยภาพการบริการเพิ่มขึ้นจากเงินลงทุนในครั้งนี้” นายกฤษณ์ กล่าว
นางสาวจรีพร จารุกรสกุล ประธานคณะกรรมการบริษัท และประธานเจ้าหน้าที่บริหารกลุ่ม บริษัท ดับบลิวเอชเอ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า WHA Group  มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้เป็นผู้ร่วมลงทุนหลักในการระดมทุนรอบ Series B ครั้งนี้ การจับมือเป็นพันธมิตรกับ บัวหลวงเวนเจอร์ส และ GIZTIX นับเป็นความร่วมมือครั้งสำคัญ และสอดคล้องกับยุทธศาสตร์ Digital Innovation and Transformation ของ WHA Group ที่มุ่งนำเทคโนโลยีและนวัตกรรมสมัยใหม่มาประยุกต์ต่อยอดผลิตภัณฑ์และบริการแบบครบวงจรร่วมกับพันธมิตรทางธุรกิจและบริษัทสตาร์ทอัพ เพื่อตอบสนองความต้องการใหม่ๆ ที่เกิดขึ้นตามการเปลี่ยนแปลงของเมกะเทรนด์ ตลอดจนการสร้างมูลค่าและคุณภาพที่มากยิ่งขึ้นให้แก่ผลิตภัณฑ์และการให้บริการของ WHA Group ไม่ว่าจะเป็นการพัฒนา Smart Warehouse ที่ทันสมัยและได้มาตรฐานเหมือนต่างประเทศ โดยการนำหุ่นยนต์และระบบอัตโนมัติเข้ามาปรับใช้ร่วมกับเทคโนโลยี 5G หรือ Smart Logistics ที่มุ่งสนับสนุนให้ผู้ประกอบการจัดเก็บและนำข้อมูลมาใช้วิเคราะห์เชิงลึก เพื่อใช้ประโยชน์ทางธุรกิจ พร้อมทั้งต่อยอดผ่าน AI และ Machine Learning ที่จะช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ และลดต้นทุนการดำเนินงานในระยะยาว
“ในฐานะผู้นำการให้บริการแบบครบวงจรด้านโลจิสติกส์ นิคมอุตสาหกรรม และสาธารณูปโภคของประเทศไทย WHA Group พร้อมจะนำความเชี่ยวชาญ และ Ecosystem ของ 4 ธุรกิจหลัก ตลอดจนความสัมพันธ์อันดีกับลูกค้าและผู้ประกอบการกลุ่มอุตสาหกรรม E-Commerce และโลจิสติกส์ทั้งสัญชาติไทยและต่างชาติ มาผนึกกำลังร่วมกับ บัวหลวงเวนเจอร์ส และ GIZTIX เพื่อสนับสนุนการเติบโตของผู้ประกอบการชาวไทย ลดต้นทุนโลจิสติกส์ และเสริมสร้างความสามารถในการแข่งขันของประเทศไทย โดยในอีก 2-3 ปีข้างหน้า WHA Group ยังคงมองหาโอกาสในการลงทุนใหม่ๆ ร่วมกับพันธมิตรชั้นนำเพื่อขยายธุรกิจ และสร้างการเติบโตทั้งภายในประเทศและก้าวไปสู่ระดับภูมิภาคอย่างยั่งยืน” นางสาวจรีพร กล่าว
นายสิทธิศักดิ์ วงศ์สมนึก ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง GIZTIX หรือ บริษัท จิซทิกซ์ จำกัด กล่าวว่า เงินลงทุนที่ได้รับจากการระดมทุน Series B ดังกล่าว จะนำไปใช้พัฒนาธุรกิจ 4 ด้าน คือ 1.) พัฒนาบริการและเทคโนโลยีสำหรับการขนส่งเพื่อธุรกิจให้ครบวงจรมากยิ่งขึ้น โดยเฉพาะการก้าวสู่การใช้เทคโนโลยีระดับสูงที่มีความซับซ้อน 2.) ขยายเครือข่ายและพื้นที่บริการขนส่งให้ครอบคลุมทั้งประเทศด้วยระบบ e-Logistics โดยเฉพาะในจุดยุทธศาสตร์สำหรับการขนส่งทางถนน 3.) ลงทุนด้านการตลาดและการขาย ช่วยกระจายรายได้สู่ผู้ประกอบการขนส่งในทุกจังหวัด และ 4.) ลงทุนด้านการบริหารและเทคโนโลยีเพื่อรักษาความสามารถทำกำไรควบคู่กับการขยายธุรกิจ และเตรียมพร้อมเข้าสู่การจดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์ในปี 2568 หรือใน 4 ปีข้างหน้า
แม้ปัจจุบันอุตสาหกรรมโลจิสติกส์กำลังอยู่ในภาวะแข่งขันสูง เนื่องจากมีผู้ประกอบการรายใหญ่จากต่างชาติเข้ามาจำนวนมาก แต่ด้วยจุดแข็งของ GIZTIX ที่เลือกโฟกัสกลุ่มลูกค้าธุรกิจ และสินค้าขนาดใหญ่เป็นหลัก ซึ่งมีการแข่งขันน้อยกว่า รวมถึงบริการแบบครบวงจรที่ออกแบบมาสำหรับลูกค้าธุรกิจโดยเฉพาะ มีเทคโนโลยีเข้ามาสนับสนุนในทุกกระบวนการทำงาน จึงยังคงได้รับความไว้วางใจจากลูกค้าอย่างต่อเนื่อง โดยในปี 2563-2564 สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ได้กระตุ้นให้ภาคธุรกิจหันมาใช้บริการผ่านระบบออนไลน์มากขึ้น จนมีจำนวนเที่ยวขนส่งที่บริหารผ่านแพลตฟอร์ม GIZTIX มากกว่า 500,000 เที่ยวต่อปี กำไรเติบโตขึ้นกว่า 420%
“ธุรกิจการขนส่งทางถนนในประเทศไทยที่มีมูลค่ากว่า 19,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐต่อปี มีโอกาสเติบโตขึ้นได้อีกมหาศาล รวมถึงประเทศไทยยังเป็นจุดยุทธศาสตร์ด้านคมนาคมและโลจิสติกส์ของภูมิภาค แต่ขณะเดียวกัน ภาคธุรกิจขนส่งส่วนใหญ่ยังขาดระบบดิจิทัลที่จะเป็นส่วนสำคัญในการเชื่อมต่อข้อมูลและสื่อสารแบบ Real-time นี่จึงเป็นโอกาสสำคัญของ GIZTIX ที่จะนำเทคโนโลยีดิจิทัลเข้ามาช่วยพัฒนาธุรกิจในไทยที่จะสอดคล้องไปกับแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาระบบขนส่งและโลจิสติกส์ของไทยในอนาคต” ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง GIZTIX กล่าว

bualuang-ventures-joins-wha-group-to-become-the-main-investor-in-the-series-b-funding-round-of-giztix_1

GIZTIX คว้าเงินระดมทุน Series B 260 ล้านบาท จากบัวหลวงเวนเจอร์ส และ WHA Group

ล่าสุดเอสซีบี เท็นเอกซ์ประกาศเป็นหนึ่งในผู้ร่วมลงทุนในการระดมทุนรอบ Series B ของ MyCloudFulfillment ผู้ให้บริการคลังสินค้าออนไลน์ชั้นนำของประเทศไทย ร่วมกับ JWD ผู้เชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์และซัพพลายเชนระดับอาเซียน ตอกย้ำความมุ่งมั่นในการวางรากฐานด้านระบบนิเวศทางเทคโนโลยีที่แข็งแกร่งในทุกมิติให้กับสังคมไทยที่จะช่วยให้สตาร์ทอัพไทยสามารถแข่งขันและเติบโตได้ในระดับภูมิภาคอย่างแข็งแกร่ง 
 
นางมุขยา พานิช Chief Venture and Investment Officer บริษัท เอสซีบี เท็นเอกซ์ จำกัด (SCB 10X) กล่าวว่า “SCB 10X มีความยินดีและตื่นเต้นเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมเป็นหนึ่งในผู้ลงทุนของ MyCloudFulfillment สตาร์ทอัพชั้นนำที่ให้บริการด้านคลังสินค้าออนไลน์ครบวงจรของประเทศไทย ตั้งแต่การระดมทุนในรอบ Series A เมื่อปีที่ผ่านมา โดยเรายังคงให้การสนับสนุนต่อเนื่องในการระดมทุนรอบ Series B ร่วมกับ JWD ผู้เชี่ยวชาญด้านโลจิสติกส์และซัพพลายเชนระดับอาเซียน และจากสถานการณ์โควิด-19 เราพบว่าพฤติกรรมของผู้บริโภคเปลี่ยนแปลงอย่างรวดเร็ว มีการนำเอาดิจิทัลเทคโนโลยีเข้ามาผสานกับไลฟ์สไตล์การใช้ชีวิตในปัจจุบัน รวมถึงการนำมาปรับใช้ในเรื่อง Digital Transformation ขององค์กรต่าง ๆ อีกด้วย โดยในช่วงสองปีที่ผ่านมาเราเห็นถึงการเพิ่มขึ้นของโซเชียลคอมเมิร์ซและอีคอมเมิร์ซในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้อย่างรวดเร็ว เนื่องจากผู้คนหันมาใช้บริการออนไลน์กันมากขึ้น ดังนั้น สตาร์ทอัพที่สามารถให้บริการด้าน fulfillment และโลจิสติกส์ จะยังคงได้รับประโยชน์อย่างมากจากการเติบโตนี้”
&nbsp;
“MyCloudFulfillment ผู้ให้บริการคลังสินค้าออนไลน์ครบวงจรแบบไร้รอยต่อ ด้วยบริการที่ครอบคลุมด้านคลังจัดเก็บสินค้า แพ็คสินค้า การสั่งซื้อแพ็กเกจจิ้ง และจัดส่งสินค้าให้กับธุรกิจโซเชียลคอมเมิร์ซ อีคอมเมิร์ซ และ Omnichannel จะเป็นตัวขับเคลื่อนสำคัญของโซเชียลคอมเมิร์ซและอีคอมเมิร์ซในปัจจุบัน นอกจากการสนับสนุนผ่านการลงทุนในการระดมทุนรอบ Series B แล้ว เรายังคงมีแผนในการพัฒนาโซลูชันต่าง ๆ ร่วมกัน เพื่อให้สามารถตอบโจทย์ด้านโซเชียลคอมเมิร์ซในอนาคต เพื่อสร้างประสบการณ์ที่ดีให้กับผู้ประกอบการรวมถึงลูกค้าอีกด้วย” นางมุขยา กล่าวเสริม
&nbsp;
นายนิธิ สัจจทิพวรรณ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร และผู้ร่วมก่อตั้ง MyCloudFulfillment หรือ บริษัท อี-เอ็มพาวเวอร์เมนท์ จำกัด กล่าวว่า “MyCloudFulfillment เป็นคลังสินค้าออนไลน์ที่เหมาะที่สุดสำหรับร้านที่ขายของหลายช่องทาง เราเชื่อมต่อกับช่องทางการขายต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Marketplace, Website CMS, Live commerce และ อื่น ๆ  นอกจากการเชื่อมต่อ API แล้ว ระบบของเรายังมีฟีเจอร์ต่าง ๆ สำหรับช่วยการขายให้เป็นไปตามอัตโนมัติ เช่น การจัดเซ็ตเสมือน การจัดการโปรโมชั่น เป็นต้น อีกทั้งบริการของเรายังสามารถปรับตามความต้องการและลักษณะเฉพาะของแต่ละร้านค้าได้ด้วย ไม่เพียงแค่นั้นคลังสินค้าของเรายังมีความยืดหยุ่น ในการรองรับออเดอร์ที่มีความผันผวนสูง  อย่างไรก็ตามเป้าหมายของบริษัทไม่ได้หยุดอยู่ที่แค่บริการด้านคลังสินค้า เป้าหมายสูงสุดของเราคือการเป็นผู้ช่วยคนสำคัญสำหรับธุรกิจออนไลน์ เรามีความเชื่อเสมอมาตั้งแต่ตั้งต้นว่า ทุกๆ อย่างที่เราทำ เราต้องการทำให้ธุรกิจออนไลน์จัดการร้านได้อย่างมีประสิทธิภาพและเติบโตได้อย่างยั่งยืน ณ วันนี้เราช่วยเหลือลูกค้าของเราด้านการบริหารการจัดการคลังสินค้า แต่สิ่งที่เราต้องการทำต่อไปคือการช่วยลดเงินจมในสต๊อก และช่วยเพิ่มโอกาสในการขาย ซึ่งเราจะสามารถทำสิ่งเหล่านี้ได้ผ่านการใช้ข้อมูลของร้านค้านั้นๆ มาวิเคราะห์อย่างละเอียด หนึ่งในสิ่งที่ทีมพัฒนาของเราพัตนาเพื่อใช้ในปีหน้าคือ Inventory Intelligence ด้วย Machine Learning โดยเริ่มจากการเก็บข้อมูลผู้บริโภคในเชิงลึกและพฤติกรรมการเคลื่อนไหวของสต๊อกสินค้าในระบบของแต่ละร้านค้า นำไปสู่การวิเคราะห์ข้อมูลเหล่านี้ออกมาเป็นข้อมูลสำคัญที่เป็นประโยชน์ในการตัดสินใจสำหรับธุรกิจ เช่น สินค้าชิ้นไหนควรเก็บมากขึ้นหรือน้อยลง สินค้าชิ้นไหนขายแล้วมีกำไรหรือขาดทุน รูปแบบการขายชนิดนั้นที่สร้างยอดขายให้กับสินค้าชนิดไหน  เป็นต้น”
ในช่วงครึ่งปีที่ผ่านมา MyCloudFulfillment มียอดออเดอร์เติบโตอย่างต่อเนื่องสูงสุดต่อเดือนถึง 300,000 ออเดอร์ ซึ่งเติบโตขึ้นจากช่วงเดียวกันเมื่อปีทีแล้วกว่า 3 เท่า และได้มีการขยายคลังสินค้าจากเดิม 2 แห่ง ที่ลาดกระบัง และ รังสิต พื้นที่รวมกว่า 10,000 ตารางเมตร สู่คลังสินค้าที่ 3 แห่งใหม่ที่มีนบุรี พื้นที่รวมกว่าอีก 6,500 ตารางเมตร ผ่านการร่วมมือกับ JWD Group โดยคลังสินค้าแห่งใหม่นี้จะสามารถรองรับออเดอร์ได้สูงสุดถึงวันละ 30,000 ออเดอร์ ล่าสุด MyCloudFulfillment ยังได้รับรางวัลมากมายไม่ว่าจะเป็น รางวัลเกียรติคุณ ในงานรางวัลนวัตกรรมแห่งชาติ ประจำปี 2564 ด้านองค์กรนวัตกรรมดีเด่น ประเภทองค์กรภาคเอกชนขนาดกลาง, รางวัล Bai Po Business Awards by Sasin รวมถึง ยังเป็น 1 ใน 2 สตาร์ทอัพของไทย ที่ได้รับการคัดเลือกเป็น Forbes Asia 100 To Watch ในปีนี้อีกด้วย
“นอกจากการได้รับการสนับสนุนทางการเงินในรอบนี้ เรายังสามารถนำผลิตภัณฑ์ทางการเงินของ SCB  มาใช้เพื่อช่วยสร้างความสะดวกให้กับลูกค้าของเราได้ เช่นการระบบช่วยสภาพคล่องทางการเงินของผู้ซื้อและผู้ขาย (PayZave) หรือ การเชื่อมต่อ QR payment เข้ากับการไลฟ์ขายของ รวมไปถึงการเชื่อมต่อการจัดการสต๊อกเข้ากับบริษัทในเครือของ SCB เช่น Robinhood อีกด้วย ด้านพาร์ทเนอร์ด้านโลจิสติกส์อย่าง JWD จะเป็นส่วนช่วยในการขยายศักยภาพการรองรับลูกค้า การสร้างคลังสินค้า และขยายบริการให้ครอบคลุมอุตสาหกรรมทุกภาคส่วนได้มากยิ่งขึ้น เราจึงมั่นใจว่าการสนันสนุนจาก SCB 10X และ JWD จะส่งเสริมให้ MyCloudFulifllment เติบโตและขยายธุรกิจในภูมิภาคอาเซียนได้อย่างมั่นคง” นายนิธิกล่าวเสริม
&nbsp;
เกี่ยวกับ SCB 10X
บริษัท เอสซีบี เท็นเอกซ์ จำกัด เป็นบริษัทโฮลดิ้งคอมพานี ในเครือธนาคารไทยพาณิชย์ ก่อตั้งเมื่อเดือนมกราคม พ.ศ. 2563 ภายใต้ภารกิจ “Moonshot Mission” มุ่งเน้นด้านเทคโนโลยี นวัตกรรม และการลงทุนที่สามารถสร้างการเติบโตแบบก้าวกระโดดผ่าน 3 ธุรกิจหลัก ได้แก่ Venture Capital, Venture Builder และ Strategic Investment and Partnership นอกจากนี้ SCB 10X ยังทำหน้าที่ดูแลบริษัทด้านเทคโนโลยีที่อยู่ในกลุ่มธนาคารไทยพาณิชย์ทั้งหมด ได้แก่ บริษัท ดิจิทัล เวนเจอร์ส จำกัด บริษัท เอสซีบี อบาคัส จำกัด บริษัท มันนิกซ์ จำกัด และบริษัท เพอร์เพิล เวนเจอร์ส จำกัด รวมถึงบริษัทด้านเทคโนโลยีที่จะจัดตั้งหรือลงทุนในอนาคต รายละเอียดเพิ่มเติม <a href="http://www.scb10x.com" target="_blank" rel="noopener">www.scb10x.com</a>  หรือ ติดต่อ <a href="mailto:contact@scb10X.com" target="_blank" rel="noopener">contact@scb10X.com</a>
&nbsp;
เกี่ยวกับ MyCloudFulfillment 
MyCloudFulfillment บริษัทคลังสินค้าออนไลน์ครบวงจร ผู้ให้บริการ Fulfillment ที่มาพร้อมกับระบบจัดการออเดอร์ (OMS) และระบบจัดการคลังสินค้า (WMS) ช่วยร้านค้าจัดการ เก็บ แพ็ค ส่งสินค้า และเชื่อมต่อ API เข้ากับช่องทางการขายต่าง ๆ ได้แบบอัตโนมัติ (API Lazada, Shopee, etc.)  ด้วยรูปแบบบริการที่ยืดหยุ่น มีบริการแพ็คสินค้า ที่สามารถ customize ได้ตามต้องการ เช่น แพ็คแบบพิเศษ QC สินค้า จัดเซ็ต เพิ่มมูลค่าสินค้าที่มากกว่าแค่ รับแพ็คสินค้าทั่วไป อีกทั้งยังช่วยจัดการ Supply Chain จัดการคำสั่งซื้อ และ นำข้อมูลการขายมาใช้เป็นข้อมูลวิเคราะห์ประกอบการตัดสินใจทางธุรกิจได้
รายละเอียดติดต่อเพิ่มเติม <a href="https://www.mycloudfulfillment.com/" target="_blank" rel="noopener">https://www.mycloudfulfillment.com/</a> โทร.02-138-9920
หรือ Facebook: <a href="https://www.facebook.com/mycloudfulfillment" target="_blank" rel="noopener">MyCloudFulfillment</a> หรือ LINE: @mycloudgroup

scb-10x-announces-new-investment-in-mycloudfulfillment_1

SCB 10X ประกาศร่วมลงทุนต่อเนื่องใน MyCloudFulfillment

ทรู ดิจิทัล พาร์ค ศูนย์กลางเทคและสตาร์ทอัพที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน ชวนนิสิตนักศึกษาทุกมหาวิทยาลัย หนีความจำเจมาเปลี่ยนบรรยากาศใช้ชีวิตนักศึกษายุคดิจิทัล ที่ ทรู ดิจิทัล พาร์ค พื้นที่แลกเปลี่ยน เรียนรู้ และโอกาสพบปะกับเหล่าสตาร์ทอัพและชาวเทค ให้สร้างสรรค์ต่อยอดไอเดียใหม่ๆ ไม่รู้จบ
ครบครันกับอุปกรณ์พร้อมใช้ ทั้งโต๊ะทำงานดีไซน์ทันสมัย มีบริการ WiFi น้ำดื่ม Infused ชา กาแฟ และที่จอดรถฟรี 3 ชั่วโมง และบริการเครื่องปริ้นท์เอกสารความละเอียดสูง พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกกับร้านค้ากว่า 200 ร้าน ให้เลือกกิน ช้อป และออกกำลังกายได้ตามใจ รวมทุกความเป็นไปได้ในที่เดียว และมั่นใจได้กับมาตรการคุมเข้มด้านสุขอนามัย และเว้นระยะห่างทางสังคม TDPK CARE
วิธีลงทะเบียน 
1. Add Line Official Account ของ True Digital Park (<a href="https://lin.ee/rPpgy85">https://lin.ee/rPpgy85</a>) 
2. พิมพ์ STU2021 
3. กรอกรายละเอียดเพื่อสมัครสมาชิก
Co-working space ที่ทรู ดิจิทัล พาร์คเปิดให้บริการตามปกติทุกวันยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 9.00-18.00 น. 
(สำหรับบุคคลทั่วไป กรุณาดูราคาและรายละเอียด co-working space ได้ที่ <a href="https://www.truedigitalpark.com/spaces/co-working-space">https://www.truedigitalpark.com/spaces/co-working-space</a>)

true-digital-park-invites-college-students-to-use-co-working-space-for-free_1

เชิญนักศึกษาใช้ Co-working space ฟรี ที่ทรู ดิจิทัล พาร์ค

ห้องประชุม (เล็ก/กลาง/ใหญ่) | Townhall | ห้องจัดเวิร์คช็อป | ออดิทอเรียม |
&nbsp;
จะจัดแบบพบหน้ากัน/ แบบ Virtual Event/ หรือ แบบ Hybrid เราก็มีบริการให้ครบทุกรูปแบบ พร้อมมาตรการคุมเข้มทางสุขอนามัย และการรักษาระยะห่าง TDPK Care ดูแลครอบคลุมทุกมิติ ทุกพื้นที่ทั่วโครงการ ตามมาตรการของภาครัฐ จัดงานได้ไม่เกิน 50 คน
&nbsp;
เรทราคาโปรโมชั่น ตั้งแต่วันนี้ ถึง 31 ธันวาคม 2564
เช่า Auditorium เต็มวัน จากราคา 120,000 บาท เหลือเพียง 70,000 บาท
เช่า Workshop 1-3 เต็มวัน จากราคา 35,000 เหลือเพียง 20,000 บาท
เช่า Townhall L เต็มวัน จากราคา 35,000 เหลือเพียง 20,000 บาท
&nbsp;
เงื่อนไข
- ราคานี้เฉพาะลูกค้าที่ชำระเงิน ภายในวันที่กำหนด (15วัน หลังจากออกใบเสนอราคา)
- ระยะเวลาการใช้งาน 9.00 –17.00 (เต็ม 8 ชม.)
- ระยะเวลาของโปรโมชั่น สามารถใช้ได้ถึง 31 ธันวาคม 2564
- บริษัทขอสงวนสิทธิ์การเปลี่ยนแปลง หรือยกเลิกเงื่อนไขทางการขาย โดยมิต้องแจ้งให้ทราบล่วงหน้า
&nbsp;
<img class="size-medium wp-image-1801 alignleft" src="https://morphosis-staging.s3.ap-southeast-1.amazonaws.com/wpuploads/Vodcast-studios-interviewing-square.jpg" alt="" width="300" height="300" /><img class="size-medium wp-image-1802 alignleft" src="https://morphosis-staging.s3.ap-southeast-1.amazonaws.com/wpuploads/Workshop-room-tables-square.jpg" alt="" width="300" height="300" /><img class="wp-image-1803 alignnone" src="https://morphosis-staging.s3.ap-southeast-1.amazonaws.com/wpuploads/batch_social-distancing-townhall-M-right-square.jpg" alt="Townhall M at True Digital Park" width="300" height="300" />
ข้อมูลเพิ่มเติม: <a href="https://www.truedigitalpark.com/spaces/event-space">https://www.truedigitalpark.com/spaces/event-space</a>
ติดต่อสอบถาม: <a href="mailto:events@truedigitapark.com">events@truedigitapark.com</a>
โทร. 0886965187

true-digital-park-event-spaces-are-now-available-for-rent-at-half-price

ใช้เต็มวัน จ่ายราคาครึ่งวัน! ปลดล็อคพื้นที่จัดอีเว้นท์ที่ทรู ดิจิทัล พาร์ค

NIA ทำงานร่วมกับภาคีเครือข่ายทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อส่งเสริมแหล่งความรู้ ตลอดจนการพัฒนาฐานข้อมูลให้แก่กลุ่มวิสาหกิจเริ่มต้นหรือสตาร์ทอัพ สำหรับใช้เป็นกลไกหนึ่งที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจและสังคมไทยให้ก้าวหน้า ซึ่งล่าสุด NIA ได้ริเริ่มและจัดทำ ‘รายงานการพัฒนาระบบนิเวศวิสาหกิจเริ่มต้นประเทศไทย ประจำปี 2564’ ซึ่งจะนำเสนอข้อมูลภาพรวมภูมิทัศน์ของระบบนิเวศสตาร์ทอัพในปีที่ผ่านมา เพื่อเป็นแนวทางในการส่งเสริมสตาร์ทอัพรุ่นใหม่ ให้มีความสามารถในการประกอบธุรกิจรวมถึงแข่งขันกับคู่แข่งได้อย่างมีประสิทธิภาพ และมีระบบนิเวศสตาร์ทอัพ (Startup Ecosystem) ที่เอื้อต่อการประกอบธุรกิจมากขึ้น เพื่อเร่งสร้างผู้ประกอบการรายใหม่ที่ใช้องค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรมอย่างเป็นระบบ
ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์ ผู้อำนวยการ NIA กล่าวว่า “รายงานการพัฒนาระบบนิเวศวิสาหกิจเริ่มต้นประเทศไทย ประจำปี 2564 เป็นรายงานฉบับที่ 4 ที่ได้จัดทำต่อเนื่องมาตลอดตั้งแต่ปี 2557 โดยได้รับความร่วมมือจากประชาคมกว่า 300 ราย ทั้งกลุ่มสตาร์ทอัพไทยและต่างชาติ นักลงทุน ภาคการศึกษา ภาครัฐ และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง มาร่วมกันแสดงความคิดเห็น โดยมีเป้าหมายร่วมกันคือ การเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันสู่การสร้างนักรบใหม่ทางเศรษฐกิจ พร้อมผลักดันประเทศไทยสู่เศรษฐกิจฐานนวัตกรรม และพลิกฟื้นเศรษฐกิจและสังคมของประเทศในเร็ววัน นอกจากนี้ NIA ยังเปิดโอกาสในการเข้าถึงและใช้ประโยชน์โครงสร้างพื้นฐานทางนวัตกรรม การสนับสนุนงานวิจัย การอบรมพัฒนาด้านทักษะหลากหลายด้าน รวมถึงการใช้องค์ความรู้ด้านวิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี และนวัตกรรมอย่างเป็นระบบ เพื่อเพิ่มคุณค่าให้สตาร์ทอัพไทยอย่างยั่งยืน”
สำหรับรายงานฉบับนี้ ได้สรุปข้อมูลที่เป็นอุปสรรคสำคัญของการดำเนินธุรกิจในช่วงวิกฤตเศรษฐกิจ พร้อมข้อแนะแนะ 4 ด้าน ประกอบด้วย
1) ความพร้อมของกำลังคน (Manpower Readiness) โดยผู้ก่อตั้งสตาร์ทอัพส่วนใหญ่มักให้ความสำคัญกับการพัฒนาเทคโนโลยี แต่ขาดทักษะในการบริหารจัดการองค์กร รวมถึงแรงงานที่มีทักษะด้านเทคโนโลยียังมีจำนวนไม่เพียพอ อีกทั้งสตาร์ทอัพเองไม่สามารถจ้างแรงงานที่มีฝีมือด้านเทคโนโลยีที่มีฐานเงินเดือนสูงได้ จึงเสนอแนะให้จัดตั้งศูนย์ฝึกอบรม พร้อมสร้างแพลตฟอร์มชุมชนออนไลน์เพื่อเข้าถึงแรงงานรุ่นใหม่ที่มีทักษะฝีมือด้านเทคโนโลยี  พัฒนาทักษะความเป็นผู้ประกอบการ รวมถึงการได้รับเงินสนับสนุนค่าจ้างพนักงานบางส่วนจากรัฐบาลเพื่อช่วยแบ่งเบาต้นทุนของสตาร์ทอัพ
2) แหล่งเงินทุน (Source of Funding) สตาร์ทอัพยังไม่มีแผนการเงินและแผนการดำเนินธุรกิจที่ชัดเจน โดยเฉพาะการประเมินมูลค่าบริษัทในระยะยาว อีกทั้งนักลงทุนส่วนใหญ่สนใจลงทุนเฉพาะบางธุรกิจเท่านั้น ทำให้บางธุรกิจที่ไม่ได้รับความนิยม หาแหล่งเงินทุนได้ยาก สตาร์ทอัพในระยะเริ่มต้นไม่ได้รับการส่งเสริมที่มากพอ จึงทำให้ไม่สามารถเข้าถึงวงเงินกู้ของธนาคารพาณิชย์เพื่อนำมาต่อยอดการทำธุรกิจได้ จึงมีข้อเสนอให้สนับสนุนสตาร์ทอัพให้เข้าถึงสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำเพื่อนำไปพัฒนาสินค้าและบริการ พร้อมทั้งสร้างมาตรฐานคู่มือการระดมทุนเพื่อกำหนดทิศทางทั้งระบบนิเวศ สร้างแพลตฟอร์มรวบรวมและประชาสัมพันธ์ข่าวสารการระดมทุนจากในประเทศและต่างประเทศ
3) การหากลุ่มลูกค้าและการขยายธุรกิจ (Growth &amp; Scalability) สตาร์ทอัพยังขาดประสบการณ์ในการติดต่อกับกลุ่มลูกค้าระดับองค์กรขนาดกลางและขนาดใหญ่ ขาดองค์ความรู้เกี่ยวกับการตลาดและการทำธุรกิจในต่างประเทศ ขาดการวางแผนการเงิน เพื่อหมุนเวียนหรือขยายธุรกิจให้เติบโตขึ้นอย่างมีประสิทธิภาพ จึงมีข้อเสนอแนะให้จัดกิจกรรมสร้างเครือข่ายทางธุรกิจทั้งในกรุงเทพและภูมิภาค สนับสนุนการเชื่อมต่อระหว่างธุรกิจสตาร์ทอัพที่มีนวัตกรรมกับองค์กรขนาดใหญ่ที่ต้องการนวัตกรรมเข้ามาสนับสนุนธุรกิจ พร้อมทั้งผลักดันสตาร์ทอัพไทยเข้าสู่ระบบการค้นหาในตลาดโลกเพื่อให้เป็นที่รู้จักในกลุ่มนักลงทุนและกลุ่มลูกค้าจากทั่วโลก
4) การสนับสนุนจากภาครัฐและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องในระบบนิเวศ (Support from Government &amp; Partners) พบว่าภาครัฐควรมีนโยบายเพื่อผลักดันให้สตาร์ทอัพไทยสามารถเป็นผู้ประกอบการในระดับภูมิภาคอย่างจริงจัง อีกทั้งควรสนับสนุนด้านเงินทุน รวมถึงการสร้างเกณฑ์คุณสมบัติในการรับทุนที่เอื้อต่อทุกธุรกิจของวิสาหกิจเริ่มต้น จึงมีข้อเสนอแนะให้เกิดการเชื่อมโยงโครงการของภาครัฐเพื่อสนับสนุนและผลักดันสตาร์ทอัพสู่การเป็นยูนิคอร์นในประเทศไทย สร้างฐานความรู้งานวิจัย ส่งเสริมการพัฒนาเขตพื้นที่นำร่องย่านนวัตกรรม พร้อมผลักดันให้ประเทศไทยก้าวเข้าสู่รัฐดิจิทัล (Digital Government) และพัฒนาหลักเกณฑ์หรือระเบียบทางราชการให้มีความคล่องตัว โดยอาศัยการเข้าถึงบริการจากภาครัฐด้วยเทคโนโลยี (Gov Tech) เป็นตัวเชื่อมโยงและอำนวยความสะดวกในการทำงานแทนที่การติดต่อและเข้าถึงภาครัฐแบบเดิม ควบคู่ไปพร้อมๆ กับเทคโนโลยีพลเมือง (Civic Tech) นำเทคโนโลยีมาเชื่อมความสัมพันธ์กับภาครัฐ ให้พลเมืองมีส่วนร่วมในการตัดสินใจนโยบายของรัฐบาลหรือปรับปรุงกระบวนการต่างๆ ให้เข้าถึงผลประโยชน์ของประชาชนได้
นอกจากนั้นจากรายงานฉบับนี้ยังได้วางแนวทางให้สตาร์ทอัพในด้านการใช้ความสามารถในการประกอบธุรกิจและแข่งขันได้อย่างมีประสิทธิภาพในทุกด้าน เพราะธุรกิจสตาร์ทอัพจะถูกนำไปใช้ประกอบการการวางแผนส่งเสริมระบบนิเวศสตาร์ทอัพของประเทศไทย โดยคณะกรรมการวิสาหกิจเริ่มต้นแห่งชาติในอนาคตภายใต้ 4 แนวทาง คือ
<ul>
<li>Build up awareness – การสร้างความตระหนักรู้ และการรับรู้เพื่อส่งเสริมสตาร์ทอัพให้เติบโตขึ้น ทั้งการสร้างศูนย์กลางแห่งการประชาสัมพันธ์ และการสนับสนุนสื่อสาธารณะให้รับรู้และเข้าใจธุรกิจสตาร์ทอัพ</li>
<li>Ease of Doing Business - การพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานสำหรับสตาร์ทอัพ ทั้งเรื่องการปรับปรุงแก้ไขกฎหมายที่เกี่ยวข้องในการทำธุรกิจสตาร์ทอัพทั้งระยะเร่งด่วน และระยะยาว การรวบรวมข้อมูลเชิงสถิติสำหรับสตาร์ทอัพเพื่อนำมาวิเคราะห์จัดทำมาตรการสนับสนุนที่เหมาะสม รวมถึงการพัฒนาย่านนวัตกรรมเพื่อรองรับการทำธุรกิจสตาร์ทอัพ</li>
<li>Strengthen Ecosystem – การส่งเสริมการบ่มเพาะธุรกิจสตาร์ทอัพ โดยเริ่มตั้งแต่การปฎิรูประบบการศึกษาเพื่อสนับสนุนการสร้างธุรกิจสตาร์ทอัพในเด็กรุ่นใหม่ การวางแนวทางเพื่อส่งเสริมการพัฒนางานวิจัยเทคโนโลยีสำหรับอนาคต ไปจนถึงการสร้างสถาบันสนับสนุนผู้ประกอบการ</li>
<li>Incentives &amp; Supports – การออกมาตรการสนับสนุนโดยภาครัฐทั้งด้านการเงิน/การคลังแก่สตาร์ทอัพ การวางแนวทางผ่อนปรนสำหรับนักลงทุนต่างชาติที่ลงทุนในประเทศไทย การปรับปรุงกฎเกณฑ์ที่เกี่ยวข้องกับตลาดทุนให้เหมาะสมกับการพัฒนาและการเติบโตของสตาร์ทอัพ และการวางแนวทางสนับสนุนการจัดเรตติ้งเทคโนโลยี และการค้ำประกันสินเชื่อเทคโนโลยี</li>
</ul>
ตั้งแต่ปี 2563 จนถึงปัจจุบัน “ระบบนิเวศสตาร์ทอัพของประเทศไทย” ก้าวสู่ปีแห่งความท้าทายจากสถานการณ์การระบาดของ COVID-19 ที่ส่งผลกระทบให้ทุกส่วนต้องปรับตัวเพื่อความอยู่รอด แต่ก็เป็นโอกาสให้สตาร์ทอัพได้ปรับบริการและเพิ่มธุรกิจใหม่ที่เป็นดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบ ไม่ว่าจะเป็น E-Commerce และ Online Service อย่าง Food Delivery ที่เติบโตขึ้นอย่างมาก รวมถึง Online Education Platform และ Digital Content ที่ได้รับความนิยมจากผู้ใช้งานเพิ่มมากขึ้น
แม้ว่าในช่วงที่ผ่านมาจะต้องเผชิญกับภาวะวิกฤตเศรษฐกิจหรือโรคระบาด แต่สตาร์ทอัพของไทยก็ได้ก้าวขึ้นไปสู่ระดับยูนิคอร์น
ด้วยเงินระดมทุนสูงถึงระดับ 100 ล้านเหรียญดอลล่าสหรัฐ สะท้อนให้เห็นถึงศักยภาพของสตาร์ทอัพไทยในระบบนิเวศวิสาหกิจเริ่มต้นที่มีโอกาสก้าวไปสู่ระดับ Regional Player ได้อย่างแน่นอน
สำหรับผู้ที่สนใจสามารถดาวน์โหลดข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับรายงานการพัฒนาระบบนิเวศวิสาหกิจเริ่มต้นประเทศไทย ประจำปี 2564 ได้ที่เว็ปไซต์ <a href="http://www.startupthailand.org" target="_blank" rel="noopener">www.startupthailand.org</a>

nia-present-thailand-startup-ecosystem-report-2021_1

NIA เปิดรายงานการพัฒนาระบบนิเวศวิสาหกิจเริ่มต้นประเทศไทย ปี 2564

ความคุ้มค่าของคนรุ่นใหม่ ให้คุณใช้ 1 วันของคุณอย่างเต็มที่ ที่ทรู ดิจิทัล พาร์ค แพ็คเกจเดียวที่ให้คุณได้ทั้งพื้นที่ทำงาน มื้ออาหาร และสิ่งอำนวยความสะดวกเต็มรูปแบบ 
ทรูดิจิทัลพาร์ค 1-Day Pass Package ราคา 289 บาท (ราคานี้รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%)
คุณจะได้รับ
<ol>
<li>สิทธิ์การเข้าใช้งาน Co-working space ที่ ทรู ดิจิทัล พาร์ค 1 วัน มูลค่า 535 บาท (ราคานี้รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%) พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกอื่นๆ อาทิ WIFI ความเร็วสูงสำหรับสมาชิก, ชา กาแฟ เครื่องดื่ม Infuse และสิทธิ์ในการเข้าร่วมโปรแกรม / กิจกรรมอื่นๆ ของทรู ดิจิทัล พาร์ค</li>
<li>คูปองอาหาร 1 มื้อ มูลค่า 50 บาท ที่ Grab &amp; Go</li>
<li>ส่วนลดเครื่องดื่ม 10% จากทรู คอฟฟี่ (กดรับใน Line โดยใส่รหัสที่ได้จากเคาน์เตอร์ ทรู ดิจิทัล พาร์ค ชั้น 6 หลังชำระเงินค่าแพ็คเกจ)</li>
</ol>
สมัครเลยที่เคาน์เตอร์ ทรู ดิจิทัล พาร์ค ชั้น 6
หรือ <a href="https://www.truedigitalpark.com/spaces/co-working-space">https://www.truedigitalpark.com/spaces/co-working-space</a> และกรอก promo code: DPP289
วันนี้ - 31 มกราคม 2565

enjoy-1-day-pass-package-at-true-digital-park

ใช้ชีวิตครบมิติ กับทรูดิจิทัลพาร์ค 1-Day Pass Package 

พบกับ 3 Talk Series ที่จะพาทุกคนไปเจาะลึกกับเนื้อหาสุดเข้มข้นจากเหล่า speaker ชั้นนำ และผู้เชี่ยวชาญในวงการสตาร์ทอัพและเทคโนโลยีจากทั้งในไทยและต่างประเทศ 
&nbsp;
<ol>
<li style="font-weight: 400;" aria-level="1">Tech Highlights: ซีรีส์ที่ถูกออกแบบมาสำหรับสตาร์ทอัพ และคนที่มีความสนใจในแวดวงเทคโนโลยี เนื้อหาเจาะลึกทุกแง่มุมของเทคเทรนด์ที่เกิดขึ้นทั่วโลก พร้อมพาไปค้นหาแรงบันดาลใจจากเรื่องราวจริงของสตาร์ทอัพที่ประสบความสำเร็จแบบสุด Exclusive ครอบคลุมทุกหัวข้อที่ทุกคนต้องรู้ ไม่ว่าจะเป็น AI, Robotics, Cryptocurrency, Smart City, Corporate Innovation, Data Analytics, Tech Talent และอื่นๆ อีกมากมาย</li>
<li style="font-weight: 400;" aria-level="1">SME Forward: ครั้งแรกของทรู ดิจิทัล พาร์ค กับเนื้อหาที่ออกแบบมาเพื่อธุรกิจ SME โดยเฉพาะ เปิดโลกแห่งดิจิทัลและนวัตกรรมที่จะช่วยต่อยอดธุรกิจดั้งเดิมให้เติบโตอย่างพุ่งทะยาน เรียนรู้จากผู้เชี่ยวชาญในการเพิ่มยอดขาย ลดต้นทุน การทำการตลาดยุคใหม่ รวมถึงการเข้าถึงแหล่งเงินทุน</li>
<li style="font-weight: 400;" aria-level="1">Startup Classroom: ชั้นเรียนขั้นพื้นฐานสำหรับน้องๆ นักศึกษา หรือผู้ที่อยากเริ่มธุรกิจแต่ยังไม่รู้ว่าต้องเริ่มอย่างไร มาปูพื้นฐานกันให้แน่นกับทุกสิ่งที่ต้องรู้ก่อนลงมือทำจริง ศึกษาตั้งแต่เรื่องการจดทะเบียนบริษัท การแบ่งหุ้นระหว่าง co-founders กฎหมายต่างๆ เช่น PDPA รวมไปถึงโอกาสในการพูดคุยกับพี่ๆ ในวงการ ถึงการทำงานจริงในบริษัทเทคโนโลยีระดับโลก </li>
</ol>
&nbsp;
เร็วๆ นี้ ที่<a href="https://www.facebook.com/TrueDigitalPark/" target="_blank" rel="noopener">เพจ True Digital Park</a> หรือ <a href="http://truedigitalpark.com">truedigitalpark.com</a>
<iframe title="YouTube video player" src="https://www.youtube.com/embed/EutVZs_p4aw" width="560" height="315" frameborder="0" allowfullscreen="allowfullscreen"></iframe>

new-tdpk-talk-by-true-digital-park_1

โฉมใหม่ของ TDPK TALK โดย ทรู ดิจิทัล พาร์ค

กรุงเทพฯ 22 กันยายน 2564 –ผู้บริหาร ในโครงการ “ทรู ดิจิทัล พาร์ค แคมปัส (ส่วนขยายใหม่)” ของ ทรู ดิจิทัล พาร์ค หลังประสบความสำเร็จในการก้าวขึ้นเป็นศูนย์กลางเทคโนโลยีและสตาร์ทอัพที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน ตอบโจทย์ไลฟ์สไตล์ทั้งการทำงานและการใช้ชีวิตได้อย่างลงตัว ท่ามกลางระบบนิเวศสมบูรณ์แบบครบวงจร ที่ช่วยเพิ่มโอกาสความสำเร็จทางธุรกิจให้เกิดขึ้นจริงสำหรับสตาร์ทอัพและผู้ประกอบการดิจิทัล ทั้งนี้ ทรู ดิจิทัล พาร์ค แคมปัส เป็นอาคารสำนักงานเกรดเอ มีความพร้อมด้านทำเล ตั้งอยู่บนย่านนวัตกรรมไซเบอร์เทคในพื้นที่ปุณณวิถี ติดถนนสุขุมวิท 101 สามารถเดินทางได้สะดวกทั้งบริการขนส่งสาธารณะ ไม่ว่าจะเป็นรถแท็กซี่ รถโดยสารประจำทาง และมีทางเดินเชื่อมต่อโดยตรงถึงรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีปุณณวิถี เดินทางโดยรถยนต์เพียง 5 นาที จากทางด่วนเฉลิมมหานคร และ 20 นาทีถึงสนามบินสุวรรณภูมิ มีพื้นที่สำนักงานให้เช่า 45,000 ตารางเมตร และคาดว่าจะแล้วเสร็จไตรมาสที่ 3 ปี 2565 นี้
ดูรายละเอียด<a href="https://www.truedigitalpark.com/spaces/new-development">พื้นที่ส่วนขยายใหม่ของทรู ดิจิทัล พาร์ค ที่นี่</a>

true-digital-park-campus-appoints-cbre-sole-office-leasing-agent-for-new-development_1

ทรู ดิจิทัล พาร์ค แต่งตั้ง ซีบีอาร์อี เป็นตัวแทนปล่อยเช่าพื้นที่สำนักงาน ในส่วนขยาย “ทรู ดิจิทัล พาร์ค แคมปัส” แต่เพียงผู้เดียว

ตั้งเป้าจะนำเงินลงทุนไปใช้ในการต่อยอดธุรกิจสินเชื่อ การพัฒนาผลิตภัณฑ์ การเพิ่มศักยภาพของเทคโนโลยี และการให้บริการสินเชื่อ รวมไปถึงการสรรหาบุคลากรที่มีความรู้ความสามารถมาร่วมทีม สู่การเติบโตอย่างก้าวกระโดดในธุรกิจสินเชื่อออนไลน์
ดร.สุทธาภา อมรวิวัฒน์ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีบี อบาคัส จำกัด (SCB Abacus) กล่าวว่า “แอปพลิเคชัน เงินทันเด้อ ได้รับการพัฒนาขึ้นเพื่อตอบโจทย์กลุ่มคนที่ไม่ได้รับโอกาสในการเข้าถึงบริการทางการเงินในระบบจากธนาคาร โดยใช้เทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (Artificial Intelligence) และ Machine Learning ในการปล่อยสินเชื่อ และมอบประสบการณ์การขอสินเชื่อที่สะดวกสบายให้กับกลุ่มลูกค้าเป้าหมาย ซึ่งเป็นความตั้งใจของบริษัทที่จะสร้างโอกาสที่ดีกว่าในการเข้าถึงบริการทางการเงินให้กับลูกค้าผ่านแพลตฟอร์มการขอสินเชื่อออนไลน์ โดยปัจจุบัน ร้อยละ 60 ของลูกค้าที่แอปพลิเคชัน “เงินทันเด้อ” ปล่อยสินเชื่อออนไลน์ให้ เคยถูกปฏิเสธจากธนาคารมาก่อน แต่ด้วยการเลือกใช้ข้อมูลทางเลือกที่หลากหลายประกอบกับเทคนิคการพัฒนาโมเดลแบบ Machine Learning และการใช้ปัญญาประดิษฐ์ทำให้การขอสินเชื่อออนไลน์นั้นสามารถทำได้ทุกที่ ทุกเวลา ผ่านแอปพลิเคชันบนโทรศัพท์มือถือ โดยบริษัทยังเล็งเห็นถึงโอกาสในการขยายบริการและเทคโนโลยีที่มีอยู่ไปยังกลุ่มธุรกิจอื่นๆ นอกเหนือจากกลุ่มธุรกิจการเงินการธนาคารอีกด้วย”
ทั้งนี้ แอปพลิเคชัน “เงินทันเด้อ” สามารถอนุมัติสินเชื่อให้ผู้ใช้บริการได้ภายใน 5-20 นาที โดยนับจากการลงทะเบียนหลังเข้าสู่แอปพลิเคชัน  โดยปัจจุบัน แอปพลิเคชัน “เงินทันเด้อ” มียอดดาวน์โหลดราว 5 ล้านครั้ง และมียอดสินเชื่อและรายได้ในปีนี้เติบโตสูงกว่า 10 เท่า เมื่อเทียบกับปีที่ผ่านมา
ดร.สุทธาภา กล่าวเพิ่มเติมว่า หลังจากการระดมเงินทุน Series A ครั้งนี้ ทำให้ SCB Abacus สามารถเดินหน้าเต็มกำลังกับภารกิจสร้างสินเชื่อทางเลือกที่ดีกว่า โดยเงินลงทุนในรอบนี้จะนำไปใช้ในการยกระดับโครงสร้างพื้นฐานดิจิทัล การพัฒนาผลิตภัณฑ์การเงิน อีกทั้งสรรหาบุคลากรที่มีความสามารถเพื่อเตรียมพร้อมสู่การเติบโตในตลาดสินเชื่อออนไลน์ โดยมีเป้าหมายภายในปี 2565 ยอดสินเชื่อและรายได้จะเติบโตสูงขึ้นกว่า 5 เท่า เมื่อเทียบกับปีนี้ และบริษัทยังคาดว่าการระดมเงินทุนครั้งต่อไปใน Series B น่าจะเกิดขึ้นได้ภายในปลายปีหน้าเช่นกัน
“ทั้งนี้ SCB Abacus ถือว่าเป็นฟินเทครายแรกที่ผันตัวออกมาจากธุรกิจธนาคาร โดยที่ผ่านมาเราได้รับการสนับสนุนจากทั้งธนาคารไทยพาณิชย์ และ SCB 10X ที่เล็งเห็นถึงศักยภาพของข้อมูลและเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ที่ SCB Abacus พัฒนาขึ้นมาเอง เสริมทัพด้วยทีมงานคุณภาพและความเชี่ยวชาญจากกลุ่มนักลงทุนชั้นนำของโลก ผลักดันให้เกิดนวัตกรรมบริการทางการเงิน และสร้างความสะดวกสบายให้กับกลุ่มลูกค้าเป้าหมายในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ได้ จากการระดมเงินทุนครั้งนี้ ทำให้เชื่อมั่นได้ว่า SCB Abacus จะสามารถขึ้นเป็นผู้นำของกลุ่มธุรกิจสินเชื่อทางเลือกที่มีเป้าหมายในการแก้ปัญหาสินเชื่อนอกระบบ” ดร.สุทธาภา กล่าวทิ้งท้าย
ณิชาภัทร อาร์ค ผู้อำนวยการประจำประเทศไทยของ Openspace Ventures กล่าวว่า “Openspace Ventures มีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ต้อนรับ SCB Abacus เข้าร่วมพอร์ตการลงทุนของเราที่มีการเติบโตอย่างมากในประเทศไทย ทางเรามีความเชื่อมั่นว่า SCB Abacus มีศักยภาพในหลายๆ ด้าน ไม่ว่าจะเป็นความเชี่ยวชาญในตลาดประเทศไทย ทีมงานที่มากความสามารถ และเทคโนโลยีระดับโลก ที่พร้อมจะขึ้นเป็นผู้นำในการแก้ไขปัญหาสินเชื่อนอกระบบในประเทศไทย และสามารถขยายผลเชิงบวกได้อย่างมีนัยยะสำคัญ พร้อมสร้างความเคลื่อนไหวให้เกิดการเปลี่ยนแปลงทางสังคมได้”
คาร์เมน หยวน พาร์ทเนอร์ Vertex Ventures Southeast Asia กล่าวเสริมว่า “เรามีความยินดีที่ SCB Abacus เป็นการลงทุนในบริษัทไทยที่ก่อตั้งโดยคนไทยครั้งแรกของเรา เรามีความตั้งใจที่จะสนับสนุน ดร.สุทธาภา และทีมงาน SCB Abacus ในการเพิ่มโอกาสการเข้าถึงสินเชื่อเพื่อการประกอบอาชีพให้กับผู้ประกอบการรายย่อย ซึ่งเป็นถึง 84% ของกิจการที่มีอยู่ในประเทศไทยกว่า 3 ล้านกิจการ และเป็นหัวใจสำคัญของเศรษฐกิจในประเทศไทย เราเชื่อว่า SCB Abacus มีความสามารถในการขับเคลื่อนและพัฒนาการให้บริการทางการเงินให้มีความเข้าถึงได้มากขึ้นเพื่อผู้ประกอบการรายย่อยกลุ่มนี้ได้”
ดร. อารักษ์ สุธีวงศ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีบี เท็นเอกซ์ จำกัด (SCB 10X) ในฐานะผู้ถือหุ้นรายใหญ่ของ SCB Abacus กล่าวว่า “เรามีความยินดีที่ได้ร่วมเป็นพันธมิตรกับนักลงทุนระดับโลกอย่าง Openspace Ventures, Vertex Ventures Southeast Asia และ CAI Partners เราเชื่อมั่นว่าการระดมทุนครั้งนี้จะช่วยสร้างความแข็งแกร่งให้กับรากฐานการเติบโตของ SCB Abacus ได้ทั้งในระยะยาวและเป็นการเติบโตที่ยั่งยืนต่อไป”
----
ข่าวประชาสัมพันธ์จาก SCB

scb-abacus-closes-a-12m-series-a-round-led-by-openspace-ventures

SCB Abacus คว้าเงินลงทุนต่างชาติ 400 ล้านบาท ในการระดมเงินทุนรอบ Series A จาก Openspace Ventures

<a href="https://www.truedigitalpark.com/startu.../cybertech-district">Bangkok CyberTech District Sandbox</a> โครงการบ่มเพาะสตาร์ทอัพไทยในระดับ Early Stage ที่จะช่วยติดสปีด Jump start เหล่าสตาร์ทอัพ ที่ได้เริ่มต้นขึ้นเมื่อวันที่ 23 มิถุนายน 264 ที่ผ่านมา เป็นความร่วมมือกันระหว่างสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA) กับ บริษัท ทรู ดิจิทัล พาร์ค และภาคีเครือข่าย เพื่อค้นหา 2 สตาร์ทอัพไทยที่มีศักยภาพเหมาะสมที่จะได้รับเงินทุนเพื่อนำไปทดลองสนามทดสอบผลิตภัณฑ์ในตลาดกับกลุ่มผู้ใช้จริง ในพื้นที่ย่านนวัตกรรม Cybertech District เป็นจำนวน 150,000 บาทต่อทีม รวมไปถึงได้รับออฟฟิศทำงานที่ True Digital Park และโอกาสในการเข้าร่วม Workshop เพื่อเพิ่มศักยภาพของตนเอง นอกเหนือไปจากนั้นแล้วทั้งสองทีมยังจะได้รับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญที่ครอบคลุมในทุกแง่มุมของการทำธุรกิจสตาร์ทอัพเพื่อให้ธุรกิจสามารถเติบโตไปได้อย่างมีประสิทธิภาพ พร้อมที่จะก้าวไปสู่ระดับสากล 
เมื่อวันที่ 14 กันยายนที่ผ่านมานี้ทางโครงการได้จัดกิจกรรม Presentation Day เพื่อให้สตาร์ทอัพทั้ง 2 ทีม ได้นำเสนอผลลัพธ์ที่น่าสนใจจากการทดสอบผลิตภัณฑ์ รวมถึงแลกเปลี่ยนประสบการณ์ในระหว่างการเข้าร่วมโครงการ อันจะนำไปสู่การวางแผนพัฒนาผลิตภัณฑ์ต่อไปในอนาคต ไปทำความรู้จักผลิตภัณฑ์ของทั้ง 2 สตาร์ทอัพประจำโครงการ Bangkok CyberTech District Sandbox 2021 กันเลยดีกว่าว่าจะน่าสนใจขนาดไหน
<img class="wp-image-1739 aligncenter" src="https://morphosis-staging.s3.ap-southeast-1.amazonaws.com/wpuploads/002-CyberTech.jpg" alt=" Presentation Day-CyberTech" width="900" height="601" />
ทีม Garoo-Let’s talk สตาร์ทอัพที่มุ่งมั่นพัฒนาการให้บริการ One-stop service ทางด้านสุขภาพจิตแบบครบวงจร ผ่านรูปแบบของแอปพลิเคชัน มี 3 ฟังก์ชันหลัก ได้แก่ 
1) Garoo Help! นัดหมายกับผู้เชี่ยวชาญเพื่อเข้ารับบริการคำปรึกษากับจิตแพทย์ นักจิตวิทยา และผู้รับฟังเชิงลึกจาก มูลนิธิ iShare Thailand
2) Garoo Check-up! ประเมินแนวโน้มเบื้องต้นสำหรับภาวะซึมเศร้า (PHQ-9) และภาวะวิตกกังวล (GAD-7) ด้วยตนเองภายใน 5 นาที 
3) Sound Therapy (SST) เข้าถึงบริการดนตรีบำบัด ได้ทุกที่ ตลอดเวลา โดยทีมวิจัย Suandok Sound Therapy (SST) ภาควิชาเวชศาสตร์ฟื้นฟู คณะแพทยศาสตร์ มหาวิทยาลัยเชียงใหม่
&nbsp;
นอกเหนือไปจากนี้แล้วทางทีมยังคงพัฒนาแอปพลิเคชันและการบริการอย่างต่อเนื่องเพื่อให้ผู้ใช้ได้มั่นใจในความเป็นส่วนตัวและความปลอดภัย (Privacy &amp; Securities) รวมถึงได้รับประสบการณ์ที่ดีที่สุด (Trusted Services with Warmly Support) โดยปราศจาก การตีตรา และการเลือกปฏิบัติ (Non Stigmatization) และแน่นอนว่าการพัฒนาของทีม Garoo จะเกิดขึ้นควบคู่ไปกับการขับเคลื่อนในเรื่องความสำคัญของสุขภาพจิตและวงการ Health Tech ของประเทศไทย โดยสามารถร่วมกันสนับสนุนและติดตามทีม Garoo-Let’s talk ได้ที่ <a href="https://www.facebook.com/Garooletstalk" target="_blank" rel="noopener">https://www.facebook.com/Garooletstalk</a> หรือ <a href="https://telemeditex.com/" target="_blank" rel="noopener">https://telemeditex.com</a> Garoo-Let’s talk อีกหนึ่งแอพพลิเคชั่นที่เหมาะกับบุคคลทั่วไปที่ใส่ใจสุขภาพใจของตัวเอง เปิดให้ดาวน์โหลดแล้ววันนี้ทั้งบน iOS และ Android 
<img class=" wp-image-1740 aligncenter" src="https://morphosis-staging.s3.ap-southeast-1.amazonaws.com/wpuploads/003-CyberTech.jpg" alt="Garoo-Let's Talk-CyberTech" width="900" height="472" />
If you want to talk, let’s talk with Garoo!
&nbsp;
ทีม UpSqill สตาร์ทอัพที่มีความมุ่งมั่นในการพัฒนาวงการการศึกษาไทยด้วยพลังของเทคโนโลยี โดยเกิดจากการสังเกตเห็นปัญหาของการศึกษาทั่วไปที่ควรได้รับการแก้ไขใน 3 เรื่องหลัก ๆ ได้แก่ 1) ความไม่มั่นใจของผู้เรียน 2) ผู้เรียนไม่สามารถวิเคราะห์จุดแข็ง-จุดอ่อนของตนเองได้ และ 3) ระบบ One size fit all หรือการเรียนรู้ด้วยหลักสูตรเดียว ไปสู่การเริ่มต้นพัฒนาแอปพลิเคชันสำหรับนักเรียนหรือบุคคลทั่วไปที่จะเตรียมความพร้อมในการสอบวัดระดับภาษาอังกฤษโดยมุ่งเน้นไปที่ข้อสอบ TOEIC เป็นอย่างแรกเนื่องจากเป็นข้อสอบที่ได้รับความนิยมเป็นวงกว้าง โดยผู้ใช้สามารถเข้าไปทำแบบทดสอบ TOEIC จำลอง เมื่อทำเสร็จระบบจะประมวลผลด้วยเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ หรือ AI ทำนายเปอร์เซ็นความสามารถของผู้ใช้เมื่อทำข้อสอบ TOEIC กล่าวคือ สามารถวัดระดับความสามารถของตนเองได้ผ่านการทำแบบทดสอบที่มีจำนวนข้อน้อยกว่าข้อสอบจริง อีกทั้งยังช่วยให้รู้ว่าคะแนนปัจจุบันห่างจากเป้าหมายเท่าไร พร้อมที่จะสอบจริงแล้วหรือไม่ ที่พิเศษไปกว่านั้นตัวแอพพลิเคชั่นยังช่วยให้ผู้เรียนสามารถเพิ่มคะแนนได้มากกว่า 100 คะแนนด้วยเวลาเพียงแค่ 20 ชั่วโมงอีกด้วย! เปรียบเสมือนมีติวเตอร์ส่วนตัว เรียนได้ทุกที่ทุกเวลา และระบบยังช่วยนำเสนอคอร์สเรียนที่สอดคล้องกับความสามารถของผู้ทดสอบ เพื่อให้ผู้ใช้สามารถเลือกเรียนได้ตามความเหมาะสม โดยในอนาคตทางทีมมีแผนในการขยายระบบให้ครอบคลุมถึงข้อสอบสนามต่าง ๆ รวมถึงเพิ่มฟีเจอร์อื่น ๆ ในการเตรียมความพร้อมอีกด้วย โดยคาดว่าจะมีการเปิดให้ทดลองใช้แอปพลิเคชันได้ในช่วงปลายปี 2564 - ต้นปี 2565 และหากการพัฒนาระบบ AI ของ UpSqill ได้ผลตรงตามที่คาดการณ์ไว้ ทางทีมจะมีการพัฒนาต่อยอดไปสู่การเรียนการสอนในรูปแบบหรือวิชาอื่น ๆ เพื่อให้การเรียนการสอนมีประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้นอีกด้วย UpSqill อีกหนึ่งสตาร์ทในสาขา EdTech ของไทยที่น่าจับตามองที่จะช่วยขับเคลื่อนวงการการศึกษาไืทนให้ก้าวหน้าไปได้ในอนาคตอย่างแน่นอน
<img class=" wp-image-1741 aligncenter" src="https://morphosis-staging.s3.ap-southeast-1.amazonaws.com/wpuploads/004-CyberTech.jpg" alt="UpSqill" width="901" height="473" />
UpSqill, AI-TOEIC tutoring application ใช้ง่าย เรียนรู้ไว ได้ผลจริง!
&nbsp;
หลังจากเข้าร่วมโครงการ Bangkok CyberTech District Sandbox แล้ว มีความเปลี่ยนแปลงอย่างไรบ้างไหม ทั้งในระดับองค์กรและระดับบุคคล ?
&nbsp;
UpSqill : “เปลี่ยนแปลงแน่นอนครับ อย่างแรกเลยเป็นส่วนของความรู้ที่เพิ่มขึ้นทั้งจากกิจกรรม workshop และ weekly mentorship เลยครับ ทั้งเรื่อง Digital marketing strategy หรือการวางแผนกลยุทธ์ทางการตลาดดิจิทัล เรื่อง Financial Planning for Startup หรือการวางแผนทางการเงิน และที่ขาดไม่ได้คือเรื่อง Product Testing หรือการทดสอบผลิตภัณฑ์ ที่ได้ทั้งลงมือวางแผน ทดสอบกับผู้ใช้จริง ๆ และวิเคราะห์ผลครับ จากความรู้และประสบการณ์ที่ได้รับระหว่างเข้าร่วมโครงการทำให้ได้มองในหลายมิติมากขึ้น ได้เปิดโลกทัศน์และคิดว่าจะมีประโยชน์อย่างมากในการคิดกลยุทธ์ทางธุรกิจในอนาคตครับ ในระดับขององค์กรคิดว่าสมาชิกในทีมมองเห็นเป้าหมายเดียวกันชัดเจนมากขึ้นครับ มีความสามัคคีกันมากขึ้นด้วย”
Garoo : “สำหรับในระดับบุคคลคิดว่าจากกิจกรรมของทางโครงการที่เข้าร่วมเนี่ยทำให้เราคิดกันเป็นระบบมากขึ้น มีความรู้ในหลายด้านที่จำเป็นต่อผลิตภัณฑ์ของเรามากขึ้น และที่สำคัญเลยคือการได้ทดสอบผลิตภัณฑ์กับผู้ใช้จริง มันทำให้เราได้ค้นพบความจริงจาก user หลาย ๆ ข้อลึกยิ่งขึ้นแล้วมั่นใจในการวางแผนการพัฒนาผลิตภัณฑ์มากขึ้นอีกด้วย”
<img class="wp-image-1742 aligncenter" src="https://morphosis-staging.s3.ap-southeast-1.amazonaws.com/wpuploads/005-CyberTech.jpg" alt="Bangkok CyberTech District Sandbox 2021" width="901" height="473" />
สามารถติดตามติดตามกิจกรรมที่จะส่งเสริมศักยพภาพของสตาร์ทอัพไทยได้ผ่านทางหน้า FACEBOOK Page :  <a href="https://facebook.com/GlobalStartupHubTH/" target="_blank" rel="noopener">Global Startup Hub Thailand</a> และ <a href="https://www.facebook.com/TrueDigitalPark/" target="_blank" rel="noopener">True Digital Park</a> รวมไปถึงหน้าเว็บไซต์ของ <a href="https://www.truedigitalpark.com/">True Digital Park</a>

%e0%b8%97%e0%b8%b3%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b8%a3%e0%b8%b9%e0%b9%89%e0%b8%88%e0%b8%b1%e0%b8%81-garoo-%e0%b9%81%e0%b8%a5%e0%b8%b0-upsqill-%e0%b8%aa%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b8%aa%e0%b8%95-2

ทำความรู้จัก Garoo และ UpSqill สองสตาร์ทอัพไฟแรงจากโครงการ Bangkok CyberTech District Sandbox 2021

กรุงเทพฯ 13 กันยายน 2564 - บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (CRC) ประกาศการลงทุนในสตาร์ทอัพไทยไฟแรง Mercular ที่มียอดขายออนไลน์มากที่สุดในกลุ่มสินค้า Hobby Lifestyle ที่กวาดเงินไปกว่า 4 ล้านเหรียญสหรัฐฯ จากการเปิดระดมทุนครั้งแรกในรอบซีรีส์ A จากนักลงทุนชั้นนำในไทยและต่างประเทศ โดยการลงทุนนี้ได้กระทำเสร็จสิ้นเมื่อวันที่ 31 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งเซ็นทรัล รีเทล มุ่งส่งเสริมให้ Mercular เติบโตอย่างรวดเร็ว และยั่งยืน ผ่านการใช้ Ecosystem ที่สมบูรณ์แบบของบริษัท โดยลงทุนใน Mercular ผ่านการจับมือกับเพาเวอร์บาย ผู้นำร้านจำหน่ายสินค้าอิเล็กทรอนิกส์อันดับหนึ่งในเครือเซ็นทรัล รีเทล เพื่อต่อยอดช่องทางการขายจาก E-commerce สู่แพลตฟอร์ม Omnichannel และขยายตลาดสินค้ากลุ่ม Hobby &amp; Lifestyle มอบประสบการณ์ ‘New Retail’ มุ่งหน้าสู่การเป็น Community ของผู้บริโภคอย่างแท้จริง
Mercular เป็นสตาร์ทอัพสัญชาติไทยที่เติบโตก้าวกระโดดท่ามกลางสมรภูมิคู่แข่งข้ามชาติ และการแข่งขันที่รุนแรงในตลาด โดยสามารถสร้างจุดยืนในตลาดที่แตกต่างจากผูู้เล่นได้อื่นได้อย่างชัดเจน นับว่าเป็น Community Commerce หรือ เป็นแพลตฟอร์ม ซึ่งมุ้งเน้นการสร้างคุณค่าให้กับลูกค้ามากกว่าแค่เรื่องของราคา จุดสำคัญคือการเป็นผู้นำในกลุ่มสินค้า Hobby Lifestyle ที่เข้าใจเหล่า Hobbyist และมุ่งเน้นสร้างประสบการณ์ที่ดี ตั้งแต่การมีสินค้าที่แตกต่าง และครบครัน ให้ข้อมูลเชิงลึกเกี่ยวกับสินค้า การสร้าง Community และมีการบริการหลังการขายที่ให้บริการอย่างรวดเร็ว แตกต่างจากผู้เล่น Marketplace อื่นๆ จึงทำให้บริษัทสามารถสร้างความสามารถในการแข่งขันที่แตกต่างและยั่งยืน
นายไท จิราธิวัฒน์, รองประธานเจ้าหน้าที่สายการเงิน, บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า “การลงทุนใน Mercular ของเซ็นทรัล รีเทล ถือเป็นความตั้งใจของบริษัทฯ ที่จะสนับสนุนธุรกิจสตาร์ทอัพไทยที่มีศักยภาพ ขับเคลื่อนโดยคนรุ่นใหม่ไฟแรง และมีมุมมองความคิดที่สร้างสรรค์ สดใหม่ ให้เติบโตแบบก้าวกระโดด โดยสนับสนุนให้ใช้ Ecosystem ที่แข็งแกร่งของบริษัทได้อย่างเต็มที่ ทั้งยังเป็นการสะท้อนให้เห็นถึง DNA ของเซ็นทรัล รีเทล ที่มีวิสัยทัศน์แบบไม่หยุดนิ่ง มองเทรนด์ของผู้บริโภคยุคใหม่ได้เฉียบคม เพื่อเข้าถึง Segment ลูกค้ากลุ่ม Millennial ที่มีกำลังซื้อสูงอย่างกลุ่ม Hobbyist ซึ่งปัจจุบันตลาดกลุ่มนี้ มีอัตราการขยายตัวถึง 11.26% และคาดว่าจะมีมูลค่าแตะ 1 แสนล้านบาท ภายในปี 2568 จึงทำให้ Mercular เป็นสตาร์ทอัพที่น่าสนใจ และมีโอกาสในการเติบโต โดยเราจะร่วมกันสร้างประสบการณ์แบบ ‘New Retail’ ผ่านช่องทาง Omnichannel ของเซ็นทรัล รีเทล กับจุดแข็งของ Mercular ที่เป็น E-commerce และ Community ของกลุ่มสินค้า Hobby &amp; Lifestyle อาทิ หูฟัง กล้องถ่ายภาพ อุปกรณ์เกมมิ่ง และของเล่นของสะสม เป็นต้น เพื่อตอบโจทย์ความต้องการที่หลากหลาย โดยเริ่มจากความร่วมมือกับ เพาเวอร์บาย ในด้านช่องทางการขาย พร้อมมองหาโอกาสในการต่อยอดไปยังกลุ่มธุรกิจอื่นๆ ภายใต้เครือเซ็นทรัล รีเทล ต่อไปในอนาคต”
ด้าน นายวรกันต์ วัฒนศักดิ์ชัย ประธานเจ้าหน้าที่บริหารและผู้ร่วมก่อตั้ง Mercular ระบุว่า “การร่วมมือกับ เซ็นทรัล รีเทล จะช่วยพัฒนาการเติบโตของบริษัทได้อย่างรวดเร็วยิ่งขึ้น สามารถบรรลุเป้าหมายการเป็นผู้เล่นอันดับหนึ่งในสินค้า Hobby Lifestyle ในไทย พร้อมกับสร้าง Community ที่แข็งแกร่งรวบรวมเหล่าบรรดา Hobbyist ชื่นชอบในงานอดิเรกต่างๆ เนื่องจากตลาดยังมี พื้นที่การเติบโตอีกมากบวกกับคู่แข่งจำนวนน้อยที่สามารถเข้าใจตลาดได้อย่างลึกซึ้ง เราจึงเชื่อว่าการร่วมมือครั้งนี้ จะทำให้ Mercular สามารถเข้าถึงผู้บริโภคได้ทุกช่องทางมาก ทั้งด้านออนไลน์ และออฟไลน์ในพื้นที่สำคัญต่างๆทั่วประเทศ อีกทั้งยังเป็นการผสมผสานการเป็น Community Commerce และ “New Retail” ที่จะสร้างนวัตกรรมใหม่ๆ ประสบการณ์ที่สนุก และน่าตื่นเต้น เพื่อก้าวเข้าสู่การเป็นผู้นำในตลาด และขยายออกไปสู่ตลาดเพื่อนบ้านได้ในระยะเวลาอันใกล้นี้”
“การลงทุนใน Mercular ถือเป็นกลยุทธ์การลงทุนรูปแบบใหม่ ที่ทำให้เห็นว่า เซ็นทรัล รีเทล ไม่เพียงพัฒนาองค์กรจากภายในเพียงอย่างเดียว แต่เรายังสนใจและเปิดโอกาสการลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพและพันธมิตรทางธุรกิจรายใหม่ๆ ที่มีศักยภาพสูง เพื่อเสริมแกร่งธุรกิจร่วมกัน สู่การเติบโตอย่างไม่หยุดยั้งในยุค New Normal” นายไท กล่าวปิดท้าย
&nbsp;
เกี่ยวกับเซ็นทรัล รีเทล
บริษัท เซ็นทรัล รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ เซ็นทรัล รีเทล เป็นผู้นำธุรกิจค้าปลีกในประเทศไทย และเป็นบริษัทเรือธงด้านค้าปลีกซึ่งเป็นรากฐานของกลุ่มเซ็นทรัล มีเครือข่ายร้านค้าภายใต้แบรนด์ค้าปลีก 3,687 ร้านค้า (ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2564) นำเสนอสินค้าหลากหลายประเภท (Multi-category) ผ่านรูปแบบและช่องทางที่หลากหลาย (Multi-format) อาทิ ห้างสรรพสินค้า, ร้านสะดวกซื้อ, ร้านขายสินค้าเฉพาะทาง, ซูเปอร์มาร์เก็ต, ไฮเปอร์มาร์เก็ต, พลาซ่า และการจำหน่ายสินค้าออนไลน์บนแพลตฟอร์มออมนิชาแนล ธุรกิจของเซ็นทรัล รีเทล ครอบคลุมทั้งหมด 4 กลุ่มธุรกิจ ได้แก่ (1) กลุ่มแฟชั่น เน้นสินค้าเสื้อผ้าและเครื่องประดับ ภายใต้ ห้างสรรพสินค้าเซ็นทรัล, ห้างสรรพสินค้าโรบินสัน, ซูเปอร์สปอร์ต, เซ็นทรัล มาร์เก็ตติ้ง กรุ๊ป (CMG) และรีนาเชนเต (Rinascente); (2) กลุ่มฮาร์ดไลน์ เน้นสินค้าอิเล็กทรอนิกส์ และสินค้าตกแต่งซ่อมแซมบ้าน ภายใต้ ไทวัสดุ, บ้านแอนด์บียอนด์, เพาเวอร์บาย, เหงียนคิม, ออฟฟิศเมท, บีทูเอส, และเมพ (e-book); (3) กลุ่มฟู้ด เน้นสินค้าของสดและของใช้บริโภคในครัวเรือน ภายใต้ เซ็นทรัล ฟู้ด ฮอลล์, ท็อปส์ มาร์เก็ต, ท็อปส์ เดลี่, แฟมิลี่มาร์ท, บิ๊กซี/โก! และลานชี มาร์ท; และ (4) กลุ่มพร้อพเพอร์ตี้ เน้นให้เช่าพื้นที่ค้าปลีกแก่บุคคลภายนอกและร้านค้าในเครือฯ ภายใต้ โรบินสัน ไลฟ์สไตล์ เซ็นเตอร์, ท็อปส์ พลาซ่า, และบิ๊กซี/โก! โดย ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2564 เซ็นทรัล รีเทล ดำเนินธุรกิจใน 3 ประเทศ ได้แก่ ประเทศไทย ทั้งหมด 54 จังหวัด, ประเทศเวียดนาม ทั้งหมด 39 จังหวัด, และประเทศอิตาลี ในเมืองหลักๆ ทั่วประเทศ (ข้อมูล ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2564)
เกี่ยวกับ เมอร์คูลาร์
บริษัท เมอร์คูลาร์ จำกัด สตาร์ทอัพไทยไฟแรงที่มียอดขายออนไลน์มากที่สุดในกลุ่มสินค้า Hobby &amp; Lifestyle โดยในปัจจุบันบริษัทมีสินค้ากลุ่ม Hobby &amp; Lifestyle บนเว็บไซต์มากกว่า 20,000 ประเภท (ข้อมูล ณ วันที่ 1 กันยายน 2564) ประกอบด้วยหมวดสินค้าดังต่อไปนี้ หูฟัง ลำโพง สมาร์ทโฮม คอมพิวเตอร์และอุปกรณ์ เกมมิ่งเกียร์ สมาร์ทการ์ดเจ็ท อุปกรณ์เสริมมือถือ ของเล่นและของสะสม เกมคอนโซล โดรนและกล้อง ซึ่ง Mercular เป็นช่องทางหลักในการจัดจำหน่ายสินค้าดังกล่าว โดยมีพันธกิจในการเสริมสร้างคุณค่า แก่งานอดิเรกทุกประเภท ทั้งนี้ บริษัทมีเป้าหมายที่จะสร้างประสบการณ์ในการเลือกซื้อสินค้าอย่างเป็นกันเอง และง่ายต่อการซื้อสินค้าออนไลน์ ซึ่งบริษัทคำนึงถึงความต้องการของเหล่า Hobbyist และมุ่งเน้นที่จะสร้างแพลตฟอร์มที่ตอบโจทย์ และสร้างคุณค่าได้มากที่สุด

%e0%b9%80%e0%b8%8b%e0%b9%87%e0%b8%99%e0%b8%97%e0%b8%a3%e0%b8%b1%e0%b8%a5-%e0%b8%a3%e0%b8%b5%e0%b9%80%e0%b8%97%e0%b8%a5-%e0%b8%a5%e0%b8%87%e0%b8%97%e0%b8%b8%e0%b8%99%e0%b9%83%e0%b8%99-mercular-2

เซ็นทรัล รีเทล ลงทุนใน Mercular  ร่วมกันสร้างประสบการณ์ Shopping แก่คนรุ่นใหม่ มุ่งหน้าสู่การเป็น “New Retail”

zipmex-%e0%b8%9b%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a8%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%94%e0%b8%a1%e0%b8%97%e0%b8%b8%e0%b8%99-series-b-%e0%b8%88%e0%b8%b2%e0%b8%81%e0%b8%81-2

Zipmex ประกาศการระดมทุน Series B  จากกรุงศรี ฟินโนเวต

%e0%b8%81%e0%b8%a3%e0%b8%b8%e0%b8%87%e0%b8%a8%e0%b8%a3%e0%b8%b5-%e0%b8%9f%e0%b8%b4%e0%b8%99%e0%b9%82%e0%b8%99%e0%b9%80%e0%b8%a7%e0%b8%95-%e0%b9%80%e0%b8%9b%e0%b8%b4%e0%b8%94%e0%b8%81%e0%b8%ad-2_1

กรุงศรี ฟินโนเวต เปิดกองทุนสตาร์ทอัพครั้งแรกในไทย “ฟินโนเวนเจอร์ ฟันด์ I”

Eventpop มีประสบการณ์ด้านการพัฒนาโซลูชันทั้งแบบที่เป็นซอฟท์แวร์และฮาร์ดแวร์ ซึ่งช่วยส่งต่อบริการที่ยอดเยี่ยมแก่ผู้ใช้บริการมาอย่างยาวนาน  SYNQA เชื่อมั่นว่าความเชี่ยวชาญที่ Eventpop มีจะเข้ามาเป็นอีกกำลังสำคัญที่ช่วยผลักดันให้ SYNQA เข้าใกล้เป้าหมายขององค์กร คือเปิดกว้างผลิตภัณฑ์ทางการเงิน (financial products) ให้เข้าถึงผู้คนได้ทั่วโลก
&nbsp;
ความน่าสนใจของการเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้
&nbsp;
ธุรกิจจัดงานอีเว้นท์เป็นหนึ่งในธุรกิจกลุ่มที่ได้รับผลกระทบรุนแรงที่สุดจากการแพร่ระบาด เพื่อประคองให้ธุรกิจเดินหน้าเติบโตไปอย่างต่อเนื่องท่ามกลางสภาวะนี้ ทาง Eventpop ได้นำเทคโนโลยีอย่างโซลูชัน O2O (Online to Offline Solution) และความเชี่ยวชาญด้านการพัฒนาประสบการณ์ผู้ใช้งานซึ่งทางบริษัทมีอยู่แล้ว มาประยุกต์ใช้กับธุรกิจและอุตสาหกรรมประเภทอื่นๆ
&nbsp;
ก่อนการเข้าซื้อกิจการในครั้งนี้ SYNQA และ Eventpop อยู่ระหว่างการร่วมพัฒนาแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซแบบ omnichannel ร่วมกัน โดยแพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซนี้จะช่วยยกระดับประสบการณ์ซื้อขายสินค้าออนไลน์ รวมไปถึงปรับระบบงานหลังบ้านให้อยู่ในรูปแบบดิจิทัลอีกด้วย แพลตฟอร์มอีคอมเมิร์ซนี้มีแผนเปิดให้ใช้บริการในช่วงปลายปีนี้
&nbsp;
“เรามีความสัมพันธ์ที่แน่นแฟ้นกับ Eventpop มายาวนาน ตั้งแต่ช่วงแรกๆ ที่เริ่มทำธุรกิจรับชำระเงิน และในช่วงไม่กี่ปีที่ผ่านมานี้ เราก็ได้ทำโปรเจ็คร่วมกับ Eventpop อยู่เสมอ จากการทำงานร่วมกันนี้เองที่ทำให้ผมเห็นถึงศักยภาพโดดเด่นของเราทั้ง 2 ฝ่าย ผมเชื่อว่าการผนึกกำลังร่วมกัน จะนำไปสู่องค์กรที่เข้มแข็งมากขึ้น ผมรู้สึกยินดีและตื่นเต้นกับความร่วมมือใหม่นี้มาก” คุณจุน ฮาเซกาวา ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร SYNQA กล่าว
&nbsp;
บริการด้านการจัดงานอีเว้นท์ของ Eventpop จะยังคงดำเนินต่อไปภายใต้เครือ SYNQA โดยระหว่างนี้จะพัฒนาบริการให้ดียิ่งขึ้นต่อไป เพื่อเตรียมความพร้อมในระหว่างที่ทั่วโลกค่อยๆ เตรียมกลับสู่สภาวะปกติ ในอนาคตจะมีความต้องการของประสบการณ์ที่หลากหลายเพิ่มมากขึ้น ซึ่งตรงนี้จะต้องใช้เทคโนโลยีเข้ามาเป็นตัวช่วย การผนึกกำลังของ 2 องค์กรเข้าด้วยกันจะเสริมทั้งความแข็งแกร่งในฐานะผู้ให้บริการแพลตฟอร์มงานอีเว้นท์ และจะยังเป็นการขยายกลุ่มผลิตภัณฑ์ (product ecosystem) ภายใต้ SYNQA อีกด้วย
&nbsp;
คุณภัทรพร โพธิ์สุวรรณ ผู้ก่อตั้งและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร Eventpop กล่าวว่า “เรามีความมุ่งมั่นตั้งใจในเรื่องของเทคโนโลยีคุณภาพสูง ประสบการณ์ผู้ใช้งานที่ราบรื่น และการบริการที่เป็นเลิศมาโดยตลอด และเราก็ยังเชื่อเรื่องการเข้าถึงบริการทางการเงินได้อย่างทั่วถึงด้วย การทำให้คนเข้าถึงบริการทางการเงินผ่านผลิตภัณฑ์ที่เข้าถึงและใช้ได้ง่าย จะช่วยผลักดันให้เกิดการเปลี่ยนแปลงสู่ดิจิทัลที่รวดเร็วมากยิ่งขึ้น การร่วมมือกันกับ SYNQA จะช่วยให้เราเติบโตขึ้น ไม่เพียงแต่ในแง่มุมของการพัฒนาแพลตฟอร์ม แต่การไปสู่เป้าหมายของเรา ที่ต้องการจะนำเสนอโซลูชันที่ดีของเราไปทั่วโลก”
&nbsp;
&nbsp;
เกี่ยวกับ SYNQA
&nbsp;
SYNQA เป็นบริษัทโฮลดิ้งที่ก่อตั้งขึ้นในปี 2558 มีความเชี่ยวชาญในภูมิภาคเอเชีย SYNQA เป็นบริษัทแม่ของ Omise และ Opn SYNQA มีความเชี่ยวชาญด้านระบบรับชำระเงินออนไลน์, เทคโนโลยีบล็อกเชนในฟินเทค และการนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้ในธุรกิจ (digital transformation) พันธกิจของ SYNQA คือการเชื่อมโยงผู้คน องค์กรธุรกิจ และสังคม ผ่านการประยุกต์ใช้นวัตกรรมใหม่ๆ โดยมุ่งที่จะกระจายโอกาสทางการเงินและทำให้การเข้าถึงระบบนิเวศทางเศรษฐกิจ (economic ecosystem) ที่กำลังเติบโตขึ้นมีความเปิดกว้างและเป็นธรรม สามารถศึกษาข้อมูลเกี่ยวกับ SYNQA เพิ่มเติมได้ที่<a href="http://www.synqa.co/" target="_blank" rel="noopener"> www.synqa.co</a>
&nbsp;
&nbsp;
เกี่ยวกับ Eventpop
&nbsp;
Eventpop คือ end-to-end แพลตฟอร์มสำหรับผู้จัดอีเว้นท์และผู้ที่ต้องการประชาสัมพันธ์กิจกรรมรวมไปถึงโซลูชั่นในการจัดการอีเว้นท์ โดยที่เป้าหมายของ Eventpop คือการทำให้ผู้จัดอีเว้นท์ นักโฆษณาในธุรกิจทุกขนาดสามารถเติบโตธุรกิจของตนเอง Eventpop ก่อตั้งในปี 2558 ได้มีการสนับสนุนอีเว้นท์กว่า 10,000
อีเว้นท์ และมีผู้ร่วมอีเว้นท์กว่า 3,000,000 คน ในสถานการณ์โรคระบาดทั่วโลก Eventpop มีการจัดแพลตฟอร์ม virtual run การจำลองสภาพแวดล้อมของงานอีเว้นท์ที่จัดขึ้นจริงในโลกออนไลน์ (virtual event) สำหรับบริษัทต่างๆและรัฐบาลเพื่อให้สามารถดำเนินธุรกิจและกิจกรรมต่อไป
&nbsp;
ติดต่อฝ่ายสื่อสารองค์กร: press@synqa.co
&nbsp;
ข่าวประชาสัมพันธ์นี้ ทางทีมทรู ดิจิทัล พาร์คได้รับข้อมูลมาจาก SYNQA

synqa-acquires-majority-stake-of-eventpop_1

SYNQA เข้าซื้อหุ้นส่วนใหญ่ในกิจการ Eventpop

<ul>
<li>หญิงตั้งครรภ์ 12 สัปดาห์ขึ้นไป มีใบรับรองแพทย์ หรือสมุดฝากครรภ์</li>
<li>ผู้มีน้ำหนักตัว 100 กิโลกรัมขึ้นไป</li>
<li>ผู้สูงอายุ 58 ปีขึ้นไป (เกิดปี 2506 หรือก่อนหน้าเท่านั้น)</li>
</ul>
 
*ผู้รับวัคซีนต้องอาศัยหรือทำงานในกรุงเทพมหานครเท่านั้น ผู้ที่มีที่อยู่ต่างจังหวัดในบัตรประชาชน ต้องแสดงหลักฐานการอยู่อาศัย/ทำงานในกทม. เช่น จดหมายจากธนาคาร ชื่อในสำเนาทะเบียนบ้าน สัญญาเช่าที่อยู่ หรือ ใบรับรองการทำงาน ที่มีที่อยู่ในกทม.เท่านั้น หากไม่สามารถแสดงหลักฐานได้ เราขอสงวนสิทธิงดฉีดวัคซีนให้
**ไม่รับผู้ป่วย 7 กลุ่มโรค ที่อายุต่ำกว่า 58 ปี
***ไม่รวมผู้ติดตาม
 
กรุณานำบัตรประชาชนมาด้วย
เข้ามารับวัคซีนได้ตั้งแต่ 10-14 สิงหาคม 2564 เวลา 9.00-16.00 น.
&nbsp;
การเตรียมตัวก่อนเข้ารับวัคซีน
- หลับให้เพียงพอ ไม่อดนอน
- เลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และชา-กาแฟ
- ต้องไม่มีอาการไข้ หรืออาการเจ็บป่วย
- 2 วันก่อนฉีดและหลังฉีด ควรงดออกกำลังกายหนัก
&nbsp;
รายละเอียดทรู ดิจิทัล พาร์ค
- ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท ก่อนถึงซอย 101/1
- ห่างจาก BTS ปุณณวิถี 300 เมตร กรุณาใช้ทางออก 6
- ที่อยู่บน Google Map: <a href="https://g.page/TrueDigitalPark?share">https://g.page/TrueDigitalPark?share</a>
- จอดรถได้ฟรี 3 ชั่วโมง

%e0%b8%ab%e0%b8%99%e0%b9%88%e0%b8%a7%e0%b8%a2%e0%b8%89%e0%b8%b5%e0%b8%94%e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8%84%e0%b8%8b%e0%b8%b5%e0%b8%99%e0%b8%97%e0%b8%a3%e0%b8%b9-%e0%b8%94%e0%b8%b4%e0%b8%88%e0%b8%b4-2_1

หน่วยฉีดวัคซีนทรู ดิจิทัล พาร์ค เปิดลงทะเบียนหน้างาน ให้คนท้อง ผู้สูงอายุ และผู้มีน้ำหนักตัว 100 กิโลกรัมขึ้นไป

กรุงเทพฯ, ประเทศไทย – 2 สิงหาคม 2564 – <a href="https://www.centarahotelsresorts.com/th/" target="_blank" rel="noopener">โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา</a> เครือโรงแรมชั้นนำของประเทศไทย และ<a href="https://www.truedigitalpark.com/">ทรู ดิจิทัล พาร์ค</a> ศูนย์กลางเทคและสตาร์ทอัพที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน ร่วมจัดโครงการ “Centara Hotels and Resorts X True Digital Park present CENTARA Startup Sandbox” เวทีการแข่งขันที่ปูทางให้สตาร์ทอัพหน้าใหม่ได้มีโอกาสแจ้งเกิดธุรกิจภายในระยะเวลา 3 เดือน ด้วยระบบนิเวศสมบูรณ์แบบครบวงจรเพื่อสตาร์ทอัพ ครอบคลุมทั้งพื้นที่นั่งทำงาน สิ่งอำนวยความสะดวก ตลอดจนการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับธุรกิจสตาร์ทอัพ และเงินทุนสนับสนุน
&nbsp;
โปรแกรมสตาร์ทอัพ แซนด์บ็อกซ์ (Startup Sandbox) เป็นโครงการความร่วมมือระหว่างทรู ดิจิทัล พาร์ค และโรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทาราที่ร่วมกันจัดเวทีการแข่งขันเพื่อเปิดโอกาสผู้ประกอบการรุ่นใหม่ได้พัฒนาไอเดียเป็นธุรกิจและเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน โดยเซ็นทาราและทรู ดิจิทัล พาร์ค พร้อมสนับสนุนผู้ประกอบการในการให้คำปรึกษาและคำแนะนำอย่างใกล้ชิดแก่ทีมผู้เข้าแข่งขันตลอด 3 เดือนที่ร่วมโครงการ ต่อเนื่องจนถึงการคัดเลือกและตัดสินทีมผู้ชนะการประกวด
&nbsp;
“ธุรกิจการท่องเที่ยวและโรงแรมก้าวไปข้างหน้าอย่างไม่หยุดนิ่ง เรามีความยินดีเป็นอย่างยิ่งที่ได้ร่วมกับทรู ดิจิทัล พาร์ค ในการจัดโปรแกรมสตาร์ทอัพ แซนด์บ็อกซ์ ที่จะนำความคิดและนวัตกรรมใหม่ๆ มาสู่ธุรกิจโรงแรมในไทย อีกทั้งยังเป็นการช่วยผลักดันให้ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ในไทยได้เกิดและเติบโตขึ้น ซึ่งจะเป็นแรงขับเคลื่อนอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวและโรงแรมในไทยให้เติบโตต่อไปในภายภาคหน้า” ธีระยุทธ จิราธิวัฒน์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา กล่าว
 
“ทรู ดิจิทัล พาร์ค พร้อมนำศักยภาพและความแข็งแกร่งของระบบนิเวศครบวงจรเพื่อสตาร์ทอัพและผู้ประกอบการด้านดิจิทัลและเทคโนโลยี เติมเต็มทักษะความรู้ความสามารถและสนับสนุนวิถีการทำงานของสตาร์ทอัพอย่างเต็มรูปแบบ การร่วมเป็นพันธมิตรกับเซ็นทาราในโปรแกรมสตาร์ทอัพ แซนด์บ็อกซ์ ในครั้งนี้ เชื่อว่าจะช่วยปูทางให้สตาร์ทอัพหน้าใหม่แจ้งเกิดธุรกิจได้อย่างรวดเร็วแบบก้าวกระโดด พร้อมช่วยยกระดับอุตสากรรมธุรกิจโรงแรมให้ก้าวหน้าอีกด้วย” ดร.ธาริต นิมมานวุฒิพงษ์ ผู้จัดการทั่วไป ทรู ดิจิทัล พาร์ค กล่าว
&nbsp;
ผู้เข้าแข่งขันทุกทีมภายใต้โปรแกรม “เซ็นทารา สตาร์ทอัพ แซนด์บ็อกซ์” จะต้องแข่งขันภายใต้โจทย์ การคิดค้นนวัตกรรมหรือการบริการใหม่ๆ ที่เซ็นทาราสามารถทำเพื่อช่วยยกระดับประสบการณ์การเข้าพักที่โรงแรมของลูกค้าให้น่าจดจำและประทับใจมากยิ่งขึ้น
&nbsp;
ทีมที่ชนะการประกวดจะได้รับเงินรางวัล 100,000 บาท พร้อมสิทธิ์การใช้บริการพื้นที่นั่งทำงานที่ทรู ดิจิทัล พาร์ค ฟรีเป็นเวลา 6 เดือน โดยทีมอันดับสองและสาม จะได้รับสิทธิ์การใช้บริการพื้นที่นั่งทำงานที่ทรู ดิจิทัล พาร์ค ฟรีเป็นเวลา 3 เดือน
&nbsp;
นอกจากนั้น เซ็นทารายังมอบบัตรกำนัลที่พักให้แก่ผู้ชนะทั้ง 3 ทีม ดังนี้
<ul>
<li>รางวัลที่หนึ่ง: บัตรกำนัลที่พักโรงแรมเซ็นทารา รีเซิร์ฟ สมุย จำนวน 2 คืน สำหรับห้องดีลักซ์วิวทะเล พร้อมอาหารเช้าสำหรับ 2 ท่าน มูลค่า 23,775 บาทต่อหนึ่งรางวัล (3 รางวัลต่อทีม)</li>
<li>รางวัลที่สอง: บัตรกำนัลที่พักโรงแรมเซ็นทารา แกรนด์ บีช รีสอร์ท ภูเก็ต จำนวน 2 คืน สำหรับห้อง ดีลักซ์ พร้อมอาหารเช้าสำหรับ 2 ท่าน มูลค่า 12,947 บาทต่อหนึ่งรางวัล (3 รางวัลต่อทีม)</li>
<li>รางวัลที่สาม: บัตรกำนัลที่พักโรงแรมโคซี่ พัทยา วงศ์อมาตย์ บีช จำนวน 2 คืน สำหรับห้องโคซี่ พลัส พร้อมเครดิตมื้ออาหารสำหรับ 2 ท่าน มูลค่า 3,295 บาทต่อหนึ่งรางวัล (3 รางวัลต่อทีม)</li>
</ul>
&nbsp;
ผู้เข้าแข่งขันแต่ละทีมจะต้องมีสมาชิกในทีมอย่างต่ำ 3 คนขึ้นไป ไม่จำกัดสัญชาติ อายุ 18 ปีขึ้นไป และเป็นผู้ที่มีไอเดียธุรกิจเกี่ยวกับการท่องเที่ยวและโรงแรม สามารถสมัครได้ตั้งแต่วันนี้ จนถึง 6 กันยายน 2564 ที่ <a href="https://truedigitalpark.typeform.com/to/S5oh7mUU" target="_blank" rel="noopener">truedigitalpark.typeform.com</a>
สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมเกี่ยวกับ “เซ็นทารา สตาร์ทอัพ แซนด์บ็อกซ์” ได้ที่ <a href="https://www.truedigitalpark.com/startup-support/centara-startup-sandbox">https://www.truedigitalpark.com/startup-support/centara-startup-sandbox</a>
&nbsp;
&nbsp;
เกี่ยวกับเซ็นทารา
โรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทารา เครือโรงแรมชั้นนำของประเทศไทย มีโรงแรมและรีสอร์ทภายใต้การบริหารของแบรนด์ ซึ่งตั้งอยู่ในแหล่งท่องเที่ยวที่สำคัญรวมทั้งสิ้น 84 แห่งทั่วโลก ได้แก่ ไทย มัลดีฟส์ ศรีลังกา เวียดนาม ลาว เมียนมา จีน ญี่ปุ่น โอมาน กาตาร์ และสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ซึ่งใช้ชื่อ 6 แบรนด์ ประกอบด้วย Centara Reserve • Centara Grand Hotels &amp; Resorts • Centara Hotels &amp; Resorts • Centara Boutique Collection • Centra by Centara และ COSI ครอบคลุมตั้งแต่โรงแรมและรีสอร์ทหรูบนเกาะที่เงียบสงบ และรีสอร์ทระดับ 5 ดาว สำหรับครอบครัว ไปจนถึงโรงแรมไลฟ์สไตล์ในช่วงราคาที่จับต้องได้ซึ่งผสมผสานกับนวัตกรรมทางเทคโนโลยีเพื่อการพักผ่อนที่ลงตัว เซ็นทาราเปิดตัวแบรนด์ใหม่สุดหรู “เซ็นทารา รีเซิร์ฟ” เป็นที่แรกที่สมุย ในปี 2563 เซ็นทารา รีเซิร์ฟ สมุย นำเสนอคอนเซ็ปท์ในการรังสรรค์ประสบการณ์การเข้าพักที่จะทำให้ลูกค้าสัมผัสได้ถึงการพักผ่อนอันหรูหราเหนือระดับ ทั้งยังเต็มเปี่ยมไปด้วยเรื่องราวและความทรงจำอันสุดแสนพิเศษเฉพาะตัว
&nbsp;
เซ็นทารามอบการต้อนรับที่อบอุ่นด้วยค่านิยมความเป็นไทยที่บรรจงถ่ายทอดสู่งานบริการ อาหารรสเลิศ สปา เพื่อการผ่อนคลายที่เยี่ยมยอด และให้ความสำคัญกับครอบครัว แบรนด์ภายใต้เครือเซ็นทารานำเอาวัฒนธรรมที่โดดเด่นและหลากหลายเข้ามาผสมผสานเพื่อให้บริการและตอบสนองนักเดินทางได้ทุกวัยและทุกไลฟ์สไตล์
&nbsp;
เซ็นทารามุ่งมั่นที่จะก้าวสู่การเป็นหนึ่งใน 100 กลุ่มโรงแรมชั้นนำของโลก โดยเดินหน้าขยายสาขาไปยังทวีปและตลาดใหม่ๆ เซ็นทาราเติบโตอย่างต่อเนื่องและมั่นคงด้วยฐานของลูกค้าที่เหนียวแน่น ซึ่งจะได้พบกับบริการที่เป็นเอกลักษณ์ของเราในตำแหน่งที่ตั้งสำคัญๆ มากขึ้น บัตรสิทธิประโยชน์สำหรับสมาชิกเซ็นทารา เดอะวัน ยังช่วยให้สมาชิกทั่วโลกที่รักในเซ็นทาราได้อภิสิทธิ์ที่เหนือกว่า ข้อเสนอสุดพิเศษ และเสริมสร้างความจงรักภักดีต่อเซ็นทารา
&nbsp;
ติดตามข่าวสารของโรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทาราได้ที่ <a href="http://www.centarahotelsresorts.com" target="_blank" rel="noopener">www.centarahotelsresorts.com</a>
เฟซบุ๊ค  <a href="https://www.facebook.com/centarahotelsresortsThai/" target="_blank" rel="noopener">Facebook</a>         อินสตาแกรม  <a href="https://www.instagram.com/explorecentara/" target="_blank" rel="noopener">Instagram</a>       ทวิตเตอร์  <a href="https://twitter.com/ExploreCentara" target="_blank" rel="noopener">Twitter</a>       ลิงค์อิน    <a href="https://www.linkedin.com/company/centara-hotels-&amp;-resorts" target="_blank" rel="noopener">LinkedIn</a>
ดาวน์โหลดภาพของโรงแรมและรีสอร์ทในเครือเซ็นทาราได้ที่เว็บไซต์ <a href="http://www.centarahotelsresorts.com/imagebank" target="_blank" rel="noopener">Image Bank</a>

centara-collaborates-with-true-digital-park-in-startup-competition

เซ็นทารา จับมือ ทรู ดิจิทัล พาร์ค เปิดเวทีแข่งขันเฟ้นหาสตาร์ทอัพในไทย

ตามประกาศการเลื่อนฉีดวัคซีนของกทม. หากมีการเปิดให้บริการจะแจ้งให้ทราบอีกครั้ง
&nbsp;
ผู้ที่มีคิวผ่าน “ไทยร่วมใจ” ตั้งแต่ 1 กรกฎาคม 2564 เป็นต้นไป กรุณารอประกาศการจัดสรรวัคซีน ในระหว่างนี้กรุณาอย่าเปลี่ยนหรือยกเลิกวันของท่าน
&nbsp;
ติดตามข่าวสารได้ที่
Facebook <a href="https://www.facebook.com/%E0%B9%84%E0%B8%97%E0%B8%A2%E0%B8%A3%E0%B9%88%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B9%83%E0%B8%88-%E0%B8%81%E0%B8%A3%E0%B8%B8%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%9E%E0%B8%AF-%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%A2-Safe-Bangkok-100800932218000" target="_blank" rel="noopener">ไทยร่วมใจ กรุงเทพปลอดภัย</a>
Call Center ไทยร่วมใจ 1516
ขออภัยในความไม่สะดวกมา ณ โอกาสนี้

%e0%b8%ab%e0%b8%99%e0%b9%88%e0%b8%a7%e0%b8%a2%e0%b8%9a%e0%b8%a3%e0%b8%b4%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%89%e0%b8%b5%e0%b8%94%e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8%84%e0%b8%8b%e0%b8%b5%e0%b8%99-%e0%b8%97%e0%b8%a3_1

หน่วยบริการฉีดวัคซีนทรู ดิจิทัล พาร์ค ปิดบริการชั่วคราว ตั้งแต่ 31 กรกฎาคม

มีให้เลือก 7 เส้นทางด้วยกัน:
<ol>
<li style="font-weight: 400;" aria-level="1">การเงินและประกันภัย: การผสานรวมนวัตกรรมของเทคโนโลยีเข้ากับภาคส่วนการเงินและการประกัน</li>
<li style="font-weight: 400;" aria-level="1">เทคโนโลยีการดูแลสุขภาพ: เทคโนโลยีที่ปฏิวัติแนวทางการให้บริการด้านสุขภาพ พัฒนาคุณภาพชีวิตของผู้ป่วยและพัฒนาการให้บริการของผู้ให้บริการ</li>
<li style="font-weight: 400;" aria-level="1">เทคโนโลยีการศึกษา: โซลูชั่นดิจิทัลที่เสริมประสิทธิภาพบริการด้านการศึกษา เปลี่ยนรูปโฉมการแบ่งปันและรับข้อมูล</li>
<li style="font-weight: 400;" aria-level="1">โทรคมนาคม: ผลิตภัณฑ์หรือบริการที่จะช่วยเปลี่ยนโฉมหน้าแนวทางและวิธีการสื่อสารของเรา</li>
<li style="font-weight: 400;" aria-level="1">eCommerce/อินเตอร์เน็ต: เทคโนโลยีสำหรับพื้นที่ให้บริการ eCommerce หรือการใช้ประโยชน์จากอินเตอร์เน็ตเพื่อให้บริการหรือสร้างผลิตภัณฑ์ใหม่ ๆ</li>
<li style="font-weight: 400;" aria-level="1">สื่อและเกม: เทคโนโลยีใหม่ที่สามารถปรับเปลี่ยนการให้บริการในอุตสาหกรรมสื่อและการเล่นเกม เพื่อนำประสบการณ์ใหม่ ๆ มาสู่ผู้ใช้งาน</li>
<li style="font-weight: 400;" aria-level="1">แอปพลิเคชั่นมือถือ: แอปพลิเคชั่นที่ “เป็นเลิศ” และปลดล็อคคุณสมบัติที่แท้จริงรวมถึงศักยภาพของ 5G เช่น mMTC, URLLC, eMBB</li>
</ol>
&nbsp;
สตาร์ทอัพ 10 อันดับแรกจะได้เข้าร่วมการแข่งขันเพื่อให้ได้: 
&nbsp;
1. เข้าร่วมในโปรแกรม Huawei Spark Program 
a. ผู้ชนะเลิศ: Huawei Spark Fire, “Accelerate” Tier และโปรแกรม Spark Go-China 
b. อันดับ 2 และ 3: “Accelerate” Tier และโปรแกรม Spark Go-China
c. อันดับ 4 และ 5: “Incubate” Tier
&nbsp;
2. รางวัล TusPark: ฟรีสำนักงานแยกอิสระ การโปรโมทแบรนด์ และการเป็นสมาชิก Eco เป็นเวลา 2 ปี 
3. การฝึกสอนแบบเอ็กซ์คลูซีฟและโอกาสการพัฒนาธุรกิจจากคณะกรรมการที่ปรึกษา Spark ซึ่งประกอบด้วยผู้นำอุตสาหกรรมระดับ C จำนวนถึง 20 คน
4. เครดิตคลาวน์สูงสุด USD125K
&nbsp;
เข้าร่วมวันนี้และยกระดับสตาร์ทอัพของคุณสู่ความก้าวหน้าอีกขั้น!
<a href="https://bit.ly/HuaweiSparkThailand_tdp" target="_blank" rel="noopener">คลิกที่นี่เพื่อดูรายละเอียด</a>
ปิดรับสมัครวันที่ 20 กรกฎาคม 2021
&nbsp;
&nbsp;

huawei-spark-ignite-thailand-a-startup-competition-in-thailand_1

Huawei Spark Ignite 2021 – การแข่งขันสตาร์ทอัพในประเทศไทย

<div class="" data-block="true" data-editor="5rp1e" data-offset-key="ct7pm-0-0">
<div class="public-DraftStyleDefault-block public-DraftStyleDefault-ltr" data-offset-key="ct7pm-0-0">
We are proud to be partnering with Gobi Partners to host She Loves Tech 2021, the world’s largest startup competition for women and technology! Having raised 250 million dollars for over 5000 startups in the past 7 years, She Loves Tech is now bigger and better with over 40 countries across the globe competing, connecting you to an even larger stage with more investors, entrepreneurs, and other ecosystem enablers to scale your startup.
Startups will be competing to win up to $50,000 from She Loves Tech, Teja Ventures and Asian Development Bank Ventures, special media and mentorship prizes, fast track access to our partner funds and accelerator programs, and in-house advisory services among others.
If you are a<a href="https://www.linkedin.com/feed/hashtag/?keywords=tech&amp;highlightedUpdateUrns=urn%3Ali%3Aactivity%3A6808022450165559296"> #tech</a><a href="https://www.linkedin.com/feed/hashtag/?keywords=startup&amp;highlightedUpdateUrns=urn%3Ali%3Aactivity%3A6808022450165559296"> #startup</a> who has funding of under US$5M and at least one<a href="https://www.linkedin.com/feed/hashtag/?keywords=femalefounder&amp;highlightedUpdateUrns=urn%3Ali%3Aactivity%3A6808022450165559296"> #femalefounder</a> or majority female users/consumers, apply now at<a href="http://apply.shelovestech.org" target="_blank" rel="noopener"> apply.shelovestech.org</a> to accelerate your startup and join the She Loves Tech community!
&nbsp;
</div>
</div>
<div class="" data-block="true" data-editor="5rp1e" data-offset-key="bk5ot-0-0">
<div class="public-DraftStyleDefault-block public-DraftStyleDefault-ltr" data-offset-key="bk5ot-0-0"></div>
<div class="public-DraftStyleDefault-block public-DraftStyleDefault-ltr" data-offset-key="bk5ot-0-0"><img class="wp-image-1506 alignleft" src="https://morphosis-staging.s3.ap-southeast-1.amazonaws.com/wpuploads/SLT2021.2_Competition-Prizes.jpeg" alt="" width="281" height="281" /><img class="wp-image-1508 aligncenter" src="https://morphosis-staging.s3.ap-southeast-1.amazonaws.com/wpuploads/SLT2021.3_Startup-Qualification.jpeg" alt="" width="279" height="279" /></div>
</div>

she-loves-tech-2021-2_1

She loves tech 2021

ดร.ธีระพล ถนอมศักดิ์ยุทธ หัวหน้าคณะผู้บริหารด้านนวัตกรรมและความยั่งยืน บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น เปิดเผยว่า “ทรูแล็บ สตาร์ทอัพ แซนด์บ็อกซ์” (True Lab Startup Sandbox) เป็นโครงการความร่วมมือระหว่างทรูแล็บ ทรู อินคิวบ์ และทรู ดิจิทัล พาร์ค ที่ผนึกกำลังรวมทุกความต้องการของสตาร์ทอัพ เปิดโอกาสก้าวสู่เส้นทางผู้ประกอบการรุ่นใหม่ พัฒนาไอเดียเป็นธุรกิจและเติบโตขึ้นอย่างแข็งแกร่งและยั่งยืน  โดยหลังจากเปิดรับสมัคร มีนิสิตนักศึกษาส่งผลงานเข้าร่วมประชันไอเดียมากถึง 35 ทีม และมี 10 ทีมที่ผ่านการคัดเลือกเข้าแข่งขัน Hackathon ในรูปแบบออนไลน์ ซึ่งคณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิได้ร่วมกันเฟ้นหา 4 ทีมสุดท้ายที่มีไอเดียโดดเด่น เพื่อเข้าร่วมโปรแกรม Sandbox  นาน 3 เดือน ซึ่งทั้ง 4 ทีมจะได้เข้าหลักสูตรบ่มเพาะ เรียนรู้พร้อมรับคำปรึกษาอย่างใกล้ชิดกับผู้เชี่ยวชาญด้าน Robotic และ AI เพื่อต่อยอดการพัฒนาต้นแบบธุรกิจสู่การเป็นผู้ประกอบการตัวจริง ทั้งยังได้เข้าร่วมกิจกรรมอัพสกิลและสร้างเครือข่ายสตาร์ทอัพ พร้อมใช้พื้นที่ทำงานที่ทรู ดิจิทัล พาร์ค ฟรี และรับสิทธิสมาชิก co-working space นาน 1 ปีหลังสิ้นสุดโครงการ รวมมูลค่ารางวัลตลอดโครงการทั้งสิ้น 1.5  ล้านบาท พร้อมโอกาสต่อยอดธุรกิจกับกลุ่มทรูและเครือเจริญโภคภัณฑ์ ที่จะช่วยติดปีกก้าวสู่การเป็นสตาร์ทอัพอย่างเต็มตัวอีกด้วย
&nbsp;
สำหรับ สตาร์ทอัพ 4 ทีมที่ผ่านการคัดเลือกเข้าร่วมโปรแกรม Sandbox  ได้แก่
<ul>
<li>ประเภทกลุ่ม “การจดจำรูปภาพ” (Image Recognition)</li>
<li>ทีม CoinFit ไอเดียผลงาน แอปพลิเคชันส่งเสริมการออกกำลังกายด้วยวิทยาศาสตร์การกีฬา โดยใช้ระบบจดจำภาพ ผู้ใช้แอปฯจะได้รับรางวัลเป็นสกุลเงินเสมือนจริง</li>
<li>ทีม DeepSec ไอเดียผลงาน สร้าง AI ที่สามารถตรวจจับพฤติกรรมผู้ประสงค์ร้ายและส่งการแจ้งเตือนไปยังผู้ใช้ได้อย่างทันท่วงที ด้วยการสร้าง AI ให้เรียนรู้พฤติกรรมในรูปแบบต่างๆ</li>
<li>ประเภทกลุ่ม “การจดจำเสียงพูด” (Speech Identification) </li>
<li>ทีม Edu-eaves ไอเดียผลงาน แพลตฟอร์มสำหรับช่วยจดบันทึกการเรียนการสอนผ่านระบบคลาวด์ วิเคราะห์คำพูดของผู้สอน รวมถึงการใช้ถ้อยคำที่ไม่เหมาะสมได้ และสามารถเข้าถึงเนื้อหาคาบเรียนเก่าๆ ด้วยเทคโนโลยี information retrieval</li>
<li>ทีม หางกะทิ ไอเดียผลงาน เทคโนโลยีในการวิเคราะห์สัญญาณเสียง สำหรับใช้ในการฟังเสียงเครื่องยนต์ เพื่อวิเคราะห์ปัญหาที่เกิดกับรถยนต์ได้อย่างแม่นยำ</li>
</ul>
 
ร่วมติดตามการพัฒนาไอเดียผลงานของสตาร์ทอัพแต่ละทีม และลุ้นว่าทีมใดจะสามารถคว้ารางวัลชนะเลิศในโครงการ“ทรูแล็บ สตาร์ทอัพ แซนด์บ็อกซ์” (True Lab Startup Sandbox) ซึ่งจะประกาศทีมชนะเลิศในเดือนสิงหาคม 2564 ที่ <a href="https://www.truedigitalpark.com/startup-support/truelabstartupsandbox" target="_blank" rel="noopener">https://www.truedigitalpark.com/startup-support/truelabstartupsandbox</a> และเฟซบุ๊กทรูแล็บ  <a href="https://www.facebook.com/truelab.trueinnovation/posts/1740530209482614" target="_blank" rel="noopener">https://www.facebook.com/truelab.trueinnovation/posts/1740530209482614</a>
--------------------
<a href="https://www.truedigitalpark.com/startup-support/startup-sandbox" target="_blank" rel="noopener">สตาร์ทอัพแซนด์บ็อกซ์</a> เป็นโครงการซิกเนเจอร์ของ True Digital Park ที่มีวัตถุประสงค์เพื่อสนับสนุนสตาร์ทอัพในประเทศไทยด้วยพื้นที่ทำงาน แหล่งความรู้ ชุมชนสตาร์ทอัพ โอกาสในการพบนักลงทุน และความช่วยเหลือพื้นฐานอื่น ๆ

%e0%b8%81%e0%b8%a5%e0%b8%b8%e0%b9%88%e0%b8%a1%e0%b8%97%e0%b8%a3%e0%b8%b9-%e0%b8%9b%e0%b8%b4%e0%b9%8a%e0%b8%87%e0%b9%84%e0%b8%ad%e0%b9%80%e0%b8%94%e0%b8%b5%e0%b8%a2-4-%e0%b8%97%e0%b8%b5%e0%b8%a1-2_1

กลุ่มทรู ปิ๊งไอเดีย 4 ทีมสตาร์ทอัพ โชว์ไอเดียเทคโนโลยี Robotic และ AI สุดเจ๋ง

หลายคนอาจจะไม่รู้ว่าการเป็น YouTuber มีเบื้องหลังอะไรบ้าง ทั้งกานต์และซารต์ จาก Bearhug จะมาบอกเคล็ดลับการเป็น Influencer และ YouTuber ให้น้องๆ นักศึกษารุ่นใหม่ไฟแรง ได้นำเคล็ดลับไปใช้กับ channel ของตัวเอง
- ลุ้นเข้าร่วม Follow your dreams workshop เผยเบื้องหลังการเป็น YouTuber กับกานต์และซารต์จาก Bearhug สำหรับ 200 คนแรก
- รับสิทธิ์นั่งฟรี Co-working ที่ True Digital Park ตั้งแต่วันนี้ - 31 ธ.ค. 64 สำหรับทุกคนที่ลงทะเบียน ไม่จำกัดจำนวน
สิทธิพิเศษนี้สำหรับ นักเรียน นักศึกษา อายุ 18 - 25 ปี เท่านั้น
<img class=" wp-image-1409 aligncenter" src="https://morphosis-staging.s3.ap-southeast-1.amazonaws.com/wpuploads/Bearhug-varierty-Follow-Your-Dreams.jpg" alt="วัยรุ่นทำตามฝันกับ Bearhug" width="1000" height="562" />
รับสิทธิ์ ลุ้นร่วม workshop และนั่งทำงานที่ Co-working space ฟรี เพียง
1) Add LINE Official Account ของ True Digital Park <a href="https://bit.ly/3sXpW1A" target="_blank" rel="noopener">https://bit.ly/3sXpW1A</a>
2) พิมพ์ TDPKBEARHUG และทำการลงทะเบียน
สมัครได้ตั้งแต่ วันนี้ –15 ต.ค. 2564
*สำหรับนักศึกษาที่เป็นสมาชิก TDPK co-working space แล้ว ทางทีมจะส่งลิงค์ให้ลงทะเบียนร่วม Follow Your Dreams workshop ทางอีเมล รบกวนเช็คอีเมลของท่าน
ผู้ที่ได้รับการคัดเลือกเข้าร่วม workshop จะได้รับแจ้งสิทธิ์ผ่าน email
<img class=" wp-image-1665 aligncenter" src="https://morphosis-staging.s3.ap-southeast-1.amazonaws.com/wpuploads/tdpkxbearhug_website_02.jpg" alt="Follow your dreams Bearhug application til 15 Oct " width="964" height="542" />
<iframe title="YouTube video player" src="https://www.youtube.com/embed/zWDpAnMsb-8" width="560" height="315" frameborder="0" allowfullscreen="allowfullscreen"></iframe>
&nbsp;
<h2>สิทธิพิเศษสำหรับสมาชิก UMAX</h2>
พิเศษสำหรับวัยรุ่นสมัครแพ็กเกจรายเดือน U-Max จาก TruemoveH เริ่มต้นเพียง 250.-/เดือน โซเชียลไม่อั้น ไม่เสียค่าเน็ต โทรฟรีในเครือข่าย 24 ชม. นอกจากจะได้ลุ้นสิทธิ์เข้าร่วม workshop แล้ว รับฟรี! ของขวัญพรีเมียม เสื้อยืด True Super Cool ใส่เก๋ๆ เป็นที่ระลึกอีกด้วย เข้ารับได้ที่ ทรูช็อป สาขา ทรู ดิจิทัล พาร์ค มีจำนวนจำกัดเพียง 50 ท่านแรกเท่านั้น
<img class="wp-image-1667 aligncenter" src="https://morphosis-staging.s3.ap-southeast-1.amazonaws.com/wpuploads/Follow-Your-Dreams-UMAX-15-oct.jpg" alt="Follow Your Dreams UMAX 15 oct" width="1001" height="563" />
<h2>รับสิทธิ์นั่งทำงานฟรี Co-working space ที่ True Digital Park ถึง 31 ธ.ค. 64</h2>
มาเปลี่ยนบรรยากาศ เรียนออนไลน์ อัดคลิป YouTube และจองห้องประชุมทำงานกลุ่ม อีกทั้งยังมีร้านค้าครบครัน ทั้ง กิน ช้อป ออกกำลังกาย ทุกความเป็นไปได้ในที่เดียว
Co-working space ตั้งอยู่ที่ ชั้น 6 ตึกทรู ดิจิทัล พาร์ค เชื่อมต่อ BTS ปุณณวิถี
เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 9:00 – 18:00 และปิดวันหยุดนักขัตฤกษ์
<ul>
<li>โต๊ะทำงานดีไซน์ทันสมัยกว่า 250 ที่นั่ง</li>
<li>ฟรี อินเตอร์เน็ตความเร็วสูง</li>
<li>ฟรี ชากาแฟและน้ำดื่ม Infused</li>
<li>ฟรี ที่จอดรถ 3 ช.ม.</li>
<li>บริการเครื่องปริ้นท์ความละเอียดสูง</li>
</ul>
<img class="wp-image-1400 alignnone" src="https://morphosis-staging.s3.ap-southeast-1.amazonaws.com/wpuploads/Bearhug-looking-at-ipad.jpg" alt="Bearhug looking at ipad" width="1001" height="659" />
<h3>สมัครเลย</h3>
ลุ้นร่วม workshop และนั่งทำงานที่ Co-working space ฟรี เพียง<a href="https://bit.ly/3sXpW1A" target="_blank" rel="noopener">แอดไลน์ True Digital Park</a> และพิมพ์ TDPKBEARHUG เพื่อลงทะเบียน

true-digital-park-x-bearhug-%e0%b8%88%e0%b8%b1%e0%b8%94%e0%b9%81%e0%b8%84%e0%b8%a1%e0%b9%80%e0%b8%9b%e0%b8%8d-follow-your-dreams-%e0%b8%8a%e0%b8%a7%e0%b8%99%e0%b8%a7%e0%b8%b1%e0%b8%a2%e0%b8%a3-2

True Digital Park x Bearhug จัดแคมเปญ Follow your dreams ชวนวัยรุ่นทำตามความฝัน

กรุงเทพฯ 7 มิถุนายน 2564 – ทรู ดิจิทัล พาร์ค รายงานการให้บริการฉีดวัคซีนวันแรก (7 มิ.ย. 2564) ของหน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่ ทรู ดิจิทัล พาร์ค ภายใต้ความร่วมมือของเครือเจริญโภคภัณฑ์ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กรุงเทพมหานคร และคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 แก่ประชาชนได้อย่างสะดวก รวดเร็ว และราบรื่น พร้อมเดินหน้าสนับสนุนภารกิจฉีดวัคซีนโควิด-19 อย่างต่อเนื่องเต็มกำลัง  ตอกย้ำพื้นที่ฉีดวัคซีนนอกโรงพยาบาลที่ทันสมัยที่สุด นำศักยภาพโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมและระบบนิเวศดิจิทัลครบวงจรของกลุ่มทรู จัดเต็มนวัตกรรมล้ำสมัย หุ่นยนต์ และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน รวมถึงทีมเจ้าหน้าที่อาสาคอยดูแลและให้บริการ  โดยประชาชนที่ลงทะเบียนผ่านโครงการ “ไทยร่วมใจ กรุงเทพฯ ปลอดภัย Safe Bangkok” สามารถเข้ารับบริการฉีดวัคซีนตามวันและเวลานัดหมายได้ทุกวัน  ระหว่างเวลา 9.00-17.00 น. ณ ทรู ดิจิทัล พาร์ค ถ.สุขุมวิท 101/1
&nbsp;
ผศ.นพ.สนั่น วิสุทธิศักดิ์ชัย รองผู้อำนวยการ โรงพยาบาลศิริราช กล่าวถึงการเพิ่มความสามารถและศักยภาพในการฉีดวัคซีนแก่ผู้ต้องการฉีดวัคซีนให้ได้มากขึ้น ว่า การฉีดวัคซีนในโรงพยาบาลมีข้อจำกัดเรื่องสถานที่และบุคลากร ขณะที่ภาคเอกชนมีความพร้อมทั้งในเรื่องของพื้นที่ที่สะดวกและเหมาะสม โดยเฉพาะขนาดของพื้นที่ที่จะป้องกันความแออัดได้มากกว่าโรงพยาบาล และยังมีกลุ่มอาสาสมัครมาช่วยเหลือ  การสนับสนุนของภาคเอกชนทำให้มีจุดบริการมากขึ้นและแต่ละจุดสามารถรองรับประชาชนได้มากขึ้น จึงช่วยให้สามารถฉีดวัคซีนได้มากขึ้น และทำให้บรรลุเป้าหมายของการฉีดวัคซีนที่ทางรัฐบาลตั้งไว้  ซึ่งการฉีดวัคซีนไม่ได้เป็นการกระทำเพื่อตัวเองเท่านั้น หากฉีดวัคซีนให้ได้ในปริมาณมากจะทำให้ทั้งครอบครัว คนใกล้ชิด และคนอื่นๆได้ประโยชน์ด้วย และในระดับประเทศ จะทำให้อัตราการติดเชื้อในประเทศลดลง สถานการณ์จะค่อยๆ ดีขึ้น และจะหมดไปได้ในที่สุด
<img class="alignnone size-full wp-image-1327" src="https://morphosis-staging.s3.ap-southeast-1.amazonaws.com/wpuploads/165-1_05-%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%B9-%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%A5-%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%84-%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%89%E0%B8%B5%E0%B8%94%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%84%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%81.jpg" alt="ฐนสรณ์ ใจดี กับหุ่นยนต์เสิร์ฟน้ำ" width="1200" height="800" />
นายฐนสรณ์ ใจดี กรรมการผู้จัดการใหญ่ ทรู ดิจิทัล พาร์ค กล่าวว่า หน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคซีน
โควิด-19 ที่ ทรู ดิจิทัล พาร์ค โดยความร่วมมือของเครือเจริญโภคภัณฑ์ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กรุงเทพมหานคร และคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เปิดให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 เป็นวันแรกแล้ววันนี้
(7 มิ.ย. 2564) โดยให้บริการประชาชนที่ลงทะเบียนและเลือกฉีดวัคซีนที่ ทรู ดิจิทัล พาร์ค ผ่านโครงการ “ไทยร่วมใจ กรุงเทพฯ ปลอดภัย Safe Bangkok” ด้วยความสะดวก รวดเร็ว และราบรื่น  โดย ทรู ดิจิทัล พาร์ค ยังคงเดินหน้าสนับสนุนการปฏิบัติภารกิจของทีมแพทย์และบุคลากรการแพทย์อย่างต่อเนื่องเต็มกำลัง ด้วยความใส่ใจในมาตรฐานด้านสุขอนามัย พร้อมนำเทคโนโลยีดิจิทัลล้ำสมัย อาทิ การจัดระบบคิว หุ่นยนต์ให้บริการต่างๆ แพลตฟอร์มบริหารจัดการความหนาแน่นของพื้นที่ให้บริการ และอีกหลากหลายบริการดิจิทัล ช่วยอำนวยความสะดวกและเพิ่มความมั่นใจในความปลอดภัยให้แก่ประชาชนที่มารับบริการฉีดวัคซีน ทั้งนี้ ทรู ดิจิทัล พาร์ค พร้อมสนับสนุนภารกิจฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโควิด-19 ซึ่งถือเป็นวาระแห่งชาติ ตามแนวนโยบายของเครือเจริญโภคภัณฑ์ เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่อย่างเร็วที่สุด และจะเป็นส่วนหนึ่งในการทำให้เศรษฐกิจ สังคม ชุมชน  และวิถีชีวิตของคนไทยกลับคืนสู่สภาวะปกติ
&nbsp;
ทั้งนี้ ทรู ดิจิทัล พาร์ค ได้นำศักยภาพในการเป็นผู้ให้บริการด้านการสื่อสารโทรคมนาคมดิจิทัลครบวงจรของกลุ่มทรู จัดเต็มนวัตกรรมล้ำสมัยเพื่อให้บริการประชาชนที่หน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่ ทรู ดิจิทัล พาร์ค ดังนี้
<ul>
<li>เทคโนโลยีล้ำสมัย เพื่อความสะดวก และปลอดภัย</li>
</ul>
- เครือข่าย True 5G, 4G และ WiFi รองรับการติดต่อสื่อสารเต็มประสิทธิภาพ
- แพลตฟอร์มการจัดคิว ตั้งแต่จุดลงทะเบียน จนถึง จุดพักสังเกตอาการหลังฉีดวัคซีน
- นวัตกรรมอัจฉริยะตรวจวัดสภาพแวดล้อมและจำนวนผู้เข้าใช้บริการ
- หุ่นยนต์ True Digital RoboCore ให้บริการประชาชน อาทิ หุ่นยนต์ต้อนรับและให้ข้อมูล หุ่นยนต์บริการน้ำดื่ม หุ่นยนต์ตรวจพื้นที่และวัดอุณหภูมิ และหุ่นยนต์ฆ่าเชื้อและทำความสะอาดพื้นที่
<ul>
<li>สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน</li>
</ul>
-     True AI Easy Pick ตู้ จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ สร้างประสบการณ์ซื้อสินค้าแบบ Grab-and-Go ง่าย
สะดวก และรวดเร็ว ด้วยกล้อง AI อัจฉริยะ ไม่ต้องใช้เงินสด ลดเสี่ยงติดเชื้อ เพียงแค่สแกนชำระผ่านทรูมันนี่ วอลเล็ท หรือผ่านบัตรเครดิต
- True Vending Machine จุดบริการช้อป เติม จ่าย ง่ายสะดวก ตลอด 24 ชั่วโมง ให้เลือกช้อปสินค้าออนไลน์ในราคาพิเศษจาก WeMall เติมเงินทรูมันนี่และทรูมูฟ เอช รวมถึงจ่ายบิลค่าสาธารณูปโภค และค่าบริการต่างๆ ในเครือทรู
<ul>
<li>มาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัย</li>
</ul>
- จัดพื้นที่ฉีดวัคซีนบริเวณลานนอกอาคาร ชั้น 1 และ ชั้น 2  ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง อากาศถ่ายเทสะดวก จัดเว้นระยะห่าง
- มีการบริหารจัดการไม่ให้กระทบกับผู้เข้ามาใช้บริการที่ทรู ดิจิทัล พาร์ค
<ul>
<li>การเดินทางสะดวก</li>
</ul>
- เชื่อมต่อจากรถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีปุณณวิถี
- เดินทางโดยรถยนต์ มีที่จอดรถมากกว่า 1,300 คัน
- รถแท็กซี่ หรือ รถประจำทาง มีป้ายรถประจำทางบริเวณหน้าโครงการ
<img class="alignnone size-full wp-image-1328" src="https://morphosis-staging.s3.ap-southeast-1.amazonaws.com/wpuploads/165-1_03-%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%B9-%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%A5-%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%84-%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%89%E0%B8%B5%E0%B8%94%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%84%E0%B8%8B%E0%B8%B5%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%81%E0%B8%A3%E0%B8%81.jpg" alt="ผู้มารับวัคซีน" width="1200" height="800" />
หน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่ ทรู ดิจิทัล พาร์ค ให้บริการฉีดวัคซีนแก่ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร อายุตั้งแต่ 18 - 59 ปี และไม่มีโรคประจำตัว ที่ลงทะเบียนผ่านโครงการ “ไทยร่วมใจ กรุงเทพฯ ปลอดภัย Safe Bangkok” โดยผู้ที่ได้รับการยืนยันฉีดวัคซีนที่ ทรู ดิจิทัล พาร์ค สามารถนำบัตรประจำตัวประชาชนและหลักฐานการจอง มารับบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ได้ตามวันและเวลานัดหมาย ใน 7 ขั้นตอน ได้แก่ 1. ตรวจสิทธิ์ 2. กรอกเอกสาร 3.รับบัตรคิว 4.ลงทะเบียน 5. วัดความดัน อุณหภูมิ ชั่งน้ำหนัก 6. ฉีดวัคซีนโควิด และรับใบนัด 7. สังเกตอาการ 30 นาที
&nbsp;
สอบถามบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่ ทรู ดิจิทัล พาร์ค ได้ที่คอลล์เซ็นเตอร์ โทร 02 700 9022 กด 2 หรือ 02 009 1101 กด 4

%e0%b9%80%e0%b8%9b%e0%b8%b4%e0%b8%94%e0%b9%81%e0%b8%a5%e0%b9%89%e0%b8%a7-%e0%b8%ab%e0%b8%99%e0%b9%88%e0%b8%a7%e0%b8%a2%e0%b8%84%e0%b8%a7%e0%b8%b2%e0%b8%a1%e0%b8%a3%e0%b9%88%e0%b8%a7%e0%b8%a1-2

เปิดแล้ว!! หน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่ ทรู ดิจิทัล พาร์ค

กรุงเทพฯ 4 มิถุนายน 2564 – ทรู ดิจิทัล พาร์ค ประกาศความพร้อม “หน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคซีนโควิด-19” ด้วยความร่วมมือของ กรุงเทพมหานคร หอการค้าไทย ทรู ดิจิทัล พาร์ค และคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล ซึ่งจะเป็นพื้นที่บริการฉีดวัคซีนนอกโรงพยาบาลที่ทันสมัยที่สุด เพียบพร้อมด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีล้ำสมัย ช่วยอำนวยความสะดวก เสริมความปลอดภัย มั่นใจได้ในมาตรฐานสุขอนามัย ทั้งระบบจัดคิว หุ่นยนต์ให้ข้อมูลและบริการต่างๆ นวัตกรรมอัจฉริยะตรวจวัดสภาพแวดล้อมและจำนวนผู้เข้าใช้บริการ พร้อมด้วยตู้จำหน่ายสินค้าอัตโนมัติ ลดสัมผัสเงินสด อัดแน่นสัญญาณเครือข่ายทรู 5G, 4G และ WiFi รองรับการติดต่อสื่อสารเต็มประสิทธิภาพ เดินทางสะดวกทั้งรถไฟฟ้าบีทีเอส  รถยนต์  และรถสาธารณะ  เตรียมเปิดให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 แก่ประชาชนที่ลงทะเบียนผ่านโครงการ “ไทยร่วมใจ กรุงเทพฯ ปลอดภัย Safe Bangkok” ตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน 2564 เป็นต้นไป ระหว่างเวลา 9.00-17.00 น. ณ ทรู ดิจิทัล พาร์ค ถ.สุขุมวิท 101/1
&nbsp;
นายฐนสรณ์ ใจดี กรรมการผู้จัดการใหญ่ ทรู ดิจิทัล พาร์ค กล่าวว่า ทรู ดิจิทัล พาร์ค สานต่อนโยบายของเครือเจริญโภคภัณฑ์ในการสนับสนุนภารกิจฉีดวัคซีนเพื่อป้องกันโควิด-19 ซึ่งถือเป็นวาระแห่งชาติ เพื่อให้เกิดภูมิคุ้มกันหมู่อย่างเร็วที่สุด และจะเป็นส่วนหนึ่งในการทำให้เศรษฐกิจ สังคม ชุมชน และวิถีชีวิตของคนไทยกลับคืนสู่สภาวะปกติ โดยเครือเจริญโภคภัณฑ์ ได้ร่วมมือกับ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย กรุงเทพมหานคร และคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เปิดหน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่ ทรู ดิจิทัล พาร์ค เพื่อให้บริการฉีดวัคซีนแก่ประชาชนที่อยู่ในพื้นที่กรุงเทพมหานคร อายุตั้งแต่ 18 - 59 ปี และไม่มีโรคประจำตัว 7 กลุ่มโรค ที่ลงทะเบียนผ่านโครงการ “ไทยร่วมใจ กรุงเทพฯ ปลอดภัย Safe Bangkok” โดยผู้ที่ได้รับการยืนยันฉีดวัคซีนที่ ทรู ดิจิทัล พาร์ค สามารถนำบัตรประจำตัวประชาชนและหลักฐานการจอง มารับบริการได้ตามวันและเวลานัดหมาย เพื่อเข้ารับบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ง่ายๆ ใน 7 ขั้นตอน ได้แก่ 1. ตรวจสิทธิ์ 2. กรอกเอกสาร 3.รับบัตรคิว 4.ลงทะเบียน 5. วัดความดัน อุณหภูมิ ชั่งน้ำหนัก 6. ฉีดวัคซีนโควิด และรับใบนัด 7. สังเกตอาการ 30 นาที
&nbsp;
สำหรับพื้นที่ให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่ทรู ดิจิทัล พาร์ค อยู่ที่บริเวณลานนอกอาคาร ชั้น 2 ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง อากาศถ่ายเทสะดวก ทำความสะอาดฆ่าเชื้ออย่างสม่ำเสมอ และจัดที่นั่งเว้นระยะห่าง  สามารถเดินทางได้อย่างสะดวก ไม่ว่าจะเป็น รถไฟฟ้าบีทีเอส สถานีปุณณวิถี มีทางเดินเชื่อมต่อเข้าสู่อาคาร  หรือใช้บริการรถแท็กซี่ รถประจำทาง มีป้ายรถประจำทางบริเวณหน้าโครงการ และมีที่จอดรถมากกว่า 1,300 คัน สอบถามบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ที่ ทรู ดิจิทัล พาร์ค ได้ที่คอลล์เซ็นเตอร์ โทร 02 700 9022 กด 2 หรือ 02 009 1101 กด 4 หรือดูรายละเอียดเพิ่มเติมที่ www.truedigitalpark.com

true-digital-park-to-be-the-most-modern-out-of-hospital-vaccination-service-center

ทรู ดิจิทัล พาร์ค ประกาศความพร้อมพื้นที่บริการฉีดวัคซีนนอกโรงพยาบาลที่ทันสมัยที่สุด

True Digital Park Startup Sandbox เปิดโอกาสให้สตาร์ทอัพสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุน คำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญ พื้นที่ทำงาน รวมถึงสิทธิประโยชน์มากมายจากพันธมิตรทั้งภาครัฐและเอกชน เพื่อให้สตาร์ทอัพสามารถพัฒนานวัตกรรมเพื่อตอบโจทย์ลูกค้า สร้างโมเดลธุรกิจ และใช้ชีวิตยุคใหม่ได้อย่างเต็มที่ และสร้างทุกความเป็นไปได้ให้เกิดขึ้นจริงที่ ทรู ดิจิทัล พาร์ค ซึ่ง เปรียบเสมือน เป็น Sandbox ที่รวมคนมีฝันอยากมีธุรกิจ อยู่ใน Startup Ecosystem ที่เหมาะสมแก่การแลกเปลี่ยนไอเดีย หาคำปรึกษา บ่มเพาะความแข็งแกร่งในการทำธุรกิจ สร้างเครือข่ายต่อยอดสู่ความเป็นไปได้ใหม่ๆ  รวมถึงการเป็นพื้นที่ให้สตาร์ทอัพทดลองและสร้างสรรค์ไอเดียธุรกิจใหม่ๆ  พร้อมมีผู้เชี่ยวชาญให้คำปรึกษาระหว่างอยู่ในโปรแกรม
&nbsp;
ทาง ทรู ดิจิทัล พาร์ค ได้มีการจัดตั้งโปรแกรมหลากหลายให้กับสตาร์ทอัพหลากหลายระดับ  ไม่ว่าจะ Tech Talents, Early-stage startups, Mature startups, Entrepreneurs  เป็นต้น  โดยได้รับความรวมมือจากพันธมิตรทางธุรกิจและพาร์ทเนอร์ในวงการสตาร์ทอัพ สร้างโปรแกรม ดังนี้
&nbsp;
dEXponential Sandbox
<img class=" wp-image-1154 alignleft" src="https://morphosis-staging.s3.ap-southeast-1.amazonaws.com/wpuploads/Landing-Page-PTT.jpg" alt="dEXponential Sandbox" width="699" height="394" />
เฟ้นหา “สุดยอดทีม” มาร่วมปั้นธุรกิจใหม่ด้วยไอเดียเปลี่ยนโลก พร้อมโอกาสร่วมงานกับ GC (PTT Global Chemical) ภายใต้โปรแกรม dEXponential Sandbox พร้อมรางวัลสนับสนุนมูลค่ารวมกว่า 1,450,000 บาท
&nbsp;
GC และ ทรู ดิจิทัล พาร์ค ชวนคนรุ่นใหม่มาต่อยอดความคิด นำพลาสติกใช้แล้วมาจัดการอย่างครบวงจรแบบ End to End Waste Management ผ่าน YOUเทิร์น Platform ของ GC ตามแนวคิดเศรษฐกิจหมุนเวียน (Circular Economy) ผสานองค์ความรู้นวัตกรรม ปลูกฝังไลฟ์สไตล์และสร้างสรรค์ผลิตภัณฑ์แห่งโลกอนาคต
&nbsp;
พร้อมรับโอกาสบ่มเพาะความแข็งแกร่งในการทำธุรกิจ สมัครได้ตั้งแต่วันนี้ ถึง 6 ก.ค. 2564
&nbsp;
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมหรือสมัครได้ที่ <a href="https://www.truedigitalpark.com/startup-support/dexponential-sandbox">https://www.truedigitalpark.com/startup-support/dexponential-sandbox</a>
&nbsp;
True 5G Tech Sandbox
<img class="wp-image-1155 alignleft" src="https://morphosis-staging.s3.ap-southeast-1.amazonaws.com/wpuploads/True-5G-Tech-Sandbox.jpg" alt="True 5G Tech Sandbox at True Digital Park" width="601" height="751" />
ค้นหาสตาร์ทอัพรุ่นใหม่ สร้างไอเดีย ต่อยอดธุรกิจกับ True 5G เพื่อตอบโจทย์การยกระดับศักยภาพของธุรกิจเเละคุณภาพของคนไทยใน 6 มิติ Health and Wellness, Intelligent city and security, Education, Retail, Agriculture และ Industry
&nbsp;
รางวัลและสิทธิประโยชน์ มูลค่ารวมกว่า 2.5 ล้านบาท
1.รางวัล True 5G SIM Card Unlimited Data with 1,000 Mbps Max Speed รวม 100 ชิ้น
2.รางวัล Hot Desk Co-working space ที่ ทรู ดิจิทัล พาร์ค
3.รางวัล VWORK แพลตฟอร์มเพื่อการบริหารจัดการ งานด้านต่างๆ ขององค์กร
4.รับการพิจรณาการลงทุนจาก <a href="https://www.facebook.com/trueincube/?__cft__%5b0%5d=AZXTKPzhnQvtt7uPPhTPEMorOqkDcpGV4NW_sGfMhC-hFmKNl2qBNABE01TfwDksR-dmL2Z-Dvsx9PMNoZMvwhRITyHsAbMQYXDhh7AQuTD32NqSAPhUINgi6FyqeqDfw79QgEIGA8r7ZURKMWTfc32EuHZMTn0CYJYcuhA836NylaIkkvXIGdu5pVcaS5uOInaXcRmJ8dyoRvqvI8Z6bxKc_XCkumheoizs3pJq1bZOxg&amp;__tn__=kK-R">True Incube</a>
5.ร่วมทำงานใกล้ชิดกับเครือ CP และพันธมิตร
6.ร่วมงานกับ True 5G Tech Verticals ต่างๆ ในการพัฒนาผลิตภัณฑ์ หรือการบริการ
7.เข้าร่วมกิจกรรมต่างๆ จากทาง True Incube
8.ผู้สมัครทุกคนที่สมัครเข้าร่วมโครงการ ได้รับสิทธิพิเศษในการจองห้องประชุมที่ ทรู ดิจิทัล พาร์ค ในราคาลดลง 50% เมื่อจองภายใน วันที่ 31 ธันวาคม 2564
&nbsp;
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมหรือสมัครได้ที่ <a href="https://www.trueincube.com" target="_blank" rel="noopener">https://www.trueincube.com</a>
&nbsp;
&nbsp;
&nbsp;
True Lab Startup Sandbox
<img class="wp-image-1156 alignleft" src="https://morphosis-staging.s3.ap-southeast-1.amazonaws.com/wpuploads/TrueLab-Startup-sandbox_210405_0.jpg" alt="Panel Discussion at True Lab Startup Sandbox Open House" width="699" height="394" />
จัดขึ้นเพื่อสตาร์ทอัพยุคใหม่และผู้มีหัวใจผู้ประกอบการที่สนใจด้าน Robotics และ AI เชิญมาร่วม hack idea และคัดเลือกสมาชิกทีมไปกับกลุ่มทรู ทีมที่ผ่านการคัดเลือกจะได้รับทุนพัฒนาต้นแบบและสิทธิในการใช้พื้นที่ทำงานที่ทรู ดิจิทัล พาร์คฟรี ตลอดระยะเวลาร่วมโครงการ และยังได้เป็นสมาชิก co-working space ต่อหลังจบโครงการอีก 3 เดือน รวมเงินรางวัลทั้งสิ้น 1.5 ล้านบาท
&nbsp;
รายละเอียดเพิ่มเติม: <a href="https://www.truedigitalpark.com/startup-support/truelabstartupsandbox" target="_blank" rel="noopener">https://www.truedigitalpark.com/startup-support/truelabstartupsandbox</a>
 
&nbsp;
&nbsp;
&nbsp;
&nbsp;
Startup Garage
<img class="wp-image-1157 alignleft" src="https://morphosis-staging.s3.ap-southeast-1.amazonaws.com/wpuploads/DSCF3093.jpg" alt="Startup Garage Pitching Day" width="701" height="467" />ผลักดันศักยภาพสตาร์ทอัพไทยระยะเริ่มต้น ภายใต้โครงการ Startup Garage ให้พื้นที่ทำงานอย่างเต็มรูปแบบเป็นเวลา 3 เดือน พร้อมให้ความรู้ คำแนะนำโดย mentor และผู้เชี่ยวชาญในวงการธุรกิจ เพื่อบ่มเพาะสตาร์ทอัพไทยให้สามารถสร้างธุรกิจออกตลาดได้จริง
&nbsp;
สตาร์ทอัพที่มีผลงานดีที่สุดได้รับทุนรางวัล 80,000 บาท พร้อมข้อเสนอเข้าร่วมโครงการ Startup in Residence ที่ทรู ดิจิทัล พาร์ค ได้พื้นที่ทำงานต่ออีก 6 เดือน พร้อมโอกาสรับการลงทุนจาก VC ชั้นนำ
&nbsp;
ข้อมูลเพิ่มเติม: <a href="https://www.truedigitalpark.com/startup-support/startup-garage">https://www.truedigitalpark.com/startup-support/startup-garage</a>
 
&nbsp;
&nbsp;
Startup in Residence
&nbsp;
พื้นที่ทำงานสำหรับสตาร์ทอัพหรือบริษัทขนาดกลางและขนาดเล็กสายเทคโนโลยี พร้อมโปรแกรมต่างๆ ช่วยผลักดันการเติบโตของสตาร์ทอัพและการขยายตลาด โดยใช้ประโยชน์จากเครือข่ายพันธมิตรและผู้เชี่ยวชาญของ TDPK - สร้างโอกาสทางธุรกิจใหม่ ๆ และเพิ่มการยอมรับในตลาด
&nbsp;
Startup in Residence จะอยู่ในโซน Startup Sandbox ชั้น 5 ของ True Digital Park มีออฟฟิศพร้อมบริการสำหรับบริษัทขนาดตั้งแต่ 2-50 คน รองรับการขยายจำนวนพนักงานในบริษัท พร้อมพื้นที่ส่วนกลางไม่ว่าจะเป็น Pantry ห้องประชุม และพื้นที่พักผ่อน
&nbsp;
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมหรือ สมัครได้ที่ <a href="https://www.truedigitalpark.com/startup-support/startup-in-residence">https://www.truedigitalpark.com/startup-support/startup-in-residence</a>
&nbsp;
Meet the Angels Sandbox
<img class="wp-image-1158 alignleft" src="https://morphosis-staging.s3.ap-southeast-1.amazonaws.com/wpuploads/MTA-2.jpg" alt="Meet the Angels by Krungsri and True Digital Park" width="701" height="539" />
โปรแกรม 3 เดือนเต็ม เตรียมความพร้อมติดปีก พัฒนาสตาร์ทอัพไทยให้พร้อมรับการลงทุน เป็นความร่วมมือกันระหว่างธนาคารกรุงศรีอยุธยา และทรู ดิจิทัล พาร์ค เปิดสำหรับสตาร์ทอัพระยะเริ่มต้นไม่เกิน Series A จากโปรแกรม Meet the Angels เท่านั้น
&nbsp;
สตาร์ทอัพที่ได้รับคัดเลือกได้รับออฟฟิศทำงานที่ทรู ดิจิทัล พาร์ค, รับคำปรึกษาจากผู้เชี่ยวชาญทุก 2 สัปดาห์, Pitching เพื่อจับคู่ธุรกิจกับพาร์ทเนอร์และลูกค้าของบริษัทในเครือ True Corp และเครือกรุงศรี, รับสิทธิ์ Fast Track ในการ pitching เพื่อขอ funding กับหน่วยงนของรัฐและบริษัทพันธมิตร และร่วมเวิร์คช้อป ทอล์ค และเน็ตเวิร์กกิ้ง
&nbsp;
ทรู ดิจิทัล พาร์ค ยังคงเดินหน้าเปิดโปรแกรม TDPK Startup Sandbox ต่อไปเรื่อย ๆ สำหรับผู้ที่สนใจอัพเดตโปรแกรมใหม่ๆ สามารถติดตาม Follow เพจ True Digital Park ได้บน Facebook หรือ LinkedIn 
ทรู ดิจิทัล พาร์ค—ศูนย์กลางเทคและสตาร์ทอัพที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน ตั้งอยู่ใจกลางย่านนวัตกรรมต้นแบบด้านดิจิทัลของประเทศไทย

learn-how-to-be-a-startup-with-tdpk-startup-sandbox

เปิดประตูสู่การเป็นสตาร์ทอัพ เรียนรู้แบบล้มได้ ลุกใหม่ได้ กับ True Digital Startup Sandbox

siriraj-joins-private-sector-to-inoculate-people-at-iconsiam-and-true-digital-park

ศิริราชรวมพลังภาครัฐ เอกชน ฉีดวัคซีนโควิด-19 สร้างภูมิคุ้มกันหมู่ให้ประชาชน ที่ไอคอนสยาม และทรู ดิจิทัล พาร์ค

ทรู ดิจิทัล พาร์ค เตรียมเปิดพื้นที่ให้บริการฉีดวัคซีน เป็น 1 ใน 25 พื้นที่ให้บริการฉีดวัคซีนนอกโรงพยาบาล พร้อมสนับสนุนอุปกรณ์ เจ้าหน้าที่อาสา และสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ร่วมเคียงคู่คนไทย ฝ่าวิกฤตโควิด-19 ระลอกใหม่ไปด้วยกัน
หน่วยความร่วมมือบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 กรุงเทพมหานคร หอการค้าไทย ทรู ดิจิทัล พาร์ค และคณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล เป็นความร่วมมือกันระหว่างหลากหลายหน่วยงาน ที่เข้ามาช่วยเหลือให้บริการและสิ่งอำนวยความสะดวกต่างๆ เพื่อช่วยให้คนไทยได้รับวัคซีนอย่างปลอดภัย
ทั้งนี้ คณะอนุกรรมการการบริหารจัดการการให้วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) กรุงเทพมหานคร ได้เห็นชอบแผนการให้บริการวัคซีนโควิด ซึ่งในพื้นที่กทม.ได้รับความร่วมมือจากภาคเอกชนจัดสถานที่ให้บริการเป็นหน่วยบริการฉีดวัคซีนนอกโรงพยาบาลรวมจำนวน 25 แห่ง ได้แก่ ทรู ดิจิทัล พาร์ค, เอสซีจี บางซื่อ, เซ็นทรัล ลาดพร้าว, สามย่าน มิตรทาวน์, ธัญญาพาร์ค, เอเชียทีค, เดอะมอลล์ บางกะปิ, โรบินสัน ลาดกระบัง, โลตัส มีนบุรี, โลตัส ปิ่นเกล้า, โลตัส พระราม 4, เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า, ไอคอนสยาม, ปั๊ม ปตท. สาขาพระราม 2, เดอะมอลล์ บางแค, บิ๊กซี บางบอน, บิ๊กซี ร่มเกล้า, ม. หอการค้าไทย, โรงพยาบาลสถาบันโรคไตภูมิราชนครินทร์, เอสซีบี สำนักงานใหญ่, ม.ศรีปทุม, เซ็นทรัลเฟสติวัล อีสต์วิลล์, เซ็นทรัลเวิร์ด, สยามพารากอน และเอ็มโพเรียม
&nbsp;
ใครมารับบริการฉีดวัคซีนที่ทรู ดิจิทัล พาร์คได้?
ประชาชนในพื้นที่ กทม. และไม่เป็นโรค 7 กลุ่มโรค (1. โรคทางเดินหายใจเรื้อรัง 2. โรคหัวใจและหลอดเลือด 3. โรคไตวายเรื้อรัง 4. โรคหลอดเลือดสมอง 5. โรคอ้วน 6. โรคมะเร็ง 7. โรคเบาหวาน) ทางรัฐบาลจะให้ฉีดวัคซีนที่โรงพยาบาลเท่านั้น เนื่องจากเป็นกลุ่มเสี่ยงที่อาจมีผลข้างเคียงหลังฉีดวัคซีนได้สูงกว่า หากท่านอยู่ในกลุ่มนี้กรุณาจองสิทธิ์รับวัคซีนผ่านแอพ "หมอพร้อม"
<div class="" data-block="true" data-editor="61t03" data-offset-key="aiurd-0-0">
<div class="_1mf _1mj" data-offset-key="aiurd-0-0">สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม​ได้ที่​ 1516</div>
<div data-offset-key="aiurd-0-0"></div>
</div>
วิธีลงทะเบียนจองคิวฉีดวัคซีน ที่ทรู ดิจิทัล พาร์ค ผ่าน 3 ช่องทาง คือ
1.) ลงทะเบียนในเว็บไซต์ <a href="https://www.xn--82c3a4adfy1rc3b.com/" target="_blank" rel="noopener">www.ไทยร่วมใจ.com</a>
2.) ลงทะเบียนผ่านแอปพลิเคชั่น เป๋าตัง
3.) ลงทะเบียนที่ร้านสะดวกซื้อ ได้แก่ เซเว่น อิเลฟเว่น, ท็อปส์ เดลี่ มินิซุปเปอร์มาร์เก็ต มินิบิ๊กซี และแฟมิลี่มาร์ท (ช่วงเวลา 08.30 – 18.00 น.)
เริ่มลงทะเบียนได้ ตั้งแต่วันที่ 27 พฤษภาคม 2564 เวลา 12.00 น. เป็นต้นไป และลงทะเบียนได้ทุกวัน เวลา 09.00 - 22.00 น.
&nbsp;
เริ่มฉีดวัคซีนตั้งแต่วันที่ 7 มิถุนายน 2564 นี้
<iframe title="YouTube video player" src="https://www.youtube.com/embed/W37w8qxBfOc" width="560" height="315" frameborder="0" allowfullscreen="allowfullscreen"></iframe>
การเตรียมตัวก่อนเข้ารับวัคซีน
- หลับให้เพียงพอ ไม่อดนอน
- เลี่ยงเครื่องดื่มแอลกอฮอล์และชา-กาแฟ
- ต้องไม่มีอาการไข้ หรืออาการเจ็บป่วย
- 2 วันก่อนฉีดและหลังฉีด ควรงดออกกำลังกายหนัก
- อย่าลืมนำบัตรประชาชนตัวจริง พร้อมหน้ายืนยันการจองรับวัคซีนมาด้วย
<img class="aligncenter wp-image-1141" src="https://morphosis-staging.s3.ap-southeast-1.amazonaws.com/wpuploads/chairs-vaccine-4.jpg" alt="จุดฉีดวัคซีน ทรู ดิจิทัล พาร์ค" width="800" height="533" />
ความพร้อมของพื้นที่ฉีดวัคซีน ที่ทรู ดิจิทัล พาร์ค
- ทำเลติดถนนสุขุมวิท 101 รถไฟฟ้าบีทีเอส สถานี ปุณณวิถี ทางออก หมายเลข 6
- ที่จอดรถกว่า 1,300 คัน 3 ชั่วโมงแรกฟรี
- เครือข่ายสื่อสารทั้ง ทรู 5G, 4G และ WiFi รองรับการใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพ
- สิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน รวมทั้งร้านอาหาร เครื่องดื่ม เครื่องอุปโภค บริโภค และ ซุปเปอร์มาเก็ต
- พื้นที่เปิดโล่ง อากาศถ่ายเทสะดวก
- พร้อมสนับสนุนอุปกรณ์ต่างๆ รวมถึงเจ้าหน้าที่อาสา
- รองรับการฉีดวัคซีนได้วันละ 1,000 คน ตั้งแต่ มิถุนายน 2564 เป็นต้นไป
&nbsp;
<img class="alignnone size-full wp-image-1168" src="https://morphosis-staging.s3.ap-southeast-1.amazonaws.com/wpuploads/how-to-get-here-1920x1080-map.jpg" alt="วิธีเดินทางมาทรู ดิจิทัล พาร์ค 4 วิธี" width="2668" height="1501" />
วิธีเดินทางมารับวัคซีนที่ ทรู ดิจิทัล พาร์ค 
ทรู ดิจิทัล พาร์ค ตั้งอยู่บนถนนสุขุมวิท ใกล้กับซอยสุขุมวิท 101/1 ห่างจาก BTS ปุณณวิถี 300 เมตร
หรือหาบน Google Map ที่ลิงค์นี้ <a href="https://g.page/TrueDigitalPark?share" target="_blank" rel="noopener">https://g.page/TrueDigitalPark?share</a>
&nbsp;
เดินทางโดยรถไฟฟ้า 
ลงสถานีปุณณวิถี เลือกทางออกที่ 6 แล้วเดินตาม skywalk มาประมาณ 300 เมตร อาคารทรู ดิจิทัล พาร์คจะอยู่ด้านซ้ายมือ 
 
เดินทางโดยรถแท็กซี่ 
เมื่อมาถึงทรู ดิจิทัล พาร์ค ให้เข้ามาทางเข้าที่ 1 (ซอยปิยะบุตร 1) และจอดลงบริเวณลานรับ-ส่ง ด้านขวามือ  
&nbsp;
เดินทางโดยรถยนต์ส่วนตัว 
ให้เข้ามาทางเข้าที่ 1 (ซอยปิยะบุตร 1) และลงจอดที่ชั้น B1 หรือ B2 
สามารถจอดรถได้ฟรี 3 ชั่วโมง
&nbsp;
หากมีคำถามอื่นๆ กรุณาติดต่อ call center ศูนย์ฉีดวัคซีนทรู ดิจิทัล พาร์คที่เบอร์ 02 700 9022 กด 2 หรือ 02 009 1101 กด 4

tdpkvaccinecenter-2_1

ทรู ดิจิทัล พาร์ค ร่วมกับหอการค้าไทย กทม. คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล และพันธมิตร เปิดพื้นที่ให้บริการฉีดวัคซีนโควิด-19

ร่วมเคียงคู่คนไทย ฝ่าวิกฤตโควิด-19 ระลอกใหม่ไปด้วยกัน
&nbsp;
กรุงเทพฯ 30 เมษายน 2564 – ทรู ดิจิทัล พาร์ค ในฐานะภาคเอกชนไทย พร้อมร่วมเป็นส่วนหนึ่งในการช่วยเหลือคนไทยและประเทศไทยให้ผ่านพ้นวิกฤติโควิด-19 ไปโดยเร็ว ร่วมมือกับกรุงเทพมหานคร เปิดพื้นที่ ทรู ดิจิทัล พาร์ค ให้บริการฉีดวัคซีนสำหรับประชาชน สนับสนุนภารกิจกระจายวัคซีนโควิด-19 ซึ่งเป็นวาระแห่งชาติเร่งด่วน ให้สำเร็จลุล่วงอย่างมีประสิทธิภาพและรวดเร็ว โดย ทรู ดิจิทัล พาร์ค มีความพร้อมทั้งในด้านทำเลที่อยู่ติดถนนสุขุมวิท 101 สามารถเดินทางได้สะดวกทั้งบริการขนส่งสาธารณะ ไม่ว่าจะเป็นรถแท็กซี่ รถโดยสารประจำทาง และรถไฟฟ้าบีทีเอส มีทางเดินเชื่อมต่อจากสถานีปุณณวิถีเข้าถึงอาคารได้อย่างสะดวกรวดเร็ว มีบริการที่จอดรถกว่า 1,300 คันสำหรับผู้ใช้รถยนต์ส่วนตัว พร้อมเครือข่ายสื่อสารทั้ง ทรู 5G, 4G และ 5G WiFi รองรับการใช้งานได้อย่างเต็มประสิทธิภาพทั้งกลุ่มบุคลากรทางการแพทย์ เจ้าหน้าที่ และประชาชนที่มารับบริการ ตลอดจนสิ่งอำนวยความสะดวกครบครัน ซึ่งทรู ดิจิทัล พาร์ค จะเตรียมจัดพื้นที่เป็นจุดบริการฉีดวัคซีนโควิด-19 ในพื้นที่เปิดโล่ง อากาศถ่ายเทได้สะดวก มั่นใจได้ในความปลอดภัย นอกจากนี้ ยังเตรียมสนับสนุนอุปกรณ์ต่างๆ รวมถึงเจ้าหน้าที่อาสาเพื่อให้บริการประชาชนอย่างเต็มที่ คาดว่าจะสามารถให้บริการฉีดวัคซีนได้วันละ 1,000 คน ตั้งแต่ต้นเดือนมิถุนายน 2564 เป็นต้นไป
&nbsp;
ทั้งนี้ คณะอนุกรรมการการบริหารจัดการการให้วัคซีนป้องกันโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (COVID-19) กรุงเทพมหานคร ได้เห็นชอบแผนการให้บริการวัคซีนโควิด ซึ่งในพื้นที่กทม.ได้รับความร่วมมือจากภาคเอกชนจัดสถานที่ให้บริการเป็นหน่วยบริการฉีดวัคซีนนอกโรงพยาบาลรวมจำนวน 14 แห่ง ได้แก่ ทรู ดิจิทัล พาร์ค, เอสซีจี, เซ็นทรัล ลาดพร้าว, สามย่าน มิตรทาวน์, ธัญญาพาร์ค, เอเชียทีค, เดอะมอลล์ บางกะปิ, โรบินสัน ลาดกระบัง, โลตัส สาขามีนบุรี, เซ็นทรัล ปิ่นเกล้า, ไอคอนสยาม, ปั๊ม ปตท. สาขาพระราม 2, เดอะมอลล์ บางแค และ บิ๊กซี บางบอน
&nbsp;
<img class="wp-image-1053 aligncenter" src="https://morphosis-staging.s3.ap-southeast-1.amazonaws.com/wpuploads/Area-for-vaccination.jpg" alt="พื้นที่เตรียมฉีดวัคซีนที่ ทรู ดิจิทัล พาร์ค" width="849" height="568" />

%e0%b8%97%e0%b8%a3%e0%b8%b9-%e0%b8%94%e0%b8%b4%e0%b8%88%e0%b8%b4%e0%b8%97%e0%b8%b1%e0%b8%a5-%e0%b8%9e%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b9%8c%e0%b8%84-%e0%b8%9b%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a8_1

ทรู ดิจิทัล พาร์ค ประกาศความพร้อมเปิดพื้นที่ให้บริการฉีดวัคซีนนอกโรงพยาบาล

<h3>อากาศก็ร้อน งานก็เร่ง หยิบโน๊ตบุ๊ค มานั่งทำงานเย็นๆ ที่ ทรู ดิจิทัล พาร์ค ดีกว่า กับโปรโมชั่น SUMMER SALE, KEEP IT COOL ‘ซื้อ 1 ฟรี 1’ กับราคาสวนกระแสอากาศร้อน ตลอดเดือนเมษายนนี้ นี้ ‘แถมเวลาทำงาน ให้คุณได้เย็นใจอีกเท่าตัว’ พร้อมรับมือทุกโจทย์ความท้าทาย</h3>
ซื้อ 1 ชม. ฟรี 1 ชม. สำหรับห้องประชุมไซส์ S, M, L  ราคาเริ่มต้น เหลือเพียง 100 บาท/ชม. 
จากราคาปกติห้องประชุมไซส์ S ชั่วโมงละ 200 บาท ไซส์ M ชั่วโมงละ 400 บาท และไซส์ L ชั่วโมงละ 600 บาท (ราคานี้ยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ซื้อเท่าไหร่ได้ชั่วโมงเพิ่มอีกเท่าตัว
- ใช้ได้เฉพาะวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 9.00-18.00
- สามารถเก็บสิทธิชั่วโมงที่แถมได้ และต้องมาใช้สิทธิภายในวันที่ 30 เมษายน 2564
- ไม่สามารถแลกคืนหรือเปลี่ยนเป็นเงินสดได้
&nbsp;
ซื้อ 1 วัน ฟรี 1 วัน สำหรับ Co-working space แบบ day-pass เหลือเพียง 135 บาท/วัน
จากราคาปกติ Co-working space ที่ทรู ดิจิทัล พาร์ค วันละ 270 บาท (ราคานี้ยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
- ซื้อ และ ใช้ได้เฉพาะวันจันทร์ - ศุกร์ เวลา 9.00-18.00
- สิทธิ์ Day Pass วันที่แถมฟรี สามารถมาใช้ได้ภายในวันที่ 30 เมษายน 2564
- ไม่สามารถแลกคืนหรือเปลี่ยนเป็นเงินสดได้
&nbsp;
ซื้อ 1 เดือน ฟรี 1 เดือน สำหรับ Co-working space แบบ รายเดือน เหลือเพียง 3,750 บาท/เดือน 
จากราคาปกติ Co-working space ที่ทรู ดิจิทัล พาร์ค เดือนละ 7,500 บาท (ราคานี้ยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม)
- สงวนสิทธิ์ 1 ท่านต่อ 1 สิทธิ์
- ได้สิทธิ์เฉพาะการซื้อ 1 เดือนเท่านั้น
- สมาชิกต้องเริ่มเข้ามาใช้งานวันแรกภายใน 1 พฤษภาคม 2564
- หากต้องการซื้อให้เพื่อนร่วมทีม สามารถสอบถามกับเจ้าหน้าที่ได้โดยตรง
&nbsp;
สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร 095-209-6291
Email: member@truedigitalpark.com
เงื่อนไขเป็นไปตามที่บริษัทกำหนด

57_summer-sale-keep-it-cool-%e0%b8%8b%e0%b8%b7%e0%b9%89%e0%b8%ad-1-%e0%b8%9f%e0%b8%a3%e0%b8%b5-1-co-working-space-%e0%b9%81%e0%b8%a5%e0%b8%b0%e0%b8%ab%e0%b9%89%e0%b8%ad%e0%b8%87%e0%b8%9b%e0%b8%a3-2

SUMMER SALE KEEP IT COOL ซื้อ 1 ฟรี 1 CO-WORKING SPACE และห้องประชุม

<h3>กรุงเทพฯ 21 ธันวาคม 2563 - ทรู ดิจิทัล พาร์ค ศูนย์กลางเทคและสตาร์ทอัพที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน เดินหน้าเติมเต็มระบบนิเวศสมบูรณ์แบบครบวงจรสำหรับสตาร์ทอัพและผู้ประกอบการเทครุ่นใหม่ รุกขยายความร่วมมือกับเหล่าพันธมิตรทั้งภาครัฐ อาทิ สำนักงานคณะกรรมการส่งเสริมการลงทุน (BOI) และสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (NIA)และองค์กรเอกชน</h3>
ต่อยอดบริการ TDPK One Stop Service for Startup ศูนย์ให้คำปรึกษา ช่วยเหลือ และแก้ไขปัญหาในการดำเนินธุรกิจสตาร์ทอัพในด้านต่างๆ อาทิ การขอสมาร์ทวีซ่า บัญชีและกฎหมาย สิทธิประโยชน์ทางภาษีและการส่งเสริมการลงทุนจาก BOI การหาพันธมิตรทางธุรกิจ การจัดหาทีมงานหรือบุคลากรสายเทค บริการคลาวด์ และโอกาสในการเข้าถึงแหล่งเงินทุน ล่าสุด จับมือกับ กรมทรัพย์สินทางปัญญา และ ทรู อินคิวบ์ ผู้นำโครงการบ่มเพาะและการลงทุนสตาร์ทอัพ เพิ่มบริการให้คำปรึกษาเกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญา (Intellectual Property) เพื่อสตาร์ทอัพสร้างความรู้ความเข้าใจและกระตุ้นให้สตาร์ทอัพให้ความสำคัญในเรื่องทรัพย์สินทางปัญญา เพื่อปกป้องสิทธิในนวัตกรรมสินค้าและบริการที่คิดค้นขึ้นใหม่ ซึ่งจะช่วยสร้างความได้เปรียบในการแข่งขัน และเป็นเอกลักษณ์ที่แตกต่างและไม่สามารถลอกเลียนแบบได้ ทำให้ธุรกิจสตาร์ทอัพเติบโตได้อย่างมั่นคงและยั่งยืน
ทั้งนี้ สตาร์ทอัพที่สนใจสามารถขอรับคำปรึกษาเกี่ยวกับทรัพย์สินทางปัญญา (Intellectual Property)ได้โดยไม่เสียค่าใช้จ่าย โดยลงทะเบียนแจ้งความประสงค์ได้ที่
<a href="../../../oneStopService">www.truedigitalpark.com/onestopservice</a>

tdpk-develops-one-stop-service-for-startups

ทรู ดิจิทัล พาร์ค จับมือพันธมิตร รุกต่อยอดบริการ TDPK ONE STOP SERVICE FOR STARTUPS

<h3>เพื่อการให้สิทธิพิเศษกับลูกค้าทรู ตลอดทั้งปี 2564 ลูกค้าทรูแบล็คและเรดเดินเข้ามาใช้ Co-working space ที่ชั้น 6 True Digital Park ได้เลยฟรีๆ</h3>
คุ้มยิ่งกว่าคุ้ม จะจองห้องประชุมก็ได้สิทธิ์ลด 50% แถมลูกค้าทรูยังสามารถชวนเพื่อนมาใช้พื้นที่ co-working space ฟรีได้ทุกวัน เพียงแลกทรูพอยต์ 99 พอยต์ สามารถแลกได้เดือนละ 2 สิทธิ์
สมาชิกทรูสามารถรับบริการทุกอย่างใน co-working space ไม่ว่าจะเป็นโต๊ะ เก้าอี้ทำงาน อินเทอร์เน็ตความเร็วสูง น้ำดื่ม Infuse water ชา กาแฟ พื้นที่ playground โต๊ะปิงปอง โต๊ะพูล เกมต่างๆ  กิจกรรมและอีเว้นท์แบบ exclusive สำหรับสมาชิกเท่านั้น และอื่นๆ อีกมากมาย
สมาชิกทรูสีต่างๆ สามารถดูรายละเอียดสิทธิ์ได้ตามตารางด้านล่างนี้เลย
<img style="display: block; margin-left: auto; margin-right: auto;" src="../../../media/600102fae1264_coworking_space_package_14-1TrueCard.jpg" alt="" width="900" />
ทั้งหมดนี้สามารถเข้ามารับบริการได้เลย เพียงนำบัตรสมาชิกทรู หรือบัตรประชาชนมาด้วยก็สามารถแลกใช้สิทธิ์ที่ reception ชั้น 6 อาคารเพกาซัส ทรู ดิจิทัล พาร์ค ได้ทุกวัน ตั้งแต่วันนี้ถึง 31 ธันวาคม 2564
ลูกค้าสามารถใช้บัตรของเพื่อนหรือญาติ เป็นการใช้สิทธิ์แทนกันก็ได้
ทรู ดิจิทัล พาร์ค Co-working space เปิดบริการทุกวัน ยกเว้นวันหยุดนักขัตฤกษ์ เวลา 9.00-18.00 น.
สำหรับผู้ที่ไม่ได้เป็นลูกค้าทรู สามารถดูรายละเอียดราคาแพ็คเกจ co-working space ของทรู ดิจิทัล พาร์ค <a href="../press_release_details/55_%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%B9-%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%A5-%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%84-%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88-co-working-space-%E0%B8%9B%E0%B8%B5-2564">ได้ที่นี่</a>

true-members-use-c0-working-space-for-free-2

สมาชิกทรูรับสิทธิ์ใช้พื้นที่ CO-WORKING SPACE ที่ทรู ดิจิทัล พาร์คฟรี

<h3>นั่งทำงานไหนดี ให้คิดงานออก? ลองเปลี่ยนบรรยากาศ มาที่ TDPK Co-working space ดีกว่า เปิดราคาใหม่ปี 2564 service คุณภาพเหมือนเดิม แต่ราคาลดลง</h3>
จะลุยเดี่ยว มาเป็นกลุ่ม ก็เลือกแพ็คเกจสมาชิก New Price ได้ตามใจคุณ ทั้งแบบ รายวัน รายเดือน หรือรายปี ให้คุณได้
<a href="../press_release_details/53_%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%95%E0%B8%B1%E0%B8%A7-1-Day-Pass-Co-working-Space" target="_blank" rel="noopener">รายวัน</a> 270 บาท/วัน
<a href="../../../join_membership" target="_blank" rel="noopener">ราย 1 เดือน</a> 7,500 บาท
<a href="../../../join_membership" target="_blank" rel="noopener">ราย 3 เดือน</a> รับส่วนลด 10% จ่ายเพียง 20,250 บาท
<a href="../../../join_membership" target="_blank" rel="noopener">ราย 6 เดือน</a>  รับส่วนลด 15% จ่ายเพียง 38,250 บาท
<a href="../../../join_membership" target="_blank" rel="noopener">ราย 12 เดือน</a> รับส่วนลด 30% จ่ายเพียง 63,000 บาท
รับส่วนลด 10% on top เมื่อชวนเพื่อนมาสมัครตั้งแต่ 3 คนขึ้นไป
สนใจบริการ Co-working space โทร 095-209-6291 ติดต่อสอบถามในเวลาทำการ วันจันทร์-ศุกร์  9.00 – 18.00 น. สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ <a href="https://www.truedigitalpark.com/spaces/co-working-space" target="_blank" rel="noopener">https://www.truedigitalpark.com/spaces/co-working-space</a>
&nbsp;
----พิเศษ หากคุณเป็นลูกค้าทรู เป็นสมาชิกทรูแบล็ค ทรูเรด <a href="../press_release_details/54_%E0%B8%AA%E0%B8%A1%E0%B8%B2%E0%B8%8A%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%B9%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B8%AA%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%98%E0%B8%B4%E0%B9%8C%E0%B9%83%E0%B8%8A%E0%B9%89%E0%B8%9E%E0%B8%B7%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88-co-working-space-%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%B9-%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%A5-%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%84%E0%B8%9F%E0%B8%A3%E0%B8%B5">กดที่นี่เพื่อดูสิทธิ์การเข้าใช้งาน co-working space ที่ทรู ดิจิทัล พาร์คได้</a>---
&nbsp;
และมาใหม่!!! All Access Team Pass ให้คุณได้ใช้ Co-working space ได้หลายที่ทั้ง ทรู ดิจิทัล พาร์ค และ ทรู สเปซ อีก 9 สาขา เริ่มต้นเพียง 100 บาท/คน/วัน (สำหรับการซื้อ All access Team Pass ขั้นต่ำ 10,000 passes)
สนใจบริการ All Access Team Pass โทร 083-686-8608 ติดต่อสอบถามในเวลาทำการ วันจันทร์-ศุกร์  9.00 – 18.00 น.
*ราคาทั้งหมดนี้สำหรับสมาชิกแบบ Hot desk เท่านั้น และยังไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม 7%
&nbsp;
เดินทางสะดวก เชื่อมต่อกับ BTS ปุณณวิถี และจอดรถได้ฟรี 3 ชม.
เพิ่มความมั่นใจด้วย 12 มาตราคุมเข้มสุขอนามัยจาก TDPK Care ดูแลครอบคลุมทุกมิติ ทุกพื้นที่ทั่วโครงการ
Co-working Space เปิดให้บริการจันทร์-อาทิตย์ เวลา 09.00 – 18.00 น. และปิดให้บริการวันหยุดนักขัตฤกษ์

55_%e0%b8%97%e0%b8%a3%e0%b8%b9-%e0%b8%94%e0%b8%b4%e0%b8%88%e0%b8%b4%e0%b8%97%e0%b8%b1%e0%b8%a5-%e0%b8%9e%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b9%8c%e0%b8%84-%e0%b9%80%e0%b8%9b%e0%b8%b4%e0%b8%94%e0%b8%a3%e0%b8%b2-2_1

ทรู ดิจิทัล พาร์ค เปิดราคาใหม่ CO-WORKING SPACE ปี 2564

เปิดตัว 1 Day Pass Co-working Space ตามคำเรียกร้อง ให้คุณได้มี พื้นที่ทำงานสะอาดปลอดภัย ให้โปรเจคของคุณยังก้าวไปต่อ
สมัครเลย เพียง 270 บาท/วัน (รวม VAT 288.9 บาท) และ รับฟรี กิ๊ฟเซท COVID-19-FREE เจลแอลกอฮอล์และที่กดลิฟต์จำนวนจำกัด
&nbsp;
<ul>
<li>โต๊ะทำงาน-เก้าอี้ จัดตามระยะห่าง Social Distancing และจำกัดจำนวน 60 ที่นั่ง/วัน</li>
<li>อินเตอร์เน็ต Hi-speed ให้ทำงานได้อย่างไม่สะดุด</li>
<li>บริการ กาแฟ และน้ำดื่ม Infused</li>
<li>เดินทางสะดวก เชื่อมต่อกับ BTS ปุณณวิถี และจอดรถได้ฟรี 3 ชม.</li>
<li>เพิ่มความมั่นใจด้วย 12 มาตราการคุมเข้มสุขอนามัยจาก <a href="../../../press_release_details/39_%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%B9-%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%A5-%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%84-%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%9A%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%81%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%A7-%E0%B8%8A%E0%B8%B9%E0%B8%AA%E0%B9%84%E0%B8%95%E0%B8%A5%E0%B9%8C%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B3%E0%B8%87%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%96%E0%B8%B5%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88-%E0%B8%9B%E0%B8%A5%E0%B8%AD%E0%B8%94%E0%B8%A0%E0%B8%B1%E0%B8%A2%E0%B8%81%E0%B8%A7%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%A1">TDPK Care</a> ดูแลครอบคลุมทุกมิติ ทุกพื้นที่ทั่วโครงการ</li>
</ul>
สนใจบริการโทร 095-209-6291 ติดต่อสอบถามในเวลาทำการวันจันทร์-ศุกร์  9.00 – 18.00 น.
Co-working Space เปิดให้บริการจันทร์-อาทิตย์ เวลา 09.00 – 18.00 น. และปิดให้บริการวันหยุดนักขัตฤกษ์
สำหรับผู้ที่สนใจราคาแพ็คเกจรายเดือน <a href="../press_release_details/55_%E0%B8%97%E0%B8%A3%E0%B8%B9-%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%88%E0%B8%B4%E0%B8%97%E0%B8%B1%E0%B8%A5-%E0%B8%9E%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%8C%E0%B8%84-%E0%B9%80%E0%B8%9B%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B8%B2%E0%B8%84%E0%B8%B2%E0%B9%83%E0%B8%AB%E0%B8%A1%E0%B9%88-co-working-space-%E0%B8%9B%E0%B8%B5-2564">คลิกที่นี่</a>

one-day-pass-co-working-space

เปิดตัว 1 DAY PASS CO-WORKING SPACE

<h3>True Digital Park (TDPK) is among the winners of ORIGIN Innovation Awards under Best Community Builder category by <a href="https://technode.global/2020/11/18/origin-innovation-awards-2020-winners/" target="_blank" rel="noopener">Tech Node Global</a>.</h3>
TDPK team has been working hard to create a strong startup ecosystem here in Thailand. We would like to thank our partners, who helped fulfill the ecosystem.
True Digital Park will continue to strengthen Southeast Asia’s largest tech and startup hub to support and enhance the potential of startups, entrepreneurs, investors, tech companies, and tech talents, so that they can create new innovations and businesses to drive Thailand economy.
-------
<h3>ทรู ดิจิทัล พาร์ค ได้รับเลือกให้เป็นผู้ชนะรางวัล Best Community Builder (ในสาขา Ecosystem Enabler Award) จาก Origin Innovation Award 2020 โดย Technode Global</h3>
ขอบคุณทีมงาน และ Partners ทุกท่าน ที่ร่วมกันสร้างชุมชนสำหรับสตาร์ทอัพแห่งนี้
ทรู ดิจิทัล ขอสัญญาว่าจะมุ่งมั่นเป็นศูนย์กลางเทคและสตาร์ทอัพที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน เพื่อช่วยผลักดัน สตาร์ทอัพ ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ นักลงทุน บริษัทเทคโนโลยี และนักศึกษา ในการสร้างนวัตกรรมและธุรกิจใหม่ๆ เพื่อเป็นแรงขับเคลื่อนประเทศไทยให้มีความสามารถในการแข่งขันระดับโลก

true-digital-park-wins-best-community-builder-awards

TRUE DIGITAL PARK WINS BEST COMMUNITY BUILDER AWARDS

tdpk-open-house-of-digital-academy

ทรู ดิจิทัล พาร์ค เปิดตัว HOUSE OF DIGITAL ACADEMY

เพิ่มประสิทธิภาพและสร้างความมั่นใจ ทั้งในด้านความปลอดภัย ด้านสุขอนามัย และสิ่งแวดล้อม พร้อมให้บริการเต็มประสิทธิภาพพื้นที่จัดอีเว้นท์ที่ทรู ดิจิทัล พาร์ค ได้รับการรับรองมาตรฐานระดับสากล ไม่ว่าจะเป็นมาตรฐานสถานที่จัดงานประเทศไทย (Thailand MICE Venue Standard - TMVS), SHA (Amazing Thailand Safety &amp; Health Administration), การบริหารงานสิ่งแวดล้อม ISO 14001 และ ISO9001 ระบบบริหารจัดการคุณภาพ
<img style="display: block; margin-left: auto; margin-right: auto;" src="../media/5fa22e0a231ce_3.jpg" alt="" width="500" />
SHA (Amazing Thailand Safety &amp; Health Administration)
ปลอดภัย หายห่วง
ทรู ดิจิทัล พาร์ค ได้รับสัญลักษณ์ SHA เพื่อรับรองมาตรฐานด้านสุขอนามัยและความปลอดภัยเพื่อนักท่องเที่ยว 
จัดประชุม สัมมนา หรือ มานั่งทำงานที่ ทรู ดิจิทัล พาร์ค ก็ปลอดภัย หายห่วง กับมาตรฐานความปลอดภัยด้านสุขอนามัยเพื่อนักท่องเที่ยว (SHA) โดยกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา ร่วมกับกระทรวงสาธารณสุข
<img style="display: block; margin-left: auto; margin-right: auto;" src="../media/5fe1905681ae8_TDPK_(3)globalstandard.jpg" width="500" />
มาตรฐานสถานที่จัดงานประเทศไทย (ประเภทสถานที่จัดกิจกรรมพิเศษ)
จัดงานมั่นใจ ได้มาตรฐานสากล
ทรู ดิจิทัล พาร์ค ได้รับสัญลักษณ์มาตรฐานสถานที่จัดงานประเทศไทย (ประเภทสถานที่จัดกิจกรรมพิเศษ) หรือ Thailand MICE Venue Standard Certification (Category: Special Event Venue) ที่รับรองมาตรฐานสถานที่จัดงานในประเทศไทยที่มีความเหมาะสมตามมาตรฐานการจัดงานในระดับสากล รับรองมาตรฐานโดย สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน)
หากคุณมองหาสถานที่จัดงานใหม่ๆ ที่ได้มาตรฐานทัดเทียมนานาชาติ ให้ ทรู ดิจิทัล พาร์ค เป็นจุดหมายปลายทางของการจัดงานที่หลากหลายแห่งภูมิภาค มั่นใจได้มาตรฐานสากล ได้รับสัญลักษณ์รับรองมาตรฐานสถานที่จัดงานประเทศไทย หรือ Thailand MICE Venue Standard (TMVS)
&nbsp;
<img style="display: block; margin-left: auto; margin-right: auto;" src="../media/5fa22e0a231ce_2.jpg" alt="" width="500" /> 
ISO14001
ใส่ใจสิ่งแวดล้อม เพื่อความยั่งยืน
ทรู ดิจิทัล พาร์ค ได้รับการรับรองมาตรฐาน การบริหารงานสิ่งแวดล้อม ISO 14001 
ทรู ดิจิทัล พาร์ค ตระหนักถึงความสำคัญของสิ่งแวดล้อม จึงได้นำมาตรฐาน สากลในการบริหารงานสิ่งแวดล้อมมาปฏิบัติ และได้รับการรับรองมาตรฐาน การบริหารงานสิ่งแวดล้อม ISO 14001 จาก SGS (Thailand) Limited
<img style="display: block; margin-left: auto; margin-right: auto;" src="../media/5fa22e0a08ff6_1.jpg" alt="" width="500" />ISO9001
บริหารจัดการเต็มประสิทธิภาพ
ทรู ดิจิทัล พาร์ค ได้รับมาตรฐาน ISO9001 ระบบบริหารจัดการคุณภาพที่ได้รับการยอมรับมากที่สุด 
ทรู ดิจิทัล พาร์ค พร้อมให้การบริการที่เหนือระดับ และประสิทธิภาพมากยิ่งขึ้น การันตีด้วยมาตรฐานระบบการจัดการคุณภาพ (QMS) ที่เป็นที่ยอมรับในระดับสากล
------
ทรู ดิจิทัล พาร์ค—ศูนย์กลางเทคและสตาร์ทอัพที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน ตั้งอยู่ใจกลางย่านนวัตกรรมต้นแบบด้านดิจิทัลของประเทศไทย

tdpk-certified-by-iso-on-sanitation

ให้ทุกอีเว้นท์และทุกกิจกรรมของคุณทัดเทียมนานาชาติ ที่ ทรู ดิจิทัล พาร์ค

ถ้าคุณกำลังมองหาโอกาสใหม่ๆ มาได้เลยที่ ทรู ดิจิทัล พาร์ค
&nbsp;
คุณจะพบว่าใจกลางกรุงเทพ มีพื้นที่แห่งนวัตกรรม ที่เปิดประสบการณ์การเรียนรู้ และการสร้างโอกาสใหม่ๆได้ไม่มีที่สิ้นสุด ที่ True Digital Park One Roof, All Possibilities
&nbsp;
ลงทะเบียนเยี่ยมชมได้ที่ <a href="../../../book_a_tour">https://www.truedigitalpark.com/book_a_tour</a>
&nbsp;
<iframe src="https://www.youtube.com/embed/_y7xUCn82OY" width="600" height="315" frameborder="0" allowfullscreen="allowfullscreen"></iframe>
&nbsp;
If you are looking for new opportunity, come to True Digital Park! Located in the heart of Bangkok CyberTech District, True Digital Park is the innovation hub, open for new learning experience and all kinds of possibilities.
&nbsp;
True Digital Park – One Roof, All Possibilities
&nbsp;
Book a tour now: <a href="../../../book_a_tour">https://www.truedigitalpark.com/book_a_tour</a>
&nbsp;

all-possibilities-start-at-tdpk

ALL POSSIBILITIES START HERE AT TRUE DIGITAL PARK

<h3 style="text-align: center;">สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ ผนึก ทรู ดิจิทัล พาร์ค และเหล่าพันธมิตร </h3>
<h3 style="text-align: center;">ขับเคลื่อน Bangkok CyberTech District สู่ศูนย์กลางดิจิทัลและไลฟ์สไตล์ของคนเมืองยุคใหม่</h3>
<h3 style="text-align: center;">สร้างโอกาสเติบโตเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ</h3>
สำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) โดย ดร.พันธุ์อาจ ชัยรัตน์  ผู้อำนวยการ ร่วมกับ ทรู ดิจิทัล พาร์ค ศูนย์กลางเทคและสตาร์ทอัพที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน โดย ดร.ธาริต นิมมานวุฒิพงษ์ ผู้จัดการทั่วไป พร้อมด้วยผู้บริหารองค์กรพันธมิตร และภาคีเครือข่ายภาคประชาชน ร่วมฉายภาพอนาคตย่านนวัตกรรมไซเบอร์เทค กรุงเทพฯ ในงานเสวนา “The Future of Bangkok CyberTech District” เพื่อพัฒนาย่านปุณณวิถี ไปสู่ Bangkok CyberTech District ศูนย์กลางดิจิทัลและไลฟ์สไตล์ของคนเมืองยุคใหม่ ที่มีระบบนิเวศสําหรับสตาร์ทอัพที่สมบูรณ์ที่สุดในภูมิภาคเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ ซึ่งเกิดจากความร่วมมือของหน่วยงานต่างๆทั้งภาครัฐและภาคเอกชน  เพื่อดึงดูดบุคลากรผู้มีความเชี่ยวชาญทั้งในและต่างประเทศเข้ามาประกอบธุรกิจ โดยเฉพาะด้านเทคโนโลยีดิจิทัล ซึ่งเป็นฐานในการพัฒนาธุรกิจใหม่ๆ มีการรวมกลุ่มของบริษัทขนาดใหญ่ นักลงทุน และสถาบันการศึกษา สามารถสร้างโอกาสการเข้าถึงแหล่งความรู้ แหล่งเงินทุน ซึ่งจะสนับสนุนการเติบโตทางธุรกิจของสตาร์ทอัพ ส่งเสริมการพัฒนาเมืองและยกระดับคุณภาพชีวิตของชุมชนในย่านไปพร้อมๆ กัน
<img style="display: block; margin-left: auto; margin-right: auto;" src="../../../media/5f76cefea14ab_BangkokCyberTechDistrictFutureTales14.jpg" width="600" height="400" />
หนึ่งในองค์กรเอกชนที่ร่วมผลักดันการพัฒนาย่านปุณณวิถี อย่าง ทรู ดิจิทัล พาร์ค มุ่งสร้างระบบนิเวศสมบูรณ์แบบสำหรับสตาร์ทอัพและผู้ประกอบการรุ่นใหม่ด้านดิจิทัลเทคโนโลยี ภายใต้แนวคิด “One Roof, All Possibilities - ที่เดียว ทุกความเป็นไปได้” ด้วยการส่งเสริมและสนับสนุนสตาร์ทอัพและผู้ประกอบการธุรกิจเทคให้สามารถดำเนินธุรกิจได้เต็มศักยภาพ สอดคล้องกับการพัฒนา<a href="../article_details/63_Bangkok-CyberTech-District">ย่านนวัตกรรม Bangkok CyberTech District</a> ทั้งในด้านโครงสร้างพื้นฐานโทรคมนาคมดิจิทัลเพื่อรองรับธุรกิจและการใช้ชีวิตในยุคดิจิทัล ทั้งเครือข่าย 5G และดิจิทัลเทคโนโลยีครบวงจร ไม่ว่าจะเป็น Cloud, Smart IoT, Robotics, AI และ Data Analytics ที่สามารถนํามาบูรณาการต่อยอด เพื่อเพิ่มขีดความสามารถในการพัฒนาผลิตภัณฑ์และการบริหารจัดการธุรกิจ ไปจนถึงการขยายผลเชิงพาณิชย์ ตลอดจนการเพิ่มทักษะ (upskill, reskill) ด้านดิจิทัล ผ่านกิจกรรมการเรียนรู้ต่างๆ ที่จะถ่ายเทและหลอมรวมองค์ความรู้ในการสร้างสรรค์นวัตกรรม พร้อมด้วยการสนับสนุนสตาร์ทอัพและผู้ประกอบการในด้านอื่นๆ อาทิ สิทธิประโยชน์จาก BOI และ Smart VISA สำหรับผู้ประกอบการชาวต่างชาติ ซึ่งเป็นหนึ่งในฟันเฟืองที่ช่วยผลักดันและขับเคลื่อนพื้นที่ย่านปุณณวิถีสู่ Bangkok CyberTech District สร้างโอกาสเติบโตทางเศรษฐกิจดิจิทัลของประเทศ
นอกจากนี้ Bangkok CyberTech District ยังมีกลุ่มธุรกิจอีกหลากหลายที่ช่วยสนับสนุนและสร้างความแข็งแกร่งให้เหล่าสตาร์ทอัพและผู้ประกอบการ SME อาทิ ธุรกิจรีเทล และอสังหาริมทรัพย์ ธุรกิจเกษตรและอาหาร รวมถึงธุรกิจที่เชื่อมโยงกับอุตสาหกรรมดนตรี ศิลปะ และนันทนาการ อันจะนำไปสู่อุตสาหกรรมสร้างสรรค์ ที่มีอิทธิพลต่อการดำเนินชีวิตและความมีชีวิตชีวาในเมือง นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มธุรกิจ MICE รองรับงานนิทรรศการ และงานประชุมต่างๆ รวมถึงธุรกิจพลังงานที่มุ่งสร้างนวัตกรรม Deep tech ด้านพลังงานสีเขียว โดยคํานึงถึงสิ่งแวดล้อมและความเป็นอยู่ที่ดีขึ้นของสังคม
ทั้งนี้ การขับเคลื่อนย่านนวัตกรรมแห่งต่างๆในกรุงเทพฯ เป็นพันธกิจของสำนักงานนวัตกรรมแห่งชาติ (องค์การมหาชน) เพื่อยกระดับพื้นที่เศรษฐกิจของเมืองที่ให้เกิดการรวมกลุ่มของนวัตกรเพื่อแบ่งปันองค์ความรู้และทรัพยากรอย่างเต็มประสิทธิภาพ และสร้างความร่วมมือในการผลักดันระบบนิเวศนวัตกรรมแบบเปิดที่เอื้อต่อการประกอบธุรกิจและดํารงชีวิตสามารถดึงดูดกลุ่มผู้ประกอบการธุรกิจนวัตกรรมและธุรกิจใหม่ให้รวมกลุ่มเป็นคลัสเตอร์ โดยมุ่งพัฒนาระบบนิเวศนวัตกรรมที่ส่งเสริมการเกิดนวัตกรและนวัตกรรมด้านเทคโนโลยีดิจิทัล รวมถึงการยกระดับคุณภาพชีวิตของคนในชุมชน เพื่อผลักดันสตาร์ทอัพไทยให้ก้าวไปสู่การแข่งขันในเวทีโลกได้อย่างเต็มภาคภูมิ
&nbsp;

future-of-bangkok-cybertech-district

ยกระดับย่านปุณณวิถีไปสู่ศูนย์กลางดิจิทัลและไลฟ์สไตล์ของคนเมืองยุคใหม่

<h3>ถ้าคุณเป็นสมาชิกของกลุ่มหรือชุมชนใดๆก็ตาม ที่จัดงานนัดพบหรือแลกเปลี่ยนความรู้กันเป็นประจำ หรือว่ากำลังมองหาสถานที่ดีๆสำหรับจัดกิจกรรม เราอยากจะบอกว่า มาทางนี้เลย… True Digital Park ให้พื้นที่กันไปเลย ฟรีๆ!! ทุกเย็นวัน“พฤหัสบดี” แต่มีข้อแม้ว่าขอให้เป็นกลุ่มหรือ Community ที่ไม่เก็บค่าใช้จ่ายและไม่จัดงานเชิงพาณิชย์ ถือว่าเป็นการสนับสนุน ให้ Community กลุ่มต่างๆ จัดกิจกรรมได้อย่างต่อเนื่อง และไม่ต้องเสียค่าใช้จ่าย :-)</h3>
เอาเป็นว่าใครสนใจสมัครกันมาได้เลย แค่กรอกข้อมูลเกี่ยวกับ Community ของคุณให้เราทราบ!!!
&nbsp;
วิธีสมัคร:
<ol>
<li>สามารถเช็ค slot วันที่ว่างได้จาก link: <a href="https://bit.ly/32SDVdV" target="_blank" rel="noopener">https://bit.ly/32SDVdV</a></li>
<li>กรอกข้อมูลเกี่ยวกับ Community หรือ Meetup ที่คุณต้องการจัดให้เรียบร้อย</li>
<li>รออีเมล Confirm จากทีม TDPK (เราจะตอบกลับภายใน 3 วันทำการ)</li>
</ol>
&nbsp;
สิ่งที่เรามีให้:
- ให้สถานที่ฟรีสำหรับจัดกิจกรรมทุกวันพฤหัสบดี เวลา 18.00-20.00
- สถานที่จะเป็น The Nest 3 ชั้น 6 ใกล้กับ Academy Bangkok, A Google Space หรือ Foyer ชั้น 6 (โดยเราจะแจ้งไปอีกครั้งว่าสถานที่ไหนว่างในวันที่คุณเลือก และส่งรูปสถานที่ให้เพื่อพิจารณา)
- Portable projector 1 เครื่อง พร้อมสาย HDMI สำหรับต่อคอมพิวเตอร์
- Flipchart 1 อัน (ถ้าต้องการเพิ่มเติม เรามีบริการให้เช่าอันละ 1,000 บาท)
- ถ้าเป็นห้อง The Nest 3 จะมี Microphone ให้ 1 อัน แต่ถ้าเป็น Foyer จะมีให้เช่า portable microphone ราคา 5,000 บาท
&nbsp;
เงื่อนไขและข้อกำหนดในการเข้ามาใช้พื้นที่:
- งานที่มาจัดต้องเป็นงานที่ไม่คิดค่าใช้จ่ายในการเข้าร่วมหรือไม่ใช่งานเชิงพาณิชย์
- จำนวนผู้ร่วมงานไม่เกิน 25 คน
- จำกัดให้ Community แต่ละกลุ่มสามารถมาจัดงาน โดยใช้พื้นที่ฟรีของ TDPK ได้เดือนละ 1 ครั้งเท่านั้น (ถือว่าเป็นการแบ่งปันพื้นที่ให้เพื่อนๆ กลุ่มอื่นสามารถสลับกันมาใช้ได้)
- รบกวนจองสถานที่ล่วงหน้า 2 สัปดาห์ และถ้าต้องการยกเลิกก็ขอให้แจ้งล่วงหน้า 2 สัปดาห์เช่นกัน (ในกรณีที่แจ้งยกเลิกกระทันหัน ทาง TDPK ขออนุญาตงดการให้ใช้พื้นที่ฟรีสำหรับกลุ่มหรือ Community นั้นๆ 2 เดือน)
หากมีคำถามเพิ่มเติม สามารถสอบถามได้ที่ <a href="mailto:community@truedigitalpark.com">community@truedigitalpark.com</a>
ทรู ดิจิทัล พาร์ค—ศูนย์กลางเทคและสตาร์ทอัพที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน ตั้งอยู่ใจกลางย่านนวัตกรรมต้นแบบด้านดิจิทัลของประเทศไทย

free-space-for-community-meet-up

FREE SPACE FOR COMMUNITY MEET UP

<h3>กรุงเทพ, 10 กันยายน 2563 - สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง ธนาคารกรุงไทย จำกัด (มหาชน) และทรู ดิจิทัล พาร์ค  เปิด “พื้นที่นักสร้างสรรค์ – NEXT Creatorspace ที่ชั้น 6 อาคารเพกาซัส ทรู ดิจิทัล พาร์ค ถนนสุขุมวิท ศูนย์กลางเทคและสตาร์ทอัพที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน ตั้งอยู่ใจกลางย่านนวัตกรรมต้นแบบด้านดิจิทัลของประเทศไทย</h3>
วัตถุประสงค์ของการจัดพื้นที่นักสร้างสรรค์ – NEXT Creatorspace คือ เพื่อสนับสนุนและสร้างผู้ประกอบการในธุรกิจดิจิทัล ในอันที่จะช่วยขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยเติบโตด้วยนวัตกรรม, เพิ่มการเข้าถึงเครื่องมือและเทคโนโลยีในการสร้างสรรค์นวัตกรรม สู่การเป็นชุมชนนวัตกร ขับเคลื่อนเศรษฐกิจด้วยนวัตกรรมและองค์ความรู้ (Acknowledge – Based – Economy), เพื่อให้ความรู้ทั้งในรูปแบบห้องเรียน เวิร์คชอป และเทรนนิ่งด้านเทคนิคและธุรกิจ สู่การสร้างสังคมผู้เชี่ยวชาญในโลกดิจิทัล (Professional Society), ส่งเสริมวัฒนธรรมการแลกเปลี่ยนเรียนรู้ในไทย ส่งเสริมสังคมความร่วมมือและเครือข่ายธุรกิจดิจิทัลให้เข้มแข็งยิ่งขึ้น
<img style="display: block; margin-left: auto; margin-right: auto;" src="../media/5f5b3056988de_cba0f4dabf2ff6cd64c764bf3f5e4b5d2_29714900_200911_7.jpg" alt="" width="700" />
ศาสตราจารย์ ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ อธิการบดีสถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบังกล่าวว่า ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีในยุคดิจิทัล ได้เข้ามามีบทบาทและอิทธิพลต่อการดำเนินชีวิตของเราทุกคนทุกวงการ ทั้งชีวิตส่วนตัว การทำงาน การผลิต วงการก่อสร้าง วงการอุตสาหกรรม การให้บริการ การเงิน การติดต่อสื่อสาร  ส่งผลให้ผู้ประกอบการและภาคการศึกษาต้องปรับตัว เพื่อให้เท่าทันการแข่งขัน สามารถตอบโจทย์ผู้บริโภค ซึ่งจำเป็นนต้องพึ่งพาเทคโนโลยียุคใหม่ในการขับเคลื่อนทั้งสิ้น
“สำหรับสถาบันการศึกษา ทักษะและงานแห่งอนาคต ส่วนใหญ่จะต้องทำงานร่วมกับระบบอัตโนมัติ AI มีความชำนาญด้านดิจิทัลและเทคโนโลยีขั้นสูง ช่วงเปลี่ยนผ่านเข้าสู่งานอนาคต สถาบันการศึกษาจึงต้องเร่งปรับหลักสูตรให้เข้ากับสถานการณ์และความต้องการของตลาดแรงงานที่ให้ความสำคัญกับเทคโนโลยีสมัยใหม่ อาทิ หลักสูตรวิศวกรรมหุ่นยนต์และปัญญาประดิษฐ์ หลักสูตรวิศวกรรมระบบการผลิตขั้นสูง หลักสูตรการจัดการนวัตกรรมและอุตสาหกรรม หลักสูตรวิศวกรรมสิ่งแวดล้อมและพลังงานเพื่อความยั่งยืน รวมทั้งสร้างความร่วมมือกับสถาบันการศึกษาและองค์กรธุรกิจชั้นนำระดับโลก เพื่อแลกเปลี่ยนองค์ความรู้และบุคลากรระหว่างกัน เตรียมบัณฑิตยุคใหม่ให้พร้อมทั้งด้านองค์ความรู้ วิชาการ และความเชี่ยวชาญการปฏิบัติ รวมถึงการคิดค้นนวัตกรรมใหม่ๆ เพื่อแก้ปัญหาและเพิ่มประสิทธิภาพการดำเนินงานให้ดียิ่งขึ้น ซึ่งการมีบุคลากรอย่างเพียงพอในสายงานที่ประเทศชาติและทั่วโลกต้องการ ถือเป็นสร้างโอกาสการแข่งขันและการพัฒนาขีดความสามารถของประเทศให้ทัดเทียมนานาชาติได้ในอนาคต”
<img style="display: block; margin-left: auto; margin-right: auto;" src="../media/5f5b3056988de_cba0f4dabf2ff6cd64c764bf3f5e4b5d2_29714900_200911_8.jpg" alt="" width="700" />
ผู้ช่วยศาสตราจารย์ ดร.รัชนี กุลยานนท์ รักษาการแทนรองอธิการบดีฝ่ายวิจัยและนวัตกรรม สถาบันเทคโนโลยีพระจอมเกล้าเจ้าคุณทหารลาดกระบัง เปิดเผยว่า สำนักบริหารงานวิจัยและและนวัตกรรม พระจอมเกล้าลาดกระบัง หรือ KRIS (KMITL Research and Innovation Service) ได้จัดพื้นที่ภายนอกสถาบันฯ ชื่อว่า “พื้นที่นักสร้างสรรค์ – NEXT Creatorspace” เพื่อให้เป็นพื้นที่บ่มเพาะและพัฒนานวัตกร สู่การเป็นผู้ประกอบการสตาร์ทอัพในธุรกิจดิจิทัล กำหนดขอบเขตการพัฒนานวัตกรรมใน 4 ด้านหลัก คือ
1.ด้านดิจิทัลเทคโนโลยี อาทิ การพัฒนาระบบ AR VR การพัฒนาโรโบติก การพัฒนาระบบอินเทอร์เน็ตออฟติง (IoT) การพัฒนาแอปพลิเคชัน เป็นต้น
2.ด้านไบโอเทคโนโลยี อาทิ การพัฒนาเทคโนโลยีเพื่อสุขภาพ การพัฒนาเทคโนโลยีสำหรับสังคมผู้สูงอายุ การพัฒนาเทคโนโลยีทางการแพทย์ การพัฒนาเทคโนโลยีด้านอาหารและการเกษตร เป็นต้น
3.ด้านโลจิสติกส์และพลังงาน อาทิ ระบบขนส่งสาธารณะ ระบบ GPS การพัฒนาพลังงานสะอาด การพัฒนาสมาร์ทซิตี้
4.ด้านเศรษฐกิจสร้างสรรค์ การพัฒนาการออกแบบผลิตภัณฑ์ นวัตกรรมในอุตสาหกรรมสื่อและบันเทิง แฟชั่น เป็นต้น ตั้งเป้าหมายในการพัฒนาเทคโนโลยีขั้นสูง สู่การขับเคลื่อนเศรษฐกิจนวัตกรรมของประเทศ
&nbsp;
กลุ่มเป้าหมายของพื้นที่นักสร้างสรรค์ – NEXT Creatorspace คือ นักเรียน นักศึกษา อาจารย์, บุคลากรด้านงานนวัตกรรมและงานวิจัย, สื่อมวลชน และบุคคลทั่วไป
“เราคาดหวังว่าศูนย์ NEXT Creatorspace จะเป็นที่รู้จักของกลุ่มเป้าหมาย เป็นพื้นที่เผยแพร่การดำเนินงานวิจัยของบุคลากรสถาบันสู่สาธารณชนและผู้สนใจทั่วไป และเป็นพื้นที่พบปะแลกเปลี่ยนความรู้ ความคิดเห็นระหว่างนักวิจัย อาจารย์ กลุ่ม start up และผู้ที่สนใจในงานวิจัย”

next-creator-space

ศูนย์ NEXT CREATORSPACE พัฒนาสังคมแห่งการเรียนรู้ นวัตกรสตาร์ทอัพในโลกดิจิทัล

กรุงเทพฯ 18 สิงหาคม 2563 –  หากเทียบการจัดการการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในช่วงที่ผ่านมา  ไต้หวันถือเป็นประเทศแรกๆ ของโลก ที่สามารถรับมือและควบคุมสถานการณ์ได้อย่างรวดเร็วและดีเยี่ยมโดยไม่ต้องล็อกดาวน์ประเทศ  ด้วยพลังนวัตกรรมสังคมดิจิทัล  ทรู ดิจิทัล พาร์ค ศูนย์กลางเทคและสตาร์ทอัพที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน และ <a href="https://missiontothemoon.co/" target="_blank" rel="noopener">Mission to the Moon</a>  ได้จัดฟอรัมใหญ่เปิดโอกาสพบบุคคลที่ได้รับการยกย่องว่าสามารถนำเทคโนโลยีมาช่วยแก้วิกฤตได้ดีเยี่ยมอย่าง ออเดรย์ ถัง รัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัล ไต้หวัน  เปลี่ยนมุมมองในการปรับเทคโนโลยีเข้าหาคน  แทนที่คนจะต้องปรับตัวให้เข้ากับเทคโนโลยี  พร้อมใช้วิถีสตาร์ทอัพทำงานในคณะรัฐมนตรี  ในงาน “The Great Forum - Transform Beyond Crisis คิด การณ์ ใหญ่” เวทีที่รวมผู้นำระดับแนวหน้าจากหลากหลายอุตสาหกรรมร่วมแบ่งปันมุมมองความคิด แนวทางปรับตัวรับมือกับผู้บริโภคยุค New Normal เพื่อพลิกฟื้นธุรกิจจากผลกระทบวิกฤตโควิด-19
&nbsp;
ผ่านวิกฤตด้วยนวัตกรรมสังคมดิจิทัล
ตลอดช่วงสถานการณ์โควิด-19 ที่ผ่านมา ไต้หวันไม่เคยประกาศล็อกดาวน์ และไม่มีปัญหาการแพร่ของข้อมูลเท็จ อย่างที่หลายๆ ประเทศทั่วโลกต้องเจอ  ออเดรย์ ถัง รัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัล ไต้หวัน  เชื่อว่าไต้หวันสู้กับโรคระบาดได้ด้วยพลังนวัตกรรมสังคมดิจิทัล มีหลักการ 3 ข้อ ได้แก่ เร็ว คือ สายด่วนโทรแจ้งปัญหาหรือเสนอไอเดีย สามารถนำไปต่อยอดได้ ยุติธรรม มีการจัดสรรหน้ากากอนามัยอย่างเป็นธรรม ตรวจสอบได้แบบเรียลไทม์ผ่านโทรศัพท์มือถือ และ สนุก ด้วยไอเดียมาสคอตการ์ตูนรูปสุนัขมาช่วยต้านข่าวปลอมและแจ้งวิธีป้องกันการแพร่ระบาด  นอกจากนี้ ความสูญเสียเมื่อโรค SARS ระบาด ทำให้ไต้หวันเตรียมความพร้อมในการรับมือมาอย่างต่อเนื่อง  โดยมีการตั้งศูนย์บัญชาการกลางป้องกันโรคระบาดขึ้นอย่างรวดเร็ว (Central Epidemic Command Center  หรือ CECC) มีหน่วยแพทย์คอยตรวจสอบข่าวสารการแพร่ระบาดตามโซเชียลมีเดีย เพื่อให้สามารถรับมือและแจ้งไปยังผู้ที่เกี่ยวข้องได้ทันที  พร้อมกับใช้เทคโนโลยีในการผลิตและจำหน่ายหน้ากากอนามัย สบู่ และเจลล้างมือ รวมถึงการเว้นระยะห่างทางสังคม  เทคโนโลยีสร้างความตื่นตัวให้กับชาวไต้หวันเป็นอย่างมาก  เชื่อว่า ความก้าวหน้าของเทคโนโลยีทำให้ทุกคนเชื่อมถึงกัน มีการสื่อสาร มีความเห็นอกเห็นใจกัน คนน่าจะรู้สึกใกล้กันมากขึ้น เพราะกำลังต่อสู้กับวิกฤตนี้ไปด้วยกัน  วิกฤตครั้งนี้จะจบลงโดยที่โลกมีความสามัคคีกันมากขึ้น และเราน่าจะพร้อมจัดการกับปัญหาระดับโลกอื่นๆไปด้วยกัน อย่างการระบาดของข้อมูลเท็จ หรือ การเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ
&nbsp;
ใช้จิตวิญญาณการเป็นสตาร์ทอัพ ทำงานในคณะรัฐมนตรี 
จากการที่คนไต้หวันตื่นตัวกับเทคโนโลยี อีกทั้งคนทำงานส่วนมากอยู่ในธุรกิจขนาดกลางและขนาดเล็ก จึงสามารถปรับตัวได้เร็ว ทุกครั้งที่มีเทรนด์หรือเทคโนโลยีใหม่ๆ เข้ามา ทำให้สามารถปรับระบบห่วงโซ่อุปทานได้ง่ายและรวดเร็ว  ส่วนสตาร์ทอัพเป็นเหมือนวัฒนธรรม  ความสำเร็จของสตาร์ทอัพนอกจากจะดูที่ธุรกิจแล้ว ยังมีบทเรียนที่ได้รับจากความล้มเหลว เปรียบเหมือนคลังความรู้ที่ช่วยให้พบแนวทางใหม่ๆ  เมื่อทำงานในคณะรัฐมนตรี ออเดรย์ ถัง จึงได้นำจิตวิญญาณของผู้ประกอบการสตาร์ทอัพมาใช้ เช่น การยืนประชุม การใช้บอร์ดแบบ Kanban  การทำงานได้จากทุกที่ รวมถึงการมีออฟฟิศแบบเปิดเพื่อให้ผู้คนเข้าถึงได้ตลอดเวลา
 
Sandbox นำอนาคตมาสู่ชุมชนรอบตัว
ในฐานะตัวแทนจาก Startup Terrace ออเดรย์ ถัง กล่าวว่า ไต้หวันมี Startup Terrace ให้สตาร์ทอัพทั้งในและต่างประเทศได้ร่วมเป็นส่วนหนึ่งของชุมชนสตาร์ทอัพ โดยมีพื้นพิเศษเรียกว่า Sandbox ที่สามารถนำเทคโนโลยีใหม่ๆ มาสู่ชุมชน โดยไม่ต้องผ่านการเห็นชอบจากรัฐสภา อย่างพาหนะขับเคลื่อนตัวเองด้วย 5G หรืออื่นๆ ที่ไม่มีข้อกฎหมายระบุไว้ชัดเจน ดังนั้นผู้ร่างกฎหมายต้องมีประสบการณ์ทำงานกับเทคโนโลยีใหม่ๆ เหล่านี้โดยตรงก่อนจะสร้างมาตรฐานเพื่อใช้อ้างอิง
&nbsp;
คุณค่าจากความต่าง สร้างประโยชน์อย่างยั่งยืน
ต่อประเด็นของการนำเทคโนโลยีมาปรับใช้ในยุคดิจิทัล  ออเดรย์ ถัง ให้แนวคิดในการนำเทคโนโลยีปรับเข้ามาสู่คน  แทนที่คนจะต้องปรับตัวเข้าหาเทคโนโลยี หรือบังคับให้คนน้อมรับเทคโนโลยีที่กำลังเข้ามา  ผู้คนในไต้หวันยังคงมีความคิดเห็นแตกต่างกัน แต่ในที่สุดความคิดต่างเหล่านี้ จะทำให้เกิดสิ่งใหม่ๆ ���ี่สามารถดึงเอาคุณค่าออกมาจากจุดยืนที่ต่างกัน และจะทำให้เกิดประโยชน์อย่างยั่งยืนกับคนรุ่นหลัง นี่คือสิ่งสำคัญที่แท้จริง
ก่อนจบการทอล์ค ออเดรย์ ถัง ได้ทิ้งท้ายว่า คนรุ่นใหม่ อายุน้อยๆ ได้เปรียบตรงที่ไม่มีระบบเดิมๆ มาเป็นข้อจำกัด ดังนั้นจะสามารถบุกเบิกทางใหม่ๆ โดยไม่ต้องนึกถึงระบบระเบียบสังคมเดิมๆ และคนรุ่นใหม่จะเป็นพลังที่ขับเคลื่อนสังคมไปข้างหน้า
ติดตามแนวคิดการขับเคลื่อนสังคมด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยีที่น่าสนใจจาก ออเดรย์ ถัง รัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัล ไต้หวัน จากงาน “The Great Forum - Transform Beyond Crisis คิด การณ์ ใหญ่” รับชมย้อนหลังได้ที่ <a style="color: #0000ff;" href="https://youtu.be/FIp6F5d6cOw" target="_blank" rel="noopener">YouTube True Digital Park</a>

taiwan-digital-minister-with-innovation-and-technology

รมต. ดิจิทัล ไต้หวัน บนเส้นทางการขับเคลื่อนสังคมด้วยนวัตกรรมและเทคโนโลยี

<h3>กรุงเทพฯ 10 สิงหาคม 2563 –  การเกิดขึ้นของวิกฤตโควิด-19 นำไปสู่การเปลี่ยนแปลงวิถีชีวิตของผู้คนทั่วโลกอย่างรวดเร็ว ทั้งยังส่งผลกระทบต่อภาคธุรกิจต่างๆอย่างเฉียบพลัน ไม่เว้นแต่ธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคมที่แม้ว่าผู้คนจะต้องพึ่งพาเทคโนโลยีดิจิทัลมากขึ้น แต่พฤติกรรมการใช้ชีวิตที่เปลี่ยนไป ได้สร้างทั้งอุปสรรคและโอกาสที่ท้าทายสำหรับทั้งธุรกิจและองค์กร</h3>
ทรู ดิจิทัล พาร์ค ศูนย์กลางเทคและสตาร์ทอัพที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน ร่วมกับ Mission to the Moon       ได้เจาะลึกการเปลี่ยนแปลงองค์กรครั้งสำคัญของหลากหลายกลุ่มธุรกิจรวมถึงธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคมอย่างกลุ่มทรู ที่ได้สะท้อนถึงการบริหารจัดการ และการรับมือกับความท้าทายต่างๆ ซึ่งถือเป็นก้าวสำคัญในการพลิกวิกฤตและคว้าโอกาสการเติบโตในธุรกิจจากวิกฤตการณ์ครั้งนี้ ในงาน “The Great Forum - Transform Beyond Crisis คิด การณ์ ใหญ่”
&nbsp;
วิกฤตโควิด-19 เร่งให้องค์กร Transform สู่ดิจิทัลได้เร็วขึ้น
“การล็อกดาวน์ในช่วงโควิด-19 ทำให้เกิดการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญ เป็นความท้าทายที่ต้องปรับเปลี่ยนองค์กรอย่างรวดเร็ว พนักงานต้องทำงานจากที่บ้าน ขณะที่ยังต้องตอบสนองความต้องการของลูกค้าให้ได้อย่างต่อเนื่อง” คุณอาณัติ เมฆไพบูลย์วัฒนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น เกริ่นถึงการปรับเปลี่ยนองค์กรสู่ Digital Organization และกล่าวว่า “เมื่อ 3 ปีก่อน กลุ่มทรูได้เปลี่ยนแปลงองค์กรสู่ Digital Organization เพื่อให้ทำงานได้รวดเร็วและตอบสนองความต้องการของลูกค้าและคู่ค้าได้อย่างมีประสิทธิภาพ มีการพัฒนา 
แอปพลิเคชัน True Connect ให้พนักงานติดต่อสื่อสาร ตรวจสอบสถานะโปรเจกต์ และอนุมัติการทำงาน นอกจากนี้ ในช่วงวิกฤตโควิด-19 ทรูยังพัฒนาแอปพลิเคชัน True Vroom ให้ทั้งประชาชนทั่วไปและโดยเฉพาะพนักงานได้ใช้ประชุมออนไลน์อย่างสะดวกโดยไม่ต้องเดินทาง รวมถึงการนำดิจิทัลมาใช้กับ Business Process เพื่อลดขั้นตอนและประหยัดเวลา เห็นได้ชัดว่า วิกฤตครั้งนี้เป็นตัวเร่งให้องค์กร Transform เข้าสู่ดิจิทัลได้เร็วขึ้น”
<img style="display: block; margin-left: auto; margin-right: auto;" src="../../../media/5f325b2cb8f23_TrueThegreatForum.jpg" alt="" width="800" />
รับมือกับความท้าทายรอบด้าน
สำหรับธุรกิจสื่อสารโทรคมนาคม ทรู ต้องรับมือกับความท้าทายในด้านต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นด้านโครงข่าย จากการที่ลูกค้าเปลี่ยนพื้นที่การใช้งานจากในเมือง กระจายสู่ที่พักอาศัยนอกเมือง มีปริมาณการใช้ดาต้าสูงขึ้น ต้องปรับแบนด์วิดต์ เพิ่ม capacity ทีมงานเน็ตเวิร์กแม้ต้องทำงานจากที่บ้านก็ต้องสามารถดูแลตรวจสอบโครงข่ายให้ใช้งานได้อย่างมีประสิทธิภาพไร้ปัญหา   ด้านการให้บริการลูกค้า พนักงาน call center 90% ต้องทำงานจากที่บ้าน แต่ยังต้องคงคุณภาพ สร้างความพึงพอใจแก่ลูกค้าเสมือนอยู่ที่สำนักงาน ในขณะที่ต้องรับสายจากลูกค้าเพิ่มขึ้นกว่าช่วงปกติมาก พนักงานไม่เพียงพอ จึงจัดอบรมแบบ e-learning ให้ทีมหลังบ้านเข้าช่วยงาน call center ให้บริการลูกค้าได้เพิ่มขึ้น ขณะเดียวกัน ดิจิทัลแพลฟอร์มและช่องทางออนไลน์ต่างๆ ก็เข้ามามีบทบาทมากขึ้นอย่างเห็นได้ชัด  ลูกค้าให้ความสนใจใช้งานผ่านบริการ self service ที่ทรูเตรียมพร้อมรองรับไว้ทั้งแอป True iService TrueID ,  ด้านการรักษารายได้ เมื่อหน้าร้านปิดในช่วงล็อกดาวน์ ทรูได้พัฒนา Multi-skill ให้พนักงานขาย ผ่าน e-learning และยังใช้ Data analytics ช่วยการขาย รวมทั้งช่องทางอำนวยความสะดวกลูกค้าผ่าน wemall.com ที่จัดส่งสินค้าให้ถึงบ้าน ทำให้สามารถประคองรายได้ในช่วง 6 เดือนที่ผ่านมาให้เป็นไปได้อย่างดี
&nbsp;
ทุกวิกฤตคือโอกาส
เราเห็นพฤติกรรมของผู้บริโภคที่ใช้เวลาอยู่บ้านมากขึ้น มีการติดต่อสื่อสาร ดูหนัง ฟังเพลงมากขึ้น จึงลงทุนเพิ่มกับดิจิทัลแพลตฟอร์ม อย่างแอปพลิเคชัน TrueID ที่สามารถดูหนังฟังเพลงหรือดูรายการทีวีแบบออนดีมานด์ได้ และต่อยอดให้โทรและแชตผ่านแอปได้ พร้อมเปิด TrueID In-Trend นำเสนอคอนเทนต์ที่สร้างจากผู้ใช้ (User Generated Content) ที่มีผู้สมัครเป็นนักเขียนเพิ่มขึ้นถึง 3 เท่าตัว รวมทั้งคอนเทนต์ต่างๆ ที่ทรูไอดีรวบรวมให้ลูกค้าได้ดูเข้าถึงทุกความบันเทิงได้ง่ายๆ เสริมให้ TrueID มียอดดาวน์โหลดสูงขึ้นสวนกระแสธุรกิจอื่นที่เป็นขาลง แสดงให้เห็นว่าทุกวิกฤตคือโอกาส ถ้าเห็นโอกาสแล้วเร่งพัฒนาให้ทันการณ์ก็จะสามารถเติบโตได้
&nbsp;
5G เทคโนโลยีขับเคลื่อนประเทศ
เทคโนโลยี 5G จะมีบทบาทสำคัญในการพัฒนาเศรษฐกิจสังคมและประเทศ ที่ผ่านมา กลุ่มทรูพัฒนานวัตกรรมเทคโนโลยีในประเทศไทยมาตลอด รวมถึงเทคโนโลยี 5G ด้วย ในช่วงวิกฤต กลุ่มทรูได้นำเทคโนโลยี 5G มาช่วยในการแพทย์ และนำหุ่นยนต์ 5G มาช่วยเรื่องความปลอดภัยให้ลูกค้าที่ห้างสรรพสินค้า อีกทั้งยังนำมาต่อยอดให้เกิดประสบการณ์รูปแบบใหม่ทีไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน นอกจากนี้ ยังนำเทคโนโลยี 5G ช่วยยกระดับเกษตรกรไทย พัฒนาดิจิทัลโซลูชัน “สมาร์ทฟาร์ม” และยังมีอีกหนึ่งความตั้งใจของกลุ่มทรูที่ต้องการสร้างสถานที่ให้เป็น Silicon Valley ของเมืองไทย คือที่ True Digital Park เป็นศูนย์กลางของเทคโนโลยีให้สตาร์ทอัพมีโอกาสมารวมกัน เวิร์คช้อป ระดมสมอง ต่อยอดนวัตกรรม สร้างแพลตฟอร์ม สร้างโซลูชันโดยใช้เทคโนโลยีใหม่ๆ  ผลักดันอุตสาหกรรมไทยให้ขับเคลื่อนและเติบโตต่อไป
&nbsp;
สถานการณ์โควิด-19 ที่เกิดขึ้น ทำให้เห็นว่า ผู้บริโภคมีไลฟ์สไตล์เปลี่ยนไป สังคมไทยกลายเป็นสังคมดิจิทัลชัดเจนขึ้น การ Work from Home หรือที่อื่นๆ การไม่ใช้เงินสด อีคอมเมิร์ซ และอื่นๆ  รวมถึงการเชื่อมโยงทุกสิ่งเข้าด้วยกัน ผู้คน งาน และสังคมรอบข้างทั้งหมด รวมถึงการเชื่อมโยงอุปกรณ์ต่างๆเข้าด้วยกัน
ทั้งหมดนี้ กลุ่มทรูไม่เพียงแต่นำเทคโนโลยี 5G มาเติมเต็ม แต่ยังเตรียมบริการด้านดิจิทัลเพื่อรองรับและเติมเต็มไลฟ์สไตล์ของลูกค้าในทุกมิติ ซึ่งจะช่วยยกระดับสู่สังคมดิจิทัลอย่างเต็มรูปแบบด้วย
&nbsp;
ร่วมเจาะลึกการเปลี่ยนผ่านสู่ Digital Organization ของกลุ่มทรู ท่ามกลางวิกฤตโควิด-19   รับชมย้อนหลังได้ทางเฟซบุ๊ก True Digital Park  หรือ ที่ <a href="https://bit.ly/3a8mN6A" target="_blank" rel="noopener">https://bit.ly/3a8mN6A</a>

how-true-group-change-to-digital-organization

เจาะลึกการเปลี่ยนผ่านสู่ DIGITAL ORGANIZATION ของกลุ่มทรู ท่ามกลางวิกฤตโควิด-19

กรุงเทพมหานคร 7 สิงหาคม 2563 - ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย ( EXIM Bank )  ได้ร่วมกับกลุ่มเครือข่ายพันธมิตรทางธุรกิจทั้งภาครัฐและภาคเอกชน จัดงานสัมมนา  “The Exporter Forum”  ขึ้น ณ ห้องประชุมศูนย์ EXAC ชั้น L ในวันที่ 5-7 สิงหาคม 2563 ณ อาคารเอ็กซิม โดย คุณพิศิษฐ์ เสรีวิวัฒนา กรรมการผู้จัดการธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย เป็นประธานในพิธีเปิดงาน โดยได้รับเกียรติจาก คุณนพพร เทพสิทธา คณบดีกิติคุณ มหาวิทยาลัยศรีปทุม อดีตประธานกรรมการบริหาร ธนาคารเพื่อการส่งออกและนำเข้าแห่งประเทศไทย,คุณกัณญภัค ตันติพิพัฒน์พงศ์ ประธานสภาผู้ส่งสินค้าทางเรือแห่งประเทศไทย, คุณชาติชาย พานิชชีวะ รองประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย,  และคุณสนั่น อังอุบลกุล รองประธานกรรมการ สภาหอการค้าแห่งประเทศไทย, คุณอรทัย เล็กสกุลชัย นักวิชาการพาณิชย์เชี่ยวชาญ กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ มาร่วมพิธีเปิดครั้งนี้ด้วย
&nbsp;
โดยงานนี้จัดขึ้นเพื่อเป็นการยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ส่งออกไทยโดยการให้ความรู้และแบ่งปันประสบการณ์จากบริษัทที่ทำธุรกิจส่งออกระดับชั้นนำของประเทศ พร้อมบริการให้คำปรึกษาอย่างครบวงจร รวมถึงการทำ Solution Matching (การจับคู่พาร์ทเนอร์ทางธุรกิจ) ในการช่วยจับคู่ธุรกิจระหว่างผู้ประกอบการที่ต้องการเพิ่มประสิทธิภาพธุรกิจด้วยเทคโนโลยีกับนวัตกรและผู้ประกอบการ Tech Startups ผ่านโครงการต่อยอด EXAC Hackathon และโครงการอื่นๆต่อไป

ene-exporter-forum

THE EXPORTER FORUM ยกระดับขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ส่งออกไทย

<h3>กรุงเทพฯ 7 สิงหาคม 2563 –  ทรู ดิจิทัล พาร์ค ศูนย์กลางเทคและสตาร์ทอัพที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน ชวนนิสิตนักศึกษาทุกมหาวิทยาลัย หนีความจำเจมาเปลี่ยนบรรยากาศใช้ชีวิตนักศึกษายุคดิจิทัล ที่ ทรู ดิจิทัล พาร์ค</h3>
โค-เวิร์คกิ้ง สเปซ (True Digital Park Co-working space) นั่งฟรี 12 เดือน (ตั้งแต่วันที่ 1 ส.ค. 2563 ถึง 31 ก.ค. 2564) พื้นที่แลกเปลี่ยน เรียนรู้ และโอกาสพบปะกับเหล่าสตาร์ทอัพและชาวเทค ให้สร้างสรรค์ต่อยอดไอเดียใหม่ๆ ไม่รู้จบ จัดเต็มได้ทุกกิจกรรม ทั้งเรียนออนไลน์ ถ่ายคลิปอัปโหลดสไตล์ยูทูปเบอร์ ห้องประชุมทำงานกลุ่มและมุมพักผ่อน ครบครันกับอุปกรณ์พร้อมใช้ ทั้งโต๊ะทำงานดีไซน์ทันสมัยกว่า 250 ที่นั่ง มีบริการ WiFi น้ำดื่ม Infused ชา กาแฟ และที่จอดรถฟรี 3 ชั่วโมง  และบริการเครื่องปริ้นท์เอกสารความละเอียดสูง  พร้อมสิ่งอำนวยความสะดวกกับร้านค้ากว่า 200 ร้าน ให้เลือกกิน ช้อป และออกกำลังกายได้ตามใจ รวมทุกความเป็นไปได้ในที่เดียว และมั่นใจได้กับมาตรการคุมเข้มด้านสุขอนามัย และเว้นระยะห่างทางสังคม TDPK CARE
<img style="display: block; margin-left: auto; margin-right: auto;" src="../../../media/5f2d063a77e6c_websitekeyvisualuniversityTrueLab.jpg" alt="" width="800" />
โอกาสพิเศษ!! พลาดแล้วต้องรออีกนาน นิสิตนักศึกษาที่สนใจสามารถลงทะเบียนรับสิทธิได้ตั้งแต่วันที่ 1 สิงหาคม – 30 กันยายน 2563 จำกัดเฉพาะนักศึกษา 1 คนต่อ 1 สิทธิเท่านั้น เพียง Add LINE True Digital Park: <a style="color: #0000ff;" href="https://lin.ee/rPpgy85" target="_blank" rel="noopener">https://lin.ee/rPpgy85</a>  แล้วพิมพ์ STU163 มาที่ Chat  และรอยืนยันกลับ
ดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ <a style="color: #0000ff;" href="../../../Free-co-working-space-for-university-students">https://www.truedigitalpark.com/Free-co-working-space-for-university-students</a>

12-months-co-working-free-using-for-university-students

ทรู ดิจิทัล พาร์ค ชวนนิสิตนักศึกษามหาวิทยาลัยใช้ CO-WORKING SPACE ฟรี 12 เดือน

กรุงเทพฯ 15 ก.ค.63 – ทรู ดิจิทัล พาร์ค ศูนย์กลางเทคและสตาร์ทอัพที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน เดินหน้าช่วยสตาร์ทอัพและธุรกิจไทยปรับตัวสู้วิกฤตโควิด-19 ร่วมกับ Mission to the Moon เชิญผู้นำระดับแนวหน้าจากหลากหลายอุตสาหกรรมร่วมแบ่งปันมุมมองความคิด แนวทางปรับตัวรับมือกับผู้บริโภคยุค New Normal เพื่อพลิกฟื้นธุรกิจจากผลกระทบวิกฤตโควิด-19 ในงาน “The Great Forum - Transform Beyond Crisis คิด การณ์ ใหญ่” ดำเนินรายการโดย นายรวิศ หาญอุตสาหะ ซีอีโอ บริษัท ศรีจันทร์สหโอสถ จำกัด โอกาสพิเศษที่จะได้พบกับ ออเดรย์ ถัง รัฐมนตรีกระทรวงดิจิทัล ประเทศไต้หวัน ที่ได้รับการยกย่องว่าสามารถแก้ไขปัญหาโควิด-19 ได้อย่างดีเยี่ยม พร้อมด้วยผู้นำองค์กรแถวหน้าของประเทศไทย จากแวดวงอุตสาหกรรมโทรคมนาคม การศึกษา อาหาร รีเทล และการเงินและการธนาคาร ที่ต่างนำเทคโนโลยีดิจิทัลมาปรับใช้ในการขับเคลื่อนธุรกิจ ได้แก่
<ul>
<li>นายอาณัติ เมฆไพบูลย์วัฒนา กรรมการผู้จัดการใหญ่ (ร่วม) บมจ.ทรู คอร์ปอเรชั่น</li>
<li>ดร.สุชัชวีร์ สุวรรณสวัสดิ์ ประธานที่ประชุมอธิการบดีแห่งประเทศไทย</li>
<li>นายประสิทธิ์ บุญดวงประเสริฐ ประธานคณะผู้บริหาร บมจ.เจริญโภคภัณฑ์อาหาร</li>
<li>นายอักเซล วินเทอร์ CTO at Central Group</li>
<li>ดร.อารักษ์ สุธีวงศ์ ผู้จัดการใหญ่ ธนาคารไทยพาณิชย์ จำกัด (มหาชน) และประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอสซีบี เท็นเอกซ์ จำกัด</li>
</ul>
สตาร์ทอัพและผู้ที่สนใจร่วมรับฟังมุมมอง กลยุทธ์ พร้อมวิธีการรับมือและแผนการดำเนินธุรกิจที่ต้องปรับตัวให้ทันกับความเปลี่ยนแปลงของพฤติกรรมผู้บริโภคและสังคม รวมถึงบทเรียนจากวิกฤตโควิด-19 ได้ในวันพฤหัสบดีที่ 23 กรกฎาคม 2563 เวลา 13.00-16.30 น. ชมพร้อมกันทาง ทรู ดิจิทัล พาร์ค เฟซบุ๊ก, ยูทูป และทรูไอดี
<a style="color: #0000ff;" href="../../../events_details/130_The-Great-Forum:-Transform-Beyond-Crisis">ดูรายละเอียดเพิ่มเติม และลงทะเบียนร่วมงานได้ที่นี่</a>
ติดต่อสอบถาม แอดไลน์ได้เลย
<a href="https://lin.ee/rPpgy85"><img src="https://scdn.line-apps.com/n/line_add_friends/btn/th.png" alt="เพิ่มเพื่อน" height="36" border="0" /></a>

one-great-forum-transform-beyond-crisis

หนึ่งวัน... หนึ่งเวที... กับผู้นำระดับแนวหน้าจากหลายหลายอุตสาหกรรม

<h3>ORIGIN Innovation Awards is APAC’s esteemed accolade for tech innovation which aims to provide recognition to companies that have exemplified the spirit of innovation and entrepreneurship in the running of their businesses.</h3>
The inaugural ORIGIN Innovation Awards started in 2020 as an initiative by TechNode Global with a goal to build a dynamic community in propelling them to soar to greater heights. This year, we have 4 main categories and 19 sub-categories for ORIGIN Innovation Awards.
&nbsp;
<h4>Digital Transformation Award</h4>
<ul>
<li>Best Digital Transformation</li>
</ul>
<h4>Ecosystem Enabler Awards</h4>
<ul>
<li>People’s Choice VCs</li>
<li>Community Builder Award</li>
</ul>
<h4>Startup Awards</h4>
<ul>
<li>Artificial Intelligence</li>
<li>FinTech</li>
<li>IoT</li>
<li>HealthTech</li>
<li>Logistics &amp; LMF</li>
<li>E-commerce</li>
<li>Food &amp; AgriTech</li>
<li>Media &amp; Entertainment</li>
<li>Supply Chain &amp; New Retail</li>
<li>EduTech</li>
<li>Internet Solutions (Saas)</li>
</ul>
<h4>Movers &amp; Shakers Awards</h4>
<ul>
<li>Outstanding Female VC</li>
<li>Promising Female Founder</li>
<li>Founder of the Year</li>
<li>Best Sustainable Solution</li>
<li>Resilience Award</li>
</ul>
Submit your nomination by 31 August 2020.
Judging period: 1 September - 31 October 2020.
Announcement of ORIGIN Innovation Awards winners at ORIGIN Summit: December 2020 - January 2021
For more information and nomination, please go to <a style="color: #0000ff;" href="https://technode.global/origin/innovation-awards/" target="_blank" rel="noopener">https://technode.global/origin/innovation-awards/</a>.
TechNode is one of True Digital Park’s media partners in our interconnected ecosystem.

origin-innovation-awards

ORIGIN INNOVATION AWARDS

<h3>ทรู ดิจิทัล พาร์ค เพิ่มมาตรการ TDPK CARES เว้นระยะ เพื่อคุณ เพื่อเรา</h3>
<h3>New Normal, New Working Style ป้องกันการแพร่ระบาดโรคโควิด-19</h3>
กรุงเทพฯ 18 พฤษภาคม 2563 – ทรู ดิจิทัล พาร์ค ศูนย์กลางเทคและสตาร์ทอัพที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน เปิดให้บริการแล้ว พร้อมเพิ่มมาตรการคุมเข้มด้านสุขอนามัย TDPK CARES รองรับการใช้ชีวิตวิถีใหม่ เว้นระยะห่าง เพื่อคุณ เพื่อเรา รองรับสไตล์การทำงานวิถีใหม่ New Normal, New Working Style ยกระดับความปลอดภัยทุกพื้นที่ภายในโครงการ ทั้ง Workspace ทุกโซน ไม่ว่าจะเป็นโซนสำนักงาน ห้องประชุม <a style="color: #0000ff;" href="../../../join_membership">Co-Working Space</a> รวมถึง <a style="color: #0000ff;" href="../../../Virtual-Event">พื้นที่จัดกิจกรรม</a> และ Lifestyle Space บริการร้านค้าต่างๆ ที่สร้างความมั่นใจสำหรับคนทำงาน ผู้ใช้บริการ ผู้มาติดต่อ และพนักงาน พร้อมนำเทคโนโลยีดิจิทัลต่างๆ มาช่วยอำนวยความสะดวก และช่วยในการบริหารจัดการพื้นที่ด้วยความปลอดภัยสูงสุด
ดร.ธาริต นิมมานวุฒิพงษ์ ผู้จัดการทั่วไป ทรู ดิจิทัล พาร์ค กล่าวว่า ทรู ดิจิทัล พาร์ค มุ่งสร้างระบบนิเวศสมบูรณ์แบบครบวงจรเพื่อเหล่าสตาร์ทอัพ ท่ามกลางสภาพแวดล้อมที่เอื้อต่อการพัฒนานวัตกรรม การทำงาน และการใช้ชีวิตยุคดิจิทัล ทั้งยังให้ความสำคัญในการดูแลความปลอดภัยและสุขอนามัยของผู้ใช้บริการในโครงการอย่างต่อเนื่อง เพื่อป้องกันการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 สร้างความมั่นใจสำหรับคนทำงาน ผู้ใช้บริการ ผู้มาติดต่อ และพนักงาน ให้สามารถกลับมาทำงานและใช้ชีวิตวิถีใหม่ New Normal, New Working Style ได้อย่างมั่นใจ ด้วยมาตรการ TDPK CARES เพิ่มความปลอดภัย เพื่อคุณ เพื่อเรา ดูแลครอบคลุมทุกมิติ ทุกพื้นที่ทั่วโครงการ ทั้งมาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม (Social Distancing) พร้อมทั้งนำเทคโนโลยีดิจิทัลต่างๆ มาอำนวยความสะดวก และช่วยลดความเสี่ยงติดเชื้อ การคัดกรองและป้องกันอย่างเข้มงวด รวมถึงดูแลความสะอาดทุกพื้นที่
<img src="../media/5ec234a749ec2_KM_09654.JPG" alt="" width="500" /><img src="../media/5ec234a8448fc_Co-workingspace2.jpg" alt="" width="500" />
<h3>มาตรการเว้นระยะห่าง (Social Distancing)</h3>
• จัดที่นั่งทำงานแบบเว้นระยะห่างตามมาตรการ Social Distancing ทั้ง Co-working Space ห้องประชุม และพื้นที่จัดงาน 
• จัดสรรการใช้พื้นที่ภายในอาคารแบบเว้นระยะห่าง อาทิ บริเวณพื้นที่รอลิฟท์ขึ้นสำนักงาน จำกัดจำนวนผู้โดยสารในลิฟท์และยืนตามจุดที่กำหนด รวมทั้งจัดระเบียบการเข้า-ออก ร้านค้า ร้านอาหารและพื้นที่ส่วนกลาง
<h3><img src="../media/5ec234a7a3468_robotics.jpg" alt="" width="500" /><img src="../media/5ec234a7ca659_TMN5.jpg" alt="" width="500" /> 
เทคโนโลยีดิจิทัลช่วยอำนวยความสะดวก</h3>
• หุ่นยนต์ผู้ช่วยอัจฉริยะ อำนวยความสะดวกในการนำทางไปยังห้องประชุมและพื้นที่ต่างๆ ในอาคาร 
• สังคมไร้เงินสด ชำระเงินแบบไม่ใช้เงินสด (Cashless Payment) เลี่ยงสัมผัสเงินสด ลดการแพร่เชื้อโรค 
• เทคโนโลยี Heat Map ตรวจสอบและบริหารจัดการพื้นที่ เพื่อลดความหนาแน่นในการใช้พื้นที่ต่างๆ ภายในโครงการ
<img src="../media/5ec234a7b2481_Thermoscan.jpg" alt="" width="500" /><img src="../media/5ec234a789f50_reception.jpg" alt="" width="500" />
<h3>การคัดกรองและป้องกันอย่างเข้มงวด</h3>
• มีจุดคัดกรองวัดอุณหภูมิร่างกายด้วยเครื่องสแกนอัตโนมัติ (Thermo Scan) ก่อนเข้าอาคาร 
• ผู้ใช้บริการอาคารสำนักงาน ต้องกรอกแบบสอบถามด้านสุขภาพก่อนขึ้นอาคาร และต้องสวมหน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่อยู่ภายในอาคาร 
• พนักงานและเจ้าหน้าที่ทุกคนต้องสวม หน้ากากอนามัยตลอดเวลาที่ปฏิบัติหน้าที่
<img src="../media/5ec234a7e498d_ZZ_09192.jpg" alt="" width="500" /><img src="../media/5ec234a7edd1b_พ่นโอโซน.jpg" alt="" width="500" />
<h3>ดูแลความสะอาดทุกพื้นที่เป็นประจำสม่ำเสมอ</h3>
• ทำความสะอาดบัตรจอดรถทั้งก่อนและหลังการใช้งาน 
• มีจุดบริการเจลแอลกอฮอล์ล้างมือตามจุดต่างๆ ทั่วอาคารและร้านค้า 
• ทำความสะอาดจุดสัมผัสสาธารณะด้วยน้ำยาฆ่าเชื้อโรคทุก 30 นาที อาทิ ราวบันไดเลื่อน ที่จับประตู ลิฟท์ ห้องน้ำและประตูอาคารทุกจุด 
• ฉีดพ่นและอบโอโซนฆ่าเชื้อโรคภายในอาคารและบริเวณร้านค้าเป็นประจำ
นอกจากนี้ ทรู ดิจิทัล พาร์ค ยังจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ตามจุดต่างๆ ภายในโครงการ รณรงค์การรักษาระยะห่างทางสังคม และขอความร่วมมือให้สวมหน้ากากอนามัยตลอดระยะเวลาที่อยู่ในอาคาร เพื่อลดการแพร่กระจายของเชื้อโรค ให้คนไทยใช้ชีวิตวิถีใหม่ได้อย่างมีความสุข
ติดต่อสอบถาม แอดไลน์ได้เลย
<a href="https://lin.ee/rPpgy85"><img src="https://scdn.line-apps.com/n/line_add_friends/btn/th.png" alt="เพิ่มเพื่อน" height="36" border="0" /></a>

new-normal-tdpk-re-open

ทรู ดิจิทัล พาร์ค เปิดบริการแล้ว ชูสไตล์การทำงานวิถีใหม่ ปลอดภัยกว่าเดิม

กรุงเทพฯ 28 เมษายน 2563 – ทรู ดิจิทัล พาร์ค ศูนย์กลางเทคและสตาร์ทอัพที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน ร่วมกับ บริษัท อินโนสเปซ (ประเทศไทย) จำกัด และเหล่าองค์กรพันธมิตร จัดสัมมนา “Rocket Launcher Ep.01: Convertible Debenture Webinar” ผ่านแพลตฟอร์มประชุมออนไลน์ True VROOM เพื่อสนับสนุนสตาร์ทอัพ และผู้ประกอบการ SMEs เดินหน้าธุรกิจฝ่าวิกฤตโควิด-19 โดยมีผู้เชี่ยวชาญด้านการเงินและการลงทุนในธุรกิจสตาร์ทอัพ ร่วมให้ความรู้และแลกเปลี่ยนความคิดเห็น พร้อมแนะนำรูปแบบใหม่ในการระดมทุน ให้สตาร์ทอัพสามารถออกหุ้นกู้แปลงสภาพ (Convertible Denbeture) เพื่อระดมทุนจากกองทุน Inno Bridge Fund ของ อินโนสเปซ (ประเทศไทย) ที่จัดตั้งขึ้นเพื่อช่วยเหลือเรื่องกระแสเงินสดแก่สตาร์ทอัพและเอสเอ็มอีที่ได้รับผลกระทบจากวิกฤติโควิด-19 และกระตุ้นการสร้างสรรค์นวัตกรรม เพื่อช่วยเหลือสังคมในภาวะวิกฤตนี้
กองทุน Inno Bridge Fund มีวงเงินตั้งต้น 50 ล้านบาท ตั้งเป้าช่วยเหลือสตาร์ทอัพ ประมาณ 20 บริษัท รายละไม่เกิน 3 ล้านบาท โดยสตาร์ทอัพที่ต้องการระดมทุนเสริมสภาพคล่อง สามารถออกหุ้นกู้แปลงสภาพ (Covertible Debenture) ซึ่งเป็นเครื่องมือการลงทุนใหม่ มีลักษณะเหมือนการกู้เงินและให้หุ้นกู้เป็นตัวแทน โดยมีกำหนดชำระคืนทั้งเงินต้นและดอกเบี้ย หรือแปล��เป็นหุ้นในสตาร์ทอัพ มีส่วน ช่วยให้นักลงทุนและสตาร์ทอัพเจราธุรกิจได้คล่องตัว และเข้าถึงแหล่งเงินทุนได้เร็วขึ้น
กองทุนฯจะให้ความสำคัญกับสตาร์ทอัพที่พัฒนานวัตกรรมช่วยแก้ปัญหาในสถานการณ์โควิด-19 เป็นอันดับแรก ไม่ว่าจะเป็นนวัตกรรมด้านการแพทย์ ระบบฐานข้อมูลติดตามการแพร่เชื้อ หรือการป้องกันการแพร่เชื้อ ซึ่งขณะนี้มีสตาร์ทอัพลงทะเบียนเข้าร่วมการพิจารณาของกองทุนฯแล้วกว่า 90 ราย สำหรับสตาร์ทอัพและผู้ประกอบการเอสเอ็มอีที่สนใจลงทะเบียนกองทุน Inno Bridge Fund สามารถดูรายละเอียดเพิ่มเติม ทั้งหลักเกณฑ์และเงื่อนไข พร้อมลงทะเบียนและดาวน์โหลดเอกสารได้แล้ววันนี้ ถึง 30 เมษายน 2563 <a style="color: #0000ff;" href="https://docs.google.com/forms/d/e/1FAIpQLSd78SzyVojD6o88Mk1fbDi-xbZcVTqgLp1GXhW2KfKbZnHavA/viewform" target="_blank" rel="noopener">ที่นี่</a> และ เฟซบุ๊ก <a style="color: #0000ff;" href="https://www.facebook.com/innospacethailand/" target="_blank" rel="noopener">InnospaceThailand</a>
<h3>หลักเกณฑ์และเงื่อนไข ของ Inno Bridge Fund</h3>
<img src="../media/5ea7ab6d1c75c_InnoBridge1.jpg" alt="" width="800" />
<img src="../media/5ea7ab6d1bf3d_InnoBridge2.jpg" alt="" width="800" />
<img src="../media/5ea7ab6d38637_InnoBridge3.jpg" alt="" width="800" />
&nbsp;
<h3>รับชม Rocket Launcher Ep.01: Convertible Debenture Webinar เพื่อเรียนรู้เพิ่มเติมเกี่ยวกับหุ้นกู้แปลงสภาพได้ทางนี้</h3>
<iframe src="https://www.youtube.com/embed/1OwT9Vxqi74" width="560" height="315" frameborder="0" allowfullscreen="allowfullscreen"></iframe>

solutions-for-startups-and-smes-in-covid

ทางรอด สตาร์ทอัพ และ SMES ท่ามกลางวิกฤตโควิด-19

Bangkok, 14 April 2020 – One of True Digital Park’s partners, Techstars, the global platform for investment and innovation, is hosting a Global Online Startup Weekend series, “<a style="color: #0000ff;" href="https://covid.startupweekend.org/" target="_blank" rel="noopener">Unite to Fight Covid-19</a>.” Thailand needs anyone with an idea or desire to join us for a 54-hour weekend event on April 24th to 26th. Participants will work together from their homes to tackle the challenges presented by the pandemic.
&nbsp;
Local Community Leaders, in partnership with Techstars, are volunteering to host this event, which will focus on developing Covid-19-related solutions unique to Thailand]. During this live, online event, we need innovators, developers, inventors and anyone with a passion to help. Participants will help develop prototypes that could solve some of the biggest challenges posed by the pandemic.
&nbsp;
Aisling O’Neill, Manager of ArcLabs, WIT’s Business Incubator is part of the organising team and she said “having postponed Startup Weekend Bangkok 2020 as a result of the Covid19 lockdown, I am just delighted to be part of Team Thailand for this Global online Startup Weekend to work with the Irish community to develop meaningful innovations to solve the most significant challenges presented by the biggest global crisis of our times.”
&nbsp;
Thailand is one of more than 70 countries around the world participating in this important event. The top 20 teams from around the world will go on to participate in a Techstars Innovation Bootcamp experience.
&nbsp;
For regular updates and event details visit <a style="color: #0000ff;" href="http://communities.techstars.com/thailand/bangkok/startup-weekend/16215" target="_blank" rel="noopener">http://communities.techstars.com/thailand/bangkok/startup-weekend/16215</a>.
&nbsp;
Since the Covid-19 outbreak began to affect communities around the world, Techstars has made a variety of changes to programming and community engagement to keep people safe and to continue to support startups and innovators in this time of great need. Learn more about Techstars’ efforts and find resources and perspectives at <a style="color: #0000ff;" href="http://www.techstars.com/covid" target="_blank" rel="noopener">techstars.com/covid</a>.
&nbsp;
&nbsp;
About Techstars
Techstars is the global platform for investment and innovation. Techstars founders connect with other entrepreneurs, experts, mentors, alumni, investors, community leaders, and corporations to grow their companies. Techstars operates three divisions: Techstars Startup Programs, Techstars Mentorship-Driven Accelerator Programs, and Techstars Corporate Innovation Partnerships. Techstars accelerator portfolio includes more than 1,900 companies with a market cap of more than $26 Billion.<a style="color: #0000ff;" href="http://www.techstars.com/" target="_blank" rel="noopener"> www.techstars.com</a>

techstars-help-thailand-fight-covid

TECHSTARS ONLINE STARTUP WEEKEND SET TO HELP THAILAND FIGHT COVID-19

<h3>กรุงเทพฯ 24 มี.ค. 2563 - ทรู ดิจิทัล พาร์ค ศูนย์กลางเทคและสตาร์ทอัพที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน โดย ดร.ธาริต นิมมานวุฒิพงษ์ (ยืน ที่2จากซ้าย) ผู้จัดการทั่วไป จัดงาน TDPK Pitching Day 2020 เปิดโอกาสให้สตาร์ทอัพส่งไอเดียและผลงานธุรกิจในหัวข้อ “10 อุตสาหกรรมเป้าหมาย​ หรือ 10 S-Curve” ที่เป็นกลไกขับเคลื่อนเศรษฐกิจของประเทศสู่ยุคดิจิตอล 4.0 ชิงรางวัลชนะเลิศรวมมูลค่า 1.5 ล้านบาท พร้อมการสนับสนุนด้านต่างๆ จากทรู ดิจิทัล พาร์ค ที่จะช่วยเพิ่มความคล่องตัวของธุรกิจ อาทิ พื้นที่นั่งทำงานฟรี (Co-Working Space) และ ช่องทางสื่อสารโปรโมตธุรกิจ เป็นต้น โดยได้รับเกียรติจากผู้เชี่ยวชาญในแวดวงเทคโนโลยีและสตาร์ทอัพร่วมตัดสินผลงาน และมอบรางวัลแก่สตาร์ทอัพ ได้แก่</h3>
<ul>
<li>   รางวัลชนะเลิศ : ทีม AltoTech ใช้เทคโนโลยี Artificial Intelligent of Things (AIoT) พัฒนาระบบควบคุมและสั่งการเครื่องปรับอากาศภายในโรงแรม สามารถเปิด-ปิดได้ตามการใช้งานจริงและเหมาะสมกับจำนวนผู้ใช้งาน ช่วยประหยัดพลังงาน และลดค่าไฟฟ้าได้ถึง 30%</li>
<li>   รองชนะเลิศอันดับ1 : ทีม Verily Vision ใช้เทคโนโลยี Deep Learning Artificial Intelligence ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพกระบวนการ Logistic and Supply Chain Management ทั้งเก็บข้อมูลและควบคุมรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์สินค้า ช่วยลดต้นทุนและประหยัดเวลาทำงาน</li>
<li>   รองชนะเลิศอันดับ2 : ทีม Guri ใช้เทคโนโลยี Chatbot ให้บริการด้าน Health and wellness ที่ครบวงจรทั้ง เทรนเนอร์ คอร์สออกกำลังกาย อาหารเพื่อสุขภาพ โปรโมชั่นพิเศษ และอื่นๆ</li>
</ul>
ทั้งนี้ ทรู ดิจิทัล พาร์ค ยังคงเดินหน้าสร้างระบบนิเวศสมบูรณ์แบบครบวงจรสำหรับสตาร์ทอัพและผู้ประกอบการรุ่นใหม่ด้านเทคโนโลยี พร้อมสร้างเครือข่ายสตาร์ทอัพอย่างต่อเนื่อง โดยในสถานการณ์ปัจจุบันที่มีการแพร่ระบาดของ<a style="color: #0000ff;" href="../../../article_details/67_%E0%B8%9A%E0%B8%97%E0%B9%80%E0%B8%A3%E0%B8%B5%E0%B8%A2%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%81%E0%B9%87%E0%B8%9A%E0%B9%84%E0%B8%9B%E0%B8%84%E0%B8%B4%E0%B8%94%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%AD%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%96%E0%B8%B2%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%93%E0%B9%8C%E0%B9%82%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%B4%E0%B8%94-19-%E0%B8%88%E0%B8%B2%E0%B8%81%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B8%A8%E0%B8%95%E0%B9%88%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%86">เชื้อไวรัส COVID-19</a> ทรู ดิจิทัล พาร์ค ได้ปรับรูปแบบการจัดงาน Pitching Day ตามมาตรการ Social Distancing ใช้เทคโนโลยี<a style="color: #0000ff;" href="https://www.facebook.com/TrueDigitalPark/videos/523794201653544/" target="_blank" rel="noopener">ถ่ายทอดสดกิจกรรม Pitching</a> ผ่านระบบออนไลน์ ออกทางช่อง Facebook ของทรู ดิจิทัล พาร์ค และ แพล็ตฟอร์ม ของ ทรู ไอดี ให้ทั้งสตาร์ทอัพและบุคคลทั่วไป สามารถชมการนำเสนอผลงานได้ในพื้นที่ต่างๆโดยไม่จำเป็นต้องรวมตัวในที่เดียวกัน เพื่อลดความหนาแน่นของผู้เข้าร่วมงาน  พร้อมมีมาตรการป้องกันการแพร่เชื้อ COVID-19 สร้างความมั่นใจให้แก่ผู้เข้ามาทำงานและประชุมภายในโครงการ
ดูภาพงาน TDPK Pitching Day 2020 เพิ่มเติมได้ที่ <a style="color: #0000ff;" href="https://www.facebook.com/TrueDigitalPark/posts/3687488984626400" target="_blank" rel="noopener">Facebook ของทรู ดิจิทัล พาร์ค</a>
&nbsp;
<iframe src="https://www.youtube.com/embed/HwtIzafFlys" width="560" height="315" frameborder="0" allowfullscreen="allowfullscreen"></iframe>

first-live-tdpk-pitching-day-2020

ทรู ดิจิทัล พาร์ค จัด LIVE งาน TDPK PITCHING DAY 2020 ครั้งแรก

<h3>BANGKOK, 12 March 2020 – True Digital Park community team has launched TDPK event series to help skill-up and expand networks for startups and people in the tech community. In an effort to strengthen an interconnected ecosystem for startup and tech entrepreneurs in Southeast Asia, the event series consist of talks, clubs, program, mentor, and mega event series.</h3>
<img src="../../../media/5e61b75a09165_2.jpg" alt="" width="608" height="455" />
TDPK TALK 
Opening for the public to join is TDPK TALK series, which include series such as Global Tech Review, Startup Story, Career Hire &amp; Seek, Creative Content, Blockchain Dialogue, Sustainability Story, Smart City Discussion, Savvy Senior.
TDPK TALK: Global Tech Review is a series of tech talk sessions about innovation, technology and digital stuff in a casual atmosphere powered by True Digital Group.
TDPK TALK: Startup Story is part of True Digital Park's event series aimed at equipping young entrepreneurs with essential skills, mindsets, and understandings on how to maneuver their businesses in this digital era.
TDPK TALK: Career Hire &amp; Seek is a series of networking sessions/meetups focusing on tech career matching powered by GetLinks
TDPK TALK: Creative Content is a series of tech talk sessions that focus on arts, creativity, design, user experience aspects, with an aim to prepare workforce for the fast-changing digital disruption.
TDPK TALK: Blockchain Dialogue is a series of sharing session about blockchain from learning how to trade, invest, manage, and stay up to date with new features to apply blockchain on your business with great efficiency.
TDPK TALK: Sustainability Story is a series of sharing session or discussion with a focus on sustainable solutions to social change, diversity, environmental impact, business models, and application of new technology.
TDPK TALK: Smart City Discussion is a series of sharing session or discussion about how to find solutions &amp; ideas to improve cities for the people living in it to have better quality of life, economic development, and new business opportunities through AI &amp; digital transformation etc.
TDPK TALK: Savvy Senior is a series of workshops/seminars aimed at keeping the older generation in touch with technology/ digital equipment as well as helping them integrate technology into their daily life.
General public can check out and sign-up for the <a style="color: #0000ff;" href="../../../events" target="_blank" rel="noopener">latest events from events page</a>.
<img src="../../../media/5e61b75e313c8_3.jpg" alt="" width="606" height="404" />
TDPK CLUB
TDPK CLUB combine various exclusive clubs for True Digital Park tenants, members, and some invited guests only. One of our most prominent clubs is “<a style="color: #0000ff;" href="../../../press_release_details/26_True-Digital-Park-kicks-off-Groundbreakers-Club--the-first-club-of-leading-startup-founders-in-Thailand" target="_blank" rel="noopener">TDPK Groundbreakers Club</a>”, an initiative with an aim to create potential opportunities for leading startups to connect to c-suites from large corporates, fellow founders, and over 100 partners of TDPK. TDPK community team invites only leading founders and co-founders of startups in Thailand to join as Groundbreakers Club members
Other clubs are mostly TDPK member-only lifestyle clubs such as yoga, massage, sport, e-sport, Korean series, and beauty clubs. More clubs that will be open for the general public will soon be released.
<img src="../../../media/5e61b76279c43_4.jpg" alt="" width="609" height="609" />
TDPK PROGRAM
True Digital Park has incessantly been setting up various programs and events to support the sustainable growth of startups. TDPK PROGRAM is a series special events that support startup and everyone in our interconnected ecosystem to find new opportunities such as pitching program, internship program, and master class program. We have already kicked off “<a style="color: #0000ff;" href="../../../events_details/89_TDPK-Pitching-Day-2020" target="_blank" rel="noopener">TDPK Pitching Day 2020</a>,” an opportunity for startups to pitch their ideas under the topic: “10 targeted industries or 10 S-Curve” to win a 1,500,000-baht prize. By mid-2020 we will launch “TDPK Master Class” as a training program to skill-up tech talents in Thailand and Southeast Asia.
<img src="../../../media/5e61b767c44fc_5.jpg" alt="" width="600" height="400" />
TDPK MENTOR
TDPK MENTOR is a series of events that TDPK co-organizes with partners to give talks and one-on-one mentoring sessions to help individual entrepreneurs with their business struggles and at the same time give them opportunity to find funding and business opportunities. Our prominent TDPK MENTOR series is “<a style="color: #0000ff;" href="../../../events_details/86_TDPK-Let%E2%80%99s-Talk-to-the-VCs-#5" target="_blank" rel="noopener">Let’s Talk to the VCs</a>,” where we invite leading VCs to give 30-minute one-on-one sessions to startups to help them improve their business model, consult on various business issues, and even give opportunity for funding.
<img src="../../../media/5e61b76967ee3_6.jpg" alt="" width="605" height="403" />
TDPK MEGA EVENT
TDPK MEGA EVENT refers to grand events that we organize generally every quarter with a thousand of visitors in estimation. Last year, we held “<a style="color: #0000ff;" href="../../../press_release_details/25_True-Digital-Park-officially-opens-as-largest-digital-innovation-hub-in-SEA" target="_blank" rel="noopener">T.O.P 2019: Togetherness of Possibilities</a>” -- bringing together leading technology and innovation professionals to discuss and share the most recent trends in entrepreneurship, innovations and concerns that help strengthen startup ecosystem. We will continue to hold T.O.P annually, along with other mega events such as TECH TAKE TECH: TDPK JOB FAIR, TDPK BOOTCAMP, and TDPK TECH SHOWCASE.
&nbsp;
True Digital Park is Southeast Asia's largest tech and startup hub located in the heart of Bangkok CyberTech District.

tdpk-launch-event-series

TRUE DIGITAL PARK LAUNCHES SIGNATURE EVENT SERIES, STRENGTHENING INTERCONNECTED ECOSYSTEM

BANGKOK, 5 February 2020 - Depa, Krung Thai Bank, GAX, Social Lab, KMITL Research and Innovation Services (KRIS) and alliances has co-organized “Thailand Pavilion Alumni Experience Sharing and Demo Day,” showcasing the innovations of 7 leading Thai startups that have participated in the Consumer Electronics Show, CES 2020. It was the first time that Thailand sent technology and software innovation under the concept of “Made in Thailand” to the global stage for innovation in Las Vegas. The 7 startup representatives came back to tell us about their participation. It has been a good starting point for Thai startups to share knowledge in tech to the global stage.
Here are the 7 Thai startups:
<ol>
<li>HG Robotics: Developer of insecticide spray drones</li>
<li>Obodroid Corperation: Producer of home/building security robot</li>
<li>Lumio 3D: The only Thai startup who develops high resolution 3D scanners that can scan metal, plastic and glass</li>
<li>Petaneer: Startup with innovation for pets such as adjustable wheelchair for disabled animals</li>
<li>D-N-A-Coding: Producer of food allergies testing tool that use only your hair to identify your food allergy</li>
<li>Panacura: Startup with AKI Rapid Test Strip that checks your kidney and helps prevent acute renal failure</li>
<li>ZaneGrowth: Company that offers Aiderycare smart living solution platform for elderly and patients</li>
</ol>
This event is one of many events happening in True Digital Park—Southeast Asian’s largest startup ecosystem.
For more pictures, please go to <a href="https://www.facebook.com/TrueDigitalPark/posts/3548394701869163" target="_blank" rel="noopener">True Digital Park Facebook Page</a>

thailand-pavilion-alumni-experience-sharing-and-demo-day

THAILAND PAVILION ALUMNI EXPERIENCE SHARING AND DEMO DAY HELD AT TDPK

15 January 2020 Bangkok – Research &amp; Innovation for Sustainability Center (RISC) by Magnolia Quality Development Corporation Limited (MQDC) has launched the “Fahsai” urban air purification tower in its first installation in Thailand.
Mr. Visit Malaisirirat, CEO of Magnolia Quality Development Corporation Limited (MQDC), said: "MQDC has placed importance on research and development in various fields to improve the quality of life through RISC. The knowledge gained by MQDC is not used only within the organization. MQDC has the ultimate goal of disseminating knowledge and creating a broad public interest. Under MQDC’s strategy of 'For All Well-Being' we aim to create sustainable well-being for all living beings on earth. With the launch of the ‘Fahsai’ urban hybrid air purification tower, MQDC is the first property developer in Thailand to address air quality. ‘Fahsai’ will benefit all citizens, not only MQDC residents but also the people of the city. It is an implementation of 'For All Well-Being' to promote the health and well-being of all beings on earth and create happiness in a concrete way."
<img style="display: block; margin-left: auto; margin-right: auto;" src="../media/5e1eec7b68ee3_ฟ้าใส_200115_0002.jpg" width="800" height="533" />
Assoc. Prof. Dr. Singh Intrachooto, Chief Advisor to MQDC’s Research &amp; Innovation for Sustainability Center (RISC) and Head of the Creative Center for Eco-Design at Kasetsart University, said that RISC by MQDC conducted research under the principle of ‘sustainnovation’ to achieve environmental health and sustainability while helping to improve quality of life, including for social and economic development. RISC therefore emphasizes the concept of 'For All Well-Being' to promote the health and well-being of the world and the public at large. RISC has launched a prototype urban air purification tower under the name ‘Fahsai’. The tower removes pollution and PM 2.5 dust with hybrid auto air purification technology. Developing together with NESTECH, ‘Fahsai’ can purify up to 120,000 cubic meters of air/hour. The tower will be installed throughout 2020 in the Family Park behind 7-Eleven at True Digital Park, an innovation hub and Southeast Asia’s largest startup ecosystem. The tower will purify air and also collect data on the weather and the machine’s operation to help develop next-generation urban air purifiers with enhanced efficiency.
The automatic hybrid air purifier tower gathers PM2.5 particles with a hybrid energy system that combines a 3,850 Watt solar panel and a battery. This combination helps reduce dependence on an external electrical supply. High-speed fans suck air into the system, which separates large and small dust particles with air velocity and water spraying in a continuous 3-layer Jet Venturi Scrubber system. The systems use 70 liters of water to purify up to 120,000 cubic meters of air/hour. The intelligent system controls the motor of the fans in accordance with the concentration of dust until PM2.5 levels return to normal. RISC plans to develop an air purifier at the city level, constantly reducing pollution in the city with a budget of over THB10 million.
<img style="display: block; margin-left: auto; margin-right: auto;" src="../media/5e1eec7b8c762_ฟ้าใส_200115_0006.jpg" width="800" height="533" />
"The PM 2.5 toxic dust problem that people in Bangkok and neighboring provinces are currently facing daily will worsen,” said Assoc. Prof. Dr. Singh Intrachooto. “RISC is a research hub that helps improve quality of life, focusing on solving air quality problems and finding solutions, especially for exterior issues such as PM 2.5 dust, which directly affects people's health. We are therefore developing ways to improve air quality with a prototype urban air purification tower under the name ‘Fahsai’. The hybrid air purifier tower uses technology developed by RISC and NESTECH. We believe that it is a highly efficient technology to purify the air, turning a dark sky with a poisonous mist to a sky as bright as 'Fahsai' [Clear Sky].”
Mr. Kraipichit Muangwong, chief executive of NESTECH Thailand Company Limited and President of Energy Research Integrate Group (ERIG), said: “NESTECH Thailand is delighted to develop with RISC and MQDC a prototype of Fahsai, an urban air purifier tower. NESTECH hopes that ‘Fahsai’ will be a prototype of urban air-purifying towers to substantially help resolve air quality problems, especially PM2.5.”
RISC by MQDC celebrated last year’s festive season by giving the people of Bangkok the New Year’s gift of a ‘Urban Air Purifier’. The device uses electrostatic technology. It gives dust a charge then captures it with a plate carrying the opposite charge. The air purifier is now cleaning air at its location between Siam Discovery and Siam Center. RISC plans this year to install more urban air purifiers in areas with low air quality and high PM2.5 dust levels to protect people’s health. RISC also plans ongoing research into dust in areas with high traffic. The information will help develop the next generation of air purifiers with enhanced efficiency.
&nbsp;
###
 
Magnolia Quality Development Corporation Limited (MQDC) is a property developer that develops, invests in, and manages residential, community district, and ‘theme’ projects, including retail and hotels, with a corporate commitment ‘For All Well-Being’.
&nbsp;
Research &amp; Innovation for Sustainability Center (RISC) is a research hub for sustainable buildings with a focus on well-being that provides public information resources and operates an international network of researchers.
&nbsp;

urban-air-purifier-tower-in-tdpk

URBAN AIR PURIFIER TOWER INSTALLED IN TRUE DIGITAL PARK

Bangkok, 23 December 2019 - Embassy of Japan in Thailand led by H.E. Mr. Shiro Sadoshima, Ambassador of Japan in Thailand and Mr.Thanasorn Jaidee, President of True Digital Park have signed the Memorandum of Cooperation to promote the establishment of a successful startup ecosystem by leveraging technology, expertise, reach, funding, or other resources to foster innovation and drive economy growth of both countries.
The cooperation includes the assistances provided to startups from each country for getting into the local startup ecosystem or the local market, helping startups to market and promote any events, programs, initiatives and information relevant to local startup communities and being preferred choice of venue to organize activities such as meeting, training, workshop and networking event in each country.
This collaboration reinforces True Digital Park’s mission to create Thailand’s first complete startup ecosystem and the largest digital innovation hub in Southeast Asia.

japan-embassy-join-hands-with-tdpk

EMBASSY OF JAPAN IN THAILAND JOINS HANDS WITH TDPK TO STRENGTHEN STARTUP ECOSYSTEM

Bangkok, 23 December 2019 - After the official launch in September, True Digital Park continues its mission to be the innovation hub and the largest startup ecosystem in Southeast Asia. Under its ‘Open Innovation’ concept, the digital campus is working with many prominent partners to fulfill its promise of building the ecosystem where various startups, educational institutions, research center and world-class advanced technology innovators can share ideas, gain access to funding, and expand their network endlessly.
<img style="display: block; margin-left: auto; margin-right: auto;" src="../../../media/5e0048ca3b546_batch_GlassstairsfromPR.jpg" alt="" width="500" />
Having various tech giants and startups under one roof complete with advanced infrastructure is definitely important for True Digital Park to achieve its goal of becoming a unicorn incubator for the ASEAN region. But more importantly, it is how this ecosystem helps enabling the partners to meet, connect and exchange ideas and experiences that will truly accelerate their business operations in the digital era and expand their opportunities.
&nbsp;
True Digital Park has incorporated the concept of ‘Open Innovation’ in its architectural design from the beginning. The interior design focuses on open spaces connecting its Co-Working Space, Office Space, Innovation Space, and Event &amp; Business Services Space together to encourage the exchange of ideas and fuel innovations.
<img style="display: block; margin-left: auto; margin-right: auto;" src="../../../media/5e0048ca86786_batch_Glassstairsfromtopdown.jpg" alt="" width="800" />
Central to all this is the iconic “Glass Stairs” that seamlessly connect 3 buildings together – the Griffin, Phoenix and Pegasus buildings – and span vertically on 3 floors (from 5th to 7th) of the Pegasus Building. This architectural landmark is meant to be the center of ‘Connectivity’ within True Digital Park and create the ‘Connected Community’ where people under one roof– whether they are from large technology companies, startups, entrepreneurs, investors, or government agencies – can come together and be the part of this startup ecosystem.
&nbsp;
These glass stairs were designed by Seele, one of the leaders in the world of façade and roof construction, famous for its signature use of glass in creating beautiful architectures, resulting in a practical and creative working space. Seele applied technology to develop this architectural gem throughout every process, from design production, materials construction and structure installation. Seele already had numerous world-class works in its portfolio across many countries, including the Apple Stores in New York, Shanghai and other cities, the e-commerce company Etsy’s headquarter in New York, One Microsoft campus in Dublin which is home to employees from more than 72 countries around the world, Accenture Innovation Hub in Tokyo that fuses traditional Japanese culture with technology and innovation, and the Albert Einstein Learning and Research Center in São Paulo, among others.
&nbsp;
The “Glass Stairs” – True Digital Park’s icon of ‘Connectivity’– are made from high-quality laminated tempered glass that combines stylish design and advanced innovation. The spiral stairs mount around the large glass cylinder structure in the center. Every component from the glass panels that make up the cylinder, railings and each glass step are precisely designed using advanced technology and custom-made down to the smallest detail. Transportation, construction and installation of all elements are handled carefully to ensure that the stairs can support the weight well while delivering the beautiful contemporary appearance. The “Glass Stairs” truly symbolize the triumph of technology in the digital era and aim to connect innovative people together to ignite learning and business expansion.
<img style="display: block; margin-left: auto; margin-right: auto;" src="../../../media/5e0048ca3cb5e_batch_GlassstairsfromPRlandscape.jpg" alt="" width="800" />
With attention to every architectural detail, it is not a surprise that True Digital Park has become one of the most promising innovation centers for the technology and startup communities. It is only a matter of time before we witness the birth of a Thai unicorn company under this interconnected ecosystem.

tdpk-glass-stairs

“TDPK GLASS STAIRS” — A NEW LANDMARK WITH WORLD-CLASS DESIGN IN THE HEART OF 'TRUE DIGITAL PARK'

BANGKOK, 17 December 2019 - The Embassy of Japan, True Digital Park, and CP Group proudly organized "Rock Thailand Batch 2".
"Rock Thailand" is the Embassy's flagship event under "Open Innovation Columbus" policy where it aims to innovate the world from Thailand through new collaborations between Japanese innovative startups and Thai companies.
Following the success of the first event, "Rock Thailand Batch 2," which was held yesterday at #TrueDigitalPark, saw another 10 Japanese innovative startups presenting their products/services to Thai corporate CEOs. The startups are hopeful of future collaborations with Thai corporates after meeting with top Thai executives. We are also hopeful that the event will result in solutions that can contribute to tackling Thailand's challenges and upgrade Thailand's economy for today's rapidly changing world.
<iframe src="https://www.youtube.com/embed/JKn34r4Nq64" width="560" height="315" frameborder="0" allowfullscreen="allowfullscreen"></iframe>
#startup #Japanesestartups #Japaneseunicorn #RockThailand #DigitalEconomy #TDPK

rock-thailand-open-for-japanese-startups

ROCK THAILAND OPENS CHANCES FOR TOP JAPANESE STARTUPS TO CONNECT WITH THAI CORPORATE

BANGKOK, 14 November 2019 - In congruence with its efforts geared towards making meaningful impact in the tech ecosystem of Asia-Pacific, APTG or Asia-Pacific Telecom Group from Taiwan has signed a memorandum of understanding (MoU) with True Digital Park to expand its international network in an effort to accelerate the development of its participants.
At the ceremony held on 7 November at True Digital Park, the Taiwanese group has also announced the APTG 5G Accelerator Programme 2019. 
The programme focuses on strengthening startup acceleration and partnership with enterprises, assisting startups for international partnership and market expansion, accelerating startup development of their business models, product and solution roadmaps, sales and marketing developments, legal and compliance, finance and taxation, and 5G technology.
 <img style="display: block; margin-left: auto; margin-right: auto;" src="../media/5dcd0bfc13425_APTGGroup.jpg" alt="" width="700" />
Selected startups (10-12 startups) will need to incorporate entities in Taiwan within two months of the 5G accelerator programme starting. Startups are also required to have corporate registered ID, meet the criteria as a Taiwan-based SME, and not be incubated or accelerated in more than two programmes in Taiwan.
With TDPK's partnership with APTG, startups from TDPK who want to join APTG 5G Accelerator will be automatically shortlisted for the first round of selection for the programme.
For more information on the APTG 5G Accelerator Programme 2019, please go to <a href="https://forms.gle/1jy4H6kRRz4jEXnR7" target="_blank" rel="noopener">https://forms.gle/1jy4H6kRRz4jEXnR7</a>.

tdpk-and-atpg-recruit-startups-for-taiwanese-accerelator-program-2019

TDPK INKS PARTNERSHIP WITH APTG RECRUITING STARTUPS TO TAIWANESE ACCELERATOR PROGRAM

BANGKOK, 29 October 2019 - Mr. Supachai Chearavanont, CEO of Charoen Pokphand (CP) Group Co., Ltd. and Chairman of the Board of True Corporation Plc. presided over the first gathering of TDPK Groundbreakers Club, an initiative with an aim to create potential opportunities for leading startups to connect to c-suites from large corporates, fellow founders, and over 100 partners of TDPK.
<img style="display: block; margin-left: auto; margin-right: auto;" src="../../../media/5db90c1d0c2c0.jpg" alt="" width="800" />
As Thailand’s first and Southeast Asia’s largest startup ecosystem, True Digital Park (TDPK) has incessantly been setting up various programs and events to support the sustainable growth of startups. Groundbreakers Club invites leading founders and co-founders of startups in Thailand to join as club members. The founders/co-founders selected are from successful startup companies that have already secured at least Series A funding.
Mr. Supachai said “everyone that has the spirit and is making changes, doing something for a better industry, society, or market; I respect them a lot. They are true leaders who take risks to do new things.”
He hopes that this club “can be the place to share knowledge and pain points in business, so that we could address each other’s pain points for further improvements”.
With this exclusive gathering, founders/co-founders can explore business opportunities with large corporates by connecting to high-ranking executives who are decision makers with great influence. Other C-suites from major corporates are on the lineup for the next meetups.
<img style="display: block; margin-left: auto; margin-right: auto;" src="../../../media/5db90c1fe37bc.jpg" alt="" width="800" />
Additionally, club members are also offered these benefits free of charge:
<ul>
<li>Full-access to <a href="../../../join_membership">True Digital Park membership</a> (including access to co-working space, free parking, and executive lounge)</li>
<li>Free attendance to all <a href="../../../events">True Digital Park events</a> </li>
<li>Full-access to connect with other Groundbreakers Club members</li>
<li>Opportunity to connect and explore business opportunities with Thailand’s top corporate management</li>
<li>Promotion of business products or services via True Digital Park communication channels (upon request)</li>
</ul>
Groundbreakers Club is part of TDPK’s effort to give Thai leading startups rare chances to meet with the nation’s influential business figures. True Digital Park believe that the program is part of an important mechanism to drive the growth of startups and Thai tech entrepreneurs to become startup unicorns.
Check out more pictures from <a href="https://www.facebook.com/TrueDigitalPark/posts/3232061480169155" target="_blank" rel="noopener">True Digital Park Facebook Page</a>

News and Promotions

เฟ้นหาเพื่อนร่วมงานสายเทคกว่า 1,000 คน ในงาน Tech ConNEXT Job Fair 2022