ในงาน มีบริษัทกว่า 3,200 แห่งเข้าร่วมนำเสนอเทคโนโลยีล้ำสมัย รวมถึง Abbott, Amazon, Bosch, BMW, Canon, Delta, Google, Hisense, John Deere, LG Electronics, Microsoft, Qualcomm, Panasonic, Samsung, Sony และ Stellantis
เทรนด์ฮิตบนพื้นที่แสดงงาน CES มีอะไรบ้าง?
ความมั่นคงของมนุษย์สำหรับทุกคน (Human Security for All - HS4A) – ด้วยความท้าทายระดับโลกที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน แคมเปญ HS4A จึงเป็นธีมหลักในงาน CES 2023 โดยเน้นถึงความสำคัญของความร่วมมือและนวัตกรรมในทุกอุตสาหกรรมและทุกประเทศ เพื่อพัฒนาความมั่นคงและปลอดภัยให้มนุษย์ทุกคนอย่างเท่าเทียมกัน
ยานยนต์และความคล่องตัว – ด้วยผู้จัดแสดงเทคโนโลยียานยนต์กว่า 300 ราย จึงถือได้ว่า CES 2023 เป็นหนึ่งในงานแสดงยานยนต์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก มีการแสดงปาฐกถาพิเศษจาก BMW, John Deere และ Stellantis และการเปิดตัวผลิตภัณฑ์จากบริษัทระดับโลกที่เน้นเทคโนโลยีขับเคลื่อนอัตโนมัติ รถยนต์ไฟฟ้า และอุปกรณ์เคลื่อนที่ส่วนบุคคล ทางบก ทางอากาศ และทางทะเล
ผู้แสดงสินค้า: Candela Marine Technology, GM, Italdesign Giugiaro, Magna, Mercedes-Benz, MobilEye, Waymo, RYSE และ Volvo Penta
การแพทย์ดิจิทัล (Digital health) – CES 2023 นำนวัตกรรมและแบรนด์ด้านการแพทย์ดิจิทัลมาสู่เวทีระดับโลกมากขึ้น ซึ่งแสดงให้เห็นว่าตลาดเติบโตอย่างรวดเร็วเพียงใด นวัตกรรมที่มาจัดในงานรวมถึงการบำบัดแบบดิจิทัล สุขภาพจิต เทคโนโลยีด้านสุขภาพของผู้หญิง และการแพทย์ทางไกล
ผู้แสดงสินค้า: Abbott, LOTTE Healthcare, MedWand Solutions และ Omron Healthcare
ความยั่งยืน – แบรนด์ระดับโลกอย่าง John Deere, LG, Samsung และ Siemens แสดงให้เห็นว่านวัตกรรมสามารถอนุรักษ์พลังงานและเพิ่มการผลิตไฟฟ้าได้อย่างไร สร้างระบบเกษตรกรรมที่ยั่งยืน ขับเคลื่อนเมืองอัจฉริยะ และสนับสนุนการเข้าถึงน้ำสะอาด
ผู้แสดงสินค้า: 3M, Bridger Aerospace, Caterpillar และ NexGen Power Systems, Panasonic และ Sony
Web3 และ Metaverse – นี่คือครั้งแรกที่ CES 2023 มีพื้นที่ Metaverse เฉพาะบนพื้นที่จัดแสดง โดยเน้นที่เทคโนโลยีทางประสาทสัมผัสที่ก้าวล้ำ ซึ่งสร้างโลกดิจิทัลแบบอินเทอร์แอกทีฟ (interactive) ที่สมจริง Web3 Studio ผลิตโดย CoinDesk เป็นจุดโฟกัสของพื้นที่ Web3, Metaverse และ Blockchain ในงาน CES
ผู้แสดงสินค้า: Magic Leap, Microsoft, OVR Technology และ SK
สตาร์ทอัพ – Eureka Park ในงาน CES นำเสนอสตาร์ทอัพ 1,000 ราย จากญี่ปุ่น เกาหลี ฝรั่งเศส อิตาลี ไต้หวัน ตุรกี ฮ่องกง เนเธอร์แลนด์ สหรัฐอเมริกา และยูเครน เทคโนโลยีรวมถึงโซลูชั่นกระดาษหมุนเวียนเพื่อลดการปล่อย CO2; เทคโนโลยี AI ใช้ในการลดขยะอาหาร เทคโนโลยีพลังงานแสงอาทิตย์ในการจับทั้งพลังงานไฟฟ้าและพลังงานความร้อน แอปความปลอดภัยส่วนบุคคลและอีกมากมาย
CES 2024 จะจัดขึ้นที่ลาสเวกัสทั้งแบบพบหน้าและแบบดิจิทัล ระหว่างวันที่ 9-12 มกราคม 2024
ข้อมูลเพิ่มเติมที่ CES.tech และติดตาม CES บนโซเชียล
ที่มา: CES
Tags