Mega Trend DeFi 2.0 คลื่นลูกใหม่ที่จะเขย่าวงการ DeFi

  • Technology
  • December 22, 2021
Mega Trend DeFi 2.0 คลื่นลูกใหม่ที่จะเขย่าวงการ DeFi

เรียกได้ว่าเป็น session ที่พิเศษมากๆ เพราะครั้งนี้เราได้แขกรับเชิญที่เรียกได้ว่าเป็นตัวท็อปของวงการ Blockchain เมืองไทยมารวมตัวกัน ใน TDPK TALK: Tech Highlight EP.3 เพื่อพูดคุยถึงโลกของ DeFi 2.0 ว่าหน้าตาของมันเป็นอย่างไร มีอะไรที่แตกต่างจาก DeFi 1.0 และจะมาช่วยแก้ไขปรับปรุงในเรื่องไหนบ้าง รวมไปถึงการพูดถึงในประเด็น Web 3.0 แห่งโลกอนาคตด้วย

โดยเราได้รับเกียรติจากคุณกานต์นิธิ ทองธนากุล (คิม) ประธานเจ้าหน้าที่ฝ่ายการลงทุน Merkle Capital และผู้ก่อตั้งเพจ Kim DeFi Daddy, คุณชานน จรัสสุทธิกุล (บีม) Co-founder & CEO Forward, คุณพลากร ยอดชมญาณ (ต้นฮ้อ) Co-Founder & CEO KULAP, คุณสรวิศ ศรีนวกุล (แมน) Co-founder & CEO Brand Protocol และ คุณปรมินทร์ อินโสม (หนึ่ง) Founder Firo พร้อมทั้งยังมี คุณศุภกฤษฎ์ บุญสาตร์ (บิท) President at Thai Digital Asset Association, CEO Thai Bitcast Co., Ltd และ SVP Business Intelligent & Innovation GECS มาร่วมเป็นผู้ดำเนินรายการด้วย

DeFi 2.0 ไม่ใช่เรื่องใหม่แต่คือการต่อเติมและปรับปรุงจากฐานเดิม

แมน: DeFi 1.0 เริ่มต้นมานานแล้ว ตั้งแต่ปี 2016-2017 โดยคนได้หันมาสร้าง Financial Tools ที่เบสิกมากๆ เช่น Money Market ให้คนกู้ยืมเงิน, Uniswap ทำ exchange หรือการซื้อขาย, Synthetix ทำสินทรัพย์หรือหุ้น, MakerDao ทำ Stable coin ซึ่งสิ่งเหล่านี้คือสิ่งที่ง่ายที่สุด และได้เริ่มทำมาสักพักแล้ว พอเวลาผ่านมา คนก็เริ่มหาวิธีการปรับปรุงและเป็นการ re-brand ให้คนตื่นเต้นไปในตัวด้วย ดังนั้น 1.0 กับ 2.0 จึงแตกต่างที่การต่อเติม ปรับปรุงจากสิ่งเดิม เช่น เรื่อง Capital efficiency หรือการใช้ทุนเพื่อใช้งานได้ดีขึ้น หรือเรื่อง Tokenomics ทำยังไงให้เหรียญไม่มี Supply Inflation ที่สูงนั่นเอง

เมื่อยุค 1.0 แพลตฟอร์มอย่าง Compound ได้เริ่มทำ Liquidity Mining มากว่าสองปีแล้ว ซึ่งที่จริงก็ไม่มีอะไรซับซ้อน คือจะให้เหรียญไปฟรีๆ ด้วยการแค่เอาเงินทุนมาใส่แล้วก็ทำให้เกิด liquidity ซึ่งปัญหาก็คือพอคนเห็นอย่างนั้น ก็เท่ากับว่าคนต้องจ่ายเงินเยอะมากๆ ตาม protocol เพื่อให้เกิด liquidity และก็ต้องจ่ายไปเรื่อยๆ ซึ่งมันไม่เป็นผลดีในระยะยาว ดังนั้นเราจะเห็นว่าอย่าง OlympusDao เองก็ออกมาบอกว่า ถ้างั้นเราลองเปลี่ยนจาก แทนที่คนจะต้องจ่ายค่า LP ก็แค่เอา LP มาเลยแล้วทาง protocol ก็ควบคุม value ในส่วนนั้น ทำให้ค่าใช้จ่ายลดน้อยลง ดังนั้น DeFi 2.0 แท้จริงแล้วก็คือการทำ Capital efficiency ทำให้ cost น้อยลง ทำให้ speed เร็วขึ้น หรือเป็นการ Balance sheet monetization นั่นเอง

ต้นฮ้อ: มันคือเรื่องของ Generation โดยมียุค 1.0 มี leader อย่างเช่น Uniswap, Compound ขณะที่ใน Gen 2.0 ก็คือเข้ามาช่วยแก้ปัญหาตัวเดิมๆ ด้วยกลไกบางอย่าง และซับซ้อนมากขึ้นทำอะไรได้มากขึ้น ถ้าให้เปรียบเทียบให้เห็นภาพก็คือ 1.0 จะเป็นยุคของ Geek ที่เข้ามาทำนวัตกรรม ขณะที่ 2.0 จะเหมือนเป็นกลิ่นของ Wallstreet มากขึ้น

บีม: ยุคก่อนหน้านี้อาจได้เห็น token ของบางแพลตฟอร์มที่ปล่อย float ค่อนข้างเยอะ ซึ่งเราจะเห็น DeFi หลายๆ เจ้าที่ให้เปอร์เซ็นต์ APY (Annual Percentage Yield) ได้เป็นหลักหมื่นหลักแสนต่อปี ซึ่งมันไม่ใช่ของจริง ดังนั้นพอถัดมาในยุค 2.0 มันก็จะเป็นการคัดกรองเหรียญหรือแพลตฟอร์มพวกนั้นออก โดยจะเหลือแต่ DeFi ที่ให้กำไรจริงๆ เพื่อให้บริหารจัดการ Capital efficiency ได้จริง

นอกจากนี้ยังมีประเด็นอื่นๆ ที่ DeFi 2.0 เข้ามาแก้ อย่าง เรื่องของ Security เช่น เทรนด์การทำ DeFi ที่เป็นแบบ Cross-chain มากขึ้น ซึ่งมันจะมีเรื่องของ Security เข้ามาเกี่ยวข้อง พร้อมกับเรื่องของการลดค่า Gas fee

การให้ APY สูงมากๆ ถือเป็นปัญหาไหม?

บีม: มองว่าเป็นเหมือนระเบิดเวลา เพราะสุดท้ายแล้วพอมีการปล่อย float ในตลาดมากไป ก็จะเกิดการ dump และทำให้ไม่เกิดกำไรที่แท้จริง ดังนั้นในฐานะแพลตฟอร์มจึงจำเป็นที่จะต้องคิด algorithm ที่เสริมให้เกิด Ecosystem ในตลาด DeFi ที่ยั่งยืนมากขึ้น

มุมมองสำหรับ Oracle Data ใน DeFi 2.0

แมน: Infrastructure ต่างๆ ก็ยังต้องใช้ Oracle อยู่ดี เช่น ใน MakerDao ที่ยังต้องพึ่งพิง Oracle ให้ระบบยัง secure อยู่ หรือ DeFi 2.0 บางตัวก็ยังใช้ DeFi 1.0 อยู่ข้างล่างแล้วเสริมกลไกบางอย่างด้านบนเป็น 2.0 และเมื่อมันยังอยู่บน Blockchain ต่อไป มันก็จะมีข้อจำกัดด้วยความที่เป็นระบบปิด ทำให้ไม่ว่าจะรีแบรนด์อย่างไร ทุกอย่างก็ยังต้องการ External output หรือ Data จากข้างนอกเข้ามาอยู่ดี จึงมองว่า Oracle ก็จะยังเป็นเหมือน Infrastructure ที่ยังจำเป็นอยู่ เพียงแต่อาจจะไม่ได้เซ็กซี่เท่าเดิม ขณะที่ DeFi 2.0 ฟังดูสนุกกว่า แต่ก็อยากให้ทุกคนเข้าใจว่า feature เหล่านี้ไม่ได้มาอย่างฟรีๆ เนื่องจากมันจะมีเรื่อง security เข้ามาเกี่ยวข้อง มีความเสี่ยงมากกว่า DeFi 1.0 อีก จึงอยากให้ทุกคนที่เข้ามาใหม่เข้าใจตรงส่วนนี้ด้วย

กระแสของ DeFi 2.0 ในมุมมองนักลงทุน

คิม: ถ้าดูตามกระแสปกติก็ไม่ได้โดดเด่นมากมายนัก เมื่อเทียบกับ DeFi รุ่นเก่าแล้ว มันยังมี Total Value Locked หรือ ยอดเงินฝากไม่มากขนาดนั้น อย่างไรก็ตามด้วยรูปแบบที่เปลี่ยนไป ก็ทำให้เกิดนวัตกรรมทางการเงินรูปแบบใหม่ขึ้นมาซึ่งให้ผลตอบแทนที่สูงขึ้น และเป็นการลดให้ต้นทุนต่ำลง จึงเป็นผลดีกับนักลงทุน แต่สิ่งนี้ก็แลกมาด้วยความซับซ้อนทางด้าน Smart Contract ที่ยากที่จะทำความเข้าใจ ก็อาจจะทำให้คนทั่วไปเข้าถึงยากกว่าเดิม สำหรับผม DeFi 2.0 จะยังต้องใช้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์อีกสักระยะหนึ่ง เหมือนกับที่ DeFi 1.0 หลายตัวได้พิสูจน์มาแล้ว เช่น Uniswap หรือ Compound ที่อยู่ยงคงกระพัน คนไว้ใจและผ่านการตรวจสอบมาแล้ว ซึ่งในอนาคต สิ่งที่จะเพิ่มความแมสหรือการเข้าถึง DeFi อาจจะไม่ใช่เรื่องของผลตอบแทนเท่านั้น แต่อาจเป็นเรื่องของความปลอดภัย หรือการประกันภัยต่างๆ ที่จะทำให้เข้าถึงผู้คนและสถาบันการเงินมากยิ่งขึ้นได้

หน้าตาของ Product/Service ของ DeFi 2.0

บีม: สถาบันการเงินหรือแบงก์เองก็เล็งว่าจะเข้ามาในตลาด DeFi นี้อยู่แล้ว แต่เขาก็ต้องมองหาแพลตฟอร์มที่เน้นด้าน Security มากกว่า APY เพราะมันจะทำให้แพลตฟอร์มมีเสถียรภาพมากยิ่งขึ้น รวมไปถึงเรื่องของการประกันภัย ในอนาคตอาจจะมีในรูปแบบของ Smart stacked insurance

อีกสิ่งที่จะทำให้คนมาใช้ DeFi 2.0 คือเรื่องของนวัตกรรม โดยเฉพาะเรื่องของ UX/UI ที่เป็นส่วนหนึ่งของ DeFi รูปแบบใหม่ โดยส่วนใหญ่แล้วลักษณะของนักลงทุนเวลาเริ่มต้นใช้งาน ก็มักเริ่มจากการลงทุนผ่านเว็บไซต์แพลตฟอร์ม แต่ก็เป็นไปได้ว่าต่อไปการใช้งาน DeFi บน mobile จะมาแรง เพราะว่าหากมองไปที่ Customer Data ปัจจุบัน จะเห็นว่ามีการใช้บน mobile ค่อนข้างสูง สามารถไปดูสถิติของ exchange ต่างๆ ในไทย เช่น Bitkub หรือ Zipmex จะเห็นว่าคนนิยมใช้บน mobile มากกว่าเว็บไซต์ หรือแม้กระทั่ง Binance เองด้วย ดังนั้นหากแพลตฟอร์ม DeFi มาใส่ใน mobile ก็จะทำให้ขยายตลาดได้กว้างขึ้นและมีเงินไหลเข้ามาได้มากขึ้น

แนวคิดของ Web 3.0 เทคโนโลยีโลกอนาคต

ต้นฮ้อ: มันเป็นการต่อ vision เดิมของอินเตอร์เน็ต โดยอินเตอร์เน็ตยุคแรก (Web 1.0) เป็นยุคที่ให้เราสามารถอ่านเพียงอย่างเดียว เช่น Owner แชร์แล้ว User ก็เข้ามาอ่าน พอเข้าสู่ Web 2.0 ก็เข้าสู่ยุคของแพลตฟอร์ม Social media ซึ่งที่จริง User เพียงต้องการสื่อสารออกไปหาเพื่อน แต่แพลตฟอร์มที่เป็นตัวกลางกลับเก็บข้อมูลทุกอย่างไว้ และกลายเป็น value ไปอยู่ตรงนั้น ก็ทำให้บริษัทกลายเป็นบริษัทใหญ่เลยเพราะเก็บ data ของเราไว้ ต่อมาจึงเกิดแนวคิดของ Web 3.0 ที่ต้องการเปลี่ยนการถือ value จากตัวกลางแบ่งมาสู่ผู้คนบ้าง ซึ่งก็จะเห็นว่าใน DeFi user ที่ไปสร้างห้อง ไปฟาร์มคู่เหรียญก็จะได้ผลตอบแทนที่เหมาะสมในการเข้าไปช่วยเหลือ protocol นั้นๆ

คิม: ผมชอบไอเดียของ Web 3.0 แม้วันนี้อย่าง DeFi ยังไม่แน่ใจว่าเป็น Web 3.0 ได้หรือเปล่า แต่อย่างที่คุณต้นฮ้อบอกว่ามันจะมีส่วนกระจาย value ผมเชื่อว่าในอนาคตมันจะเป็นเทรนด์ที่มาอยู่แล้ว เพราะเทคโนโลยี Blockchain มันสามารถนำไปปรับใช้ได้อีกเยอะมาก อย่างที่เห็นตอนนี้ว่ามันไปมากกว่าเรื่องของคริปโตแล้ว แต่ยังสามารถใช้กับ NFT และ Game อีก อีกทั้ง Web 3.0 จะไม่ได้มีแค่เทคโนโลยี Blockchain อย่างเดียวแล้วด้วย แต่จะมีทั้ง Machine Learning, AI และ เทคโนโลยีอื่นๆ เข้ามาเสริมอีกมากมาย 

หนึ่ง: ส่วนตัวมองว่านิยามของ Web 3.0 ของแต่ละคนไม่เหมือนกัน โดยเฉพาะสำหรับคนที่อยู่ในแวดวงคริปโตอยู่แล้วกับคนที่อาจจะยังไม่เคยแตะเรื่องนี้เลย ก็จะมอง Web 3.0 ต่างกันไป ซึ่งสุดท้ายแล้วก็ไม่รู้ว่าใครจะถูกต้องที่สุด จึงต้องใช้เวลาอีกสักพักหนึ่ง แต่ก็อยากให้มาใช้กันอย่างแพร่หลายจนทำให้มันกลายเป็นเรื่องปกติ

แมน: ในเวลานี้ มีสิ่งใหม่ๆ ล่อตาล่อใจ ล่อกระเป๋าเงินอยู่ตลอดเวลา แม้เราได้เห็นทั้งตัวอย่างของคนที่ประสบความสำเร็จ รวยเร็ว แต่อยากให้ทุกคนรู้ว่ามันไม่ใช่เรื่องง่าย ทุกอย่างมีความเสี่ยง จึงอยากให้ทุกคนที่เข้ามา ลองศึกษาด้วยตัวเองจริงๆ และในขณะเดียวกันก็อยากสนับสนุนให้มาทำความเข้าใจเรื่อง Web 3.0  ที่เรียกได้ว่ามีโอกาสเข้ามา disrupt แทบจะทุกอุตสาหกรรม ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของศิลปะ อสังหาริมทรัพย์ หรืออุตสาหกรรมต่างๆ  ที่แม้ตอนนี้จะเรียกได้ว่ายังใหม่มากและคนยังเข้าไม่ถึงขนาดนั้น แต่ก็ถือเป็นโอกาสในการสร้างสิ่งใหม่ๆ นวัตกรรมใหม่ๆ ได้ ไม่ว่าคุณจะสนใจเรื่องการเงิน เรื่อง DeFi, Gaming, Social Media หรืออะไรก็ตาม ในอีก 5-10 ปีข้างหน้า ก็ยังมองว่าเป็นช่วงที่ยังช่วยกันสร้างอะไรกันขึ้นมาอีกได้ค่อนข้างเยอะเลยทีเดียว

นี่เป็นเพียงสรุปส่วนหนึ่งจาก session นี้ สำหรับผู้ที่สนใจสามารถไปดูย้อนหลังได้ที่ https://www.facebook.com/TrueDigitalPark/videos/420750549598419

Tags

  • DeFi
  • DeFi2.0

You May Like

Feel free to contact us or visit

us to check out our Spaces