อัปเดต SEO และ Facebook algorithms ที่คนทำการตลาดออนไลน์ต้องรู้

ถึงแม้ว่าหลายๆ ประเทศ รวมถึงไทยจะสามารถรับมือและควบคุมกับสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิด-19 ได้เป็นอย่างดี แต่ก็ต้องยอมรับว่าการดำเนินธุรกิจในยุคเศรษฐกิจถดถอยแบบนี้ไม่ง่ายเลย แต่สิ่งหนึ่งที่เห็นได้ชัดที่สุดเกี่ยวกับพฤติกรรมของผู้บริโภคในยุคโควิด-19 คือผู้บริโภคหันไปซื้อสินค้าผ่านช่องทางออนไลน์กันมากขึ้น ซึ่งไม่เพียงแต่จะเปลี่ยนช่องทางการจับจ่ายเท่านั้น แต่ยังรวมไปถึงการเปลี่ยนพฤติกรรมการเลือกซื้อสินค้าและช่วงเวลาการซื้อด้วย ซึ่งแสดงให้เห็นว่าการดำเนินธุรกิจจะสามารถข้ามผ่านวิกฤตินี้ไปได้ ต้องมีการปรับตัวและเปลี่ยนจากช่องทางการขายจากออฟไลน์ไปสู่ช่องทางออนไลน์ให้มากขึ้น นอกจากนี้ยังควรทำการตลาดผ่านช่องทางออนไลน์ อย่างการทำ SEO เพื่อเพิ่มโอกาสให้กับธุรกิจ ซึ่งในโพสต์นี้เราได้รวบรวมเหล่าอัลกอริทึม (algorithms) ของ Facebook ล่าสุด และการทำ SEO ที่จะสามารถช่วยให้คุณประสบความสำเร็จในการทำธุรกิจออนไลน์ และก้าวข้ามผ่านวิกฤตนี้ไปได้

คุณภาพของคอนเทนต์

หนึ่งในวิธีการเพิ่มประสิทธิภาพเว็บไซต์ให้สอดคล้องกับอัลกอริทึมของ Google คือการปรับปรุงคุณภาพของคอนเทนต์ ซึ่งจากข้อมูลล่าสุดของ Google ได้ระบุว่าควรให้ความสำคัญในเรื่องคุณภาพของคอนเทนต์ให้มากขึ้น โดยเน้นกับ 3 ปัจจัยที่เรียกว่า E-A-T ซึ่งย่อมาจาก ความเชี่ยวชาญ (Expertise) การเสนอข้อมูลจากผู้ที่ได้รับความนิยมและมีชื่อเสียง (Authoritativeness)  และความน่าเชื่อถือ (Trustworthiness) โดยเฉพาะหากธุรกิจของคุณอยู่ในอุตสาหกรรมความงาม หรือสุขภาพ ต้องสร้างความน่าเชื่อถือให้สูงขึ้น ไม่ว่าจะเป็นการอ้างอิงแหล่งที่มาที่มีความน่าเชื่อถือ รวมถึงการใช้แหล่งอ้างอิงจากบุคคลที่มีความเชี่ยวชาญในด้านนั้นๆ โดยเฉพาะ เช่น หากคุณต้องการเขียนบทความทางการแพทย์ ก็ควรจะมีการอ้างอิงถึงข้อมูลจากแพทย์ผู้เชี่ยวชาญ หรือเขียนโดยแพทย์จริงๆ เพื่อเป็นการยืนยันว่าสิ่งที่คุณเขียนนั้นมีที่มาที่ไป และถูกต้อง รวมถึง Facebook ที่ในปัจจุบัน Facebook ก็มีโปรแกรมที่สามารถตรวจจับคอนเทนต์สแปม และคอนเทนต์คลิกเบทได้เช่นกัน ดังนั้นการสร้างคอนเทนต์ที่มีคุณภาพจึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างมาก

ปรับแต่งเว็บไซต์ ให้เหมาะกับการแสดงผลบนจอโทรศัพท์

เนื่องจากในปัจจุบันผู้บริโภคหันมาใช้โทรศัพท์สมาร์ทโฟนแทนการหาข้อมูลผ่านคอมพิวเตอร์กันมากขึ้น ซึ่งนั่นหมายความว่า เว็บไซต์ของคุณก็ควรถูกปรับให้เหมาะสมกับการแสดงผลบนหน้าจอโทรศัพท์ด้วยเช่นกัน โดยคุณสามารถทำได้ด้วยการใช้คำที่เหมาะสมในการทำ SEO เพื่อการค้นหา (เช่นการใส่ข้อความอย่าง “ใกล้ฉัน” หรือ “เปิดแล้ว”) และการสร้างคอนเทนต์ที่เหมาะกับการแสดงผลในจอโทรศัพท์ เพื่อมอบประสบการณ์ที่ดีที่สุดให้กับผู้ใช้งาน ซึ่งหากผู้ใช้งานมีประสบการณ์ที่ดีต่อการใช้งานเว็บไซต์ของคุณ โอกาสที่พวกเขาจะกลับมายังเว็บไซต์ก็มีสูงขึ้น รวมถึงยังจะช่วยให้เว็บไซต์ของคุณอยู่ในอันดับที่สูงขึ้นใน Google เช่นกัน

ความสั้นและยาวของคีย์เวิร์ด

การที่จะทำให้เว็บไซต์ของคุณไปอยู่ในหน้าผลลัพธ์การค้นหาของ Google สามารถทำได้หลายวิธี ซึ่งหนึ่งในวิธีเหล่านั้น ก็คือการเลือกคีย์เวิร์ดให้ตรงกับกลุ่มเป้าหมายของคุณ โดยคีย์เวิร์ดสามารถเป็นได้ทั้งคำสั้นๆ หรือคำหลายคำมารวมกันเป็นประโยค หรือจะเป็นคีย์เวิร์ดที่เป็นคำถามที่พบบ่อยก็ได้เช่นกัน ซึ่งโดยปกติแล้ว คำที่มีการค้นหาน้อยกว่าจะเป็นคำที่มีความเฉพาะเจาะจง และเป็นคีย์เวิร์ดที่ยาว แต่ก็ไม่ได้ถูกต้องเสมอไป เพราะคีย์เวิร์ดยาวๆ ก็สามารถแสดงผลลัพธ์ที่ดีได้เช่นกัน เพราะยังมีกลุ่มผู้ใช้งานที่ตั้งใจที่จะซื้อสินค้าหรือบริการเหล่านั้นจริงๆ มักจะทำการค้นหาด้วยคำที่ยาว เพราะต้องการที่จะเฉพาะเจาะจง ดังนั้นคีย์เวิร์ดที่มีความยาวก็สามารถสร้างยอดขายได้เช่นกัน