การเดินทางด้านการศึกษา
 
การเดินทางเชิงวิชาการของ ดร. วิจิตรา สะท้อนให้เห็นถึงแนวทางการเรียนรู้แบบสหสาขาวิชาชีพ ดร. วิจิตราสำเร็จการศึกษาระดับปริญญาตรี ด้านฟิสิกส์ จากมหาวิทยาลัยเกษตรศาสตร์ และหลังจากนั้นก็ได้จบการศึกษาวิทยาศาสตรมหาบัณฑิตสาขาวิทยาศาสตร์การสื่อสารจากมหาวิทยาลัยกลามอร์แกน สหราชอาณาจักร ซึ่งฝึกฝนทักษะในการเผยแพร่ความรู้ทางวิทยาศาสตร์อย่างมีประสิทธิภาพไปยังผู้ชมที่หลากหลาย หลังจากนั้นก็ได้สำเร็จการศึกษาระดับปริญญาเอก ด้านพิพิธภัณฑ์จากมหาวิทยาลัยเลสเตอร์ สหราชอาณาจักร ซึ่งงานวิจัยของดร. วิจิตรา เจาะลึกถึงพลวัตที่ซับซ้อนของการสื่อสารในพิพิธภัณฑ์และการออกแบบนิทรรศการ
 
ด้านการงาน
 
ปัจจุบัน ดร. วิจิตรา ดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการกองเทคโนโลยีและนวัตกรรม องค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาสตร์แห่งชาติ (NSM) ในประเทศไทย ดร. วิจิตรามีบทบาทสำคัญในการพัฒนาความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและส่งเสริมนวัตกรรมภายในองค์การพิพิธภัณฑ์ วิทยาศาสตร์และโครงการในอนาคตขององค์การพิพิธภัณฑ์วิทยาศาตร์แห่งชาติ ซึ่งรวมถึงงานวิจัยเชิงวิชาการด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรมที่ส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต ตามอัธยาศรัย ด้วยตำแหน่งผู้อำนวยการด้านเทคโนโลยีและนวัตกรรม ตอกย้ำความมุ่งมั่นของดร. วิจิตรา ในการพัฒนาการเผยแพร่ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ และการเรียนรู้วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยีและนวัตกรรม ของเเหล่งเรียนรู้ในระดับประเทศ
 
 <img class="alignnone size-full wp-image-4079" src="https://morphosis-staging.s3.ap-southeast-1.amazonaws.com/wpuploads/Books-compose.jpg" alt="" width="975" height="548" />
ผลงานต่างๆ
 
ความเชี่ยวชาญของ ดร. วิจิตรา ครอบคลุมในด้านต่างๆ รวมถึงการสื่อสารทางวิทยาศาสตร์ การออกแบบนิทรรศการพิพิธภัณฑ์ศึกษา การเปลี่ยนแปลงทางดิจิทัล และเทคโนโลยีส่งเสริมการเรียนรู้ตลอดชีวิต โดยดร. วิจิตราได้มีส่วนร่วมในการจัดทำหนังสือ “ณ หว้ากอ อดีต ปัจจุบัน อนาคต” รวมทั้งจัดนิทรรศการที่ระลึกเนื่องในวาระครบรอบ 150 ปี การเสด็จทอดพระเนตรสุริยุปราคาเต็มดวง ในพระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 4 ณ หว้ากอ เมืองประจวบคีรีขันธ์
นอกจากนั้น ดร. วิจิตรายังมีส่วนร่วมในงานเขียนและจัดทำหนังสือทั้งภาษาไทยและอังกฤษ ได้แก่ A-Z @ IT MUSEUM พิพิธภัณฑ์เทคโนโลยีสารสนเทศ ฉบับย่อ, หลักจรรยาบรรณสำหรับพิพิธภัณฑสถาน สภาการพิพิธภัณฑ์ระหว่างชาติ และ หนังสือ Communicating Science: A Global Perspective ในส่วนของประเทศไทย Thailand: From temples and palaces to modern science communication 
นิทรรศการอื่นๆ ที่ดร. วิจิตราได้ร่วมจัดตั้ง ได้แก่ นิทรรศการ Moon Landing,หนึ่งวันบนดาวอังคาร A Day on Mars , Disruptive Technology IT museum , นิทรรศการ Tomorrow Land นวัตกรรมวันรุ่ง งานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ 2565, นิทรรศการมายาประดิษฐ์ Fascination of Films Making งานมหกรรมวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีแห่งชาติ 2566
 
<img class="alignnone size-full wp-image-4078" src="https://morphosis-staging.s3.ap-southeast-1.amazonaws.com/wpuploads/Museum-in-Thailand.jpg" alt="Museum in Thailand" width="975" height="543" />
&nbsp;
การเข้าร่วมการประชุมและการสัมมนา
 
ดร. วิจิตราได้เป็นวิทยากร และผู้บรรยายการประชุมและสัมมนาระดับนานาชาติมากมาย โดยได้แบ่งปันความเชี่ยวชาญในหัวข้อต่างๆ ได้แก่
<ul>
<li>Mobile Family Learning in the Science Museum Presented at mLearn 2017, Larnaca, Cyprus,30-Oct-2017</li>
<li>Man-made error. Repeating scientific information inattentively at the AASSA-INSA-NISCAIR Regional Workshop on SHARE Communication with the theme Science Breakthroughs: Paid News, Fake News and Ethics; New Delhi, India, February 2019,</li>
<li>Mobile Family Learning in Science Museum, Thailand at the 2019 Beijing International Symposium on Science Communication, BAST, Beijing, China, July 2019</li>
<li>Connecting the dots: Science, history, digital technology and the vivid story of Wahkor-Role of museum in bringing science and history to live in CIMUSET, ICOM Kyoto, Japan, September 2019</li>
<li>Learning in the museum with the mobile application; Museum Siam, Bangkok, Thailand</li>
<li>Technology and the Museum; the memorial museum, Bangkok, Thailand</li>
</ul>
&nbsp;
บทสรุป
&nbsp;
การเดินทางของ ดร.วิจิตรา สุริยกุล ณ อยุธยา เป็นตัวอย่างของการบรรจบกันของมรดกทางวิชาการ เทคโนโลยี และวัฒนธรรม ดร. วิจิตรายังคงผลักดันขอบเขตของการสื่อสารทางวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมของพิพิธภัณฑ์อย่างต่อเนื่อง โดยสร้างแรงบันดาลใจให้คนรุ่นต่อ ๆ ไปมีส่วนร่วมกับความมหัศจรรย์ของวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี
 
บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของ "<a href="https://www.truedigitalpark.com/insights/articles/424/%e0%b8%97%e0%b8%a3%e0%b8%b9-%e0%b8%94%e0%b8%b4%e0%b8%88%e0%b8%b4%e0%b8%97%e0%b8%b1%e0%b8%a5-%e0%b8%9e%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b9%8c%e0%b8%84-%e0%b8%a3%e0%b9%88%e0%b8%a7%e0%b8%a1%e0%b8%a1%e0%b8%b7-2_1">Deep Tech Spotlight</a>" ที่เป็นความร่วมมือระหว่างทรู ดิจิทัล พาร์ค และ สมาคมนักวิจัยรุ่นใหม่ (TYSA) เพื่อเผยแพร่นวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของนักวิจัยไทย และนำเสนอการค้นพบใหม่ของนักวิจัยไทยที่ประสบความสำเร็จ ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น
 
ติดตาม Deep Tech Spotlight ได้จาก<a href="https://www.truedigitalpark.com/insights/articles/424/%e0%b8%97%e0%b8%a3%e0%b8%b9-%e0%b8%94%e0%b8%b4%e0%b8%88%e0%b8%b4%e0%b8%97%e0%b8%b1%e0%b8%a5-%e0%b8%9e%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b9%8c%e0%b8%84-%e0%b8%a3%e0%b9%88%e0%b8%a7%e0%b8%a1%e0%b8%a1%e0%b8%b7-2_1">บทความบนเว็บไซต์  truedigitalpark.com</a> เราจะนำเสนอนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทุกเดือน

deep-tech-spotlight-ep-4-%e0%b8%94%e0%b8%a3-%e0%b8%a7%e0%b8%b4%e0%b8%88%e0%b8%b4%e0%b8%95%e0%b8%a3%e0%b8%b2-%e0%b8%aa%e0%b8%b8%e0%b8%a3%e0%b8%b4%e0%b8%a2%e0%b8%81%e0%b8%b8%e0%b8%a5-%e0%b8%93-2

Deep Tech Spotlight Ep. 4: ดร. วิจิตรา สุริยกุล ณ อยุธยา ผู้ขับเคลื่อนการสื่อสารวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมพิพิธภัณฑ์

รศ. ดร. สรรพสิทธิ์ มีผลงานตีพิมพ์ในระดับนานาชาติในสาขา Food Science 100 ผลงาน ที่ได้รับการอ้างอิงมากกว่า 2,399 ครั้ง และมี  h-index เท่ากับ 30 ทำให้เป็นที่ยอมรับนับถือในวงการวิจัยโลก จากการที่ผลงานได้รับความสนใจสูง ทำให้มหาวิทยาลัยแสตนฟอร์ด สหรัฐอเมริกา ให้ความยกย่องการมีส่วนร่วมของ รศ. ดร. สรรพสิทธิ์ ในการเผยแพร่ความรู้ในสาขาวิทยาศาสตร์อาหาร
&nbsp;
หนึ่งในงานวิจัยที่น่าจับตามองของ รศ. ดร. สรรพสิทธิ์ กล่อมเกล้า คือการนำเอนไซม์จากเครื่องในปลาทูน่า เอนไซม์ทริปซินจากม้ามปลาทูน่า มาใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุด โดยการตรึงเอนไซม์ที่ได้เพื่อเพิ่มมูลค่าและการใช้ซ้ำได้ เอนไซม์ที่ได้ยังสามารถนำไปใช้ในการผลิตโปรตีนไฮโดรไลเสตและแคโรทีโนโปรตีน ทำให้เกิดผลิตภัณฑ์ที่มีมูลค่าทางเศรษฐกิจและได้รับความนิยมจากตลาด
&nbsp;
นอกจากนี้ การวิจัยในอุตสาหกรรมการแปรรูปซูริมิก็เป็นหนึ่งในความสนใจของ รศ. ดร. สรรพสิทธิ์ ด้วยการใช้ประโยชน์จากเศษเหลือจากกระบวนการแปรรูปซูริมิ โดยนำเอนไซม์เปปซินจากกระเพาะปลาและเจลาตินจากหนังปลามาใช้ เพื่อผลิตเจลาตินไฮโดรไลเสตจากหนังปลา ที่นำมาใช้เป็นสารทดแทนสารป้องกันการสูญเสียสภาพธรรมชาติทางการค้าที่เติมในผลิตภัณฑ์ซูริมิ ทำให้ได้ซูริมิที่มีคุณภาพและเป็นที่ยอมรับของผู้บริโภค
&nbsp;
ไม่เพียงเท่านี้ ยังมีการวิจัยการใช้เอนไซม์โปรตีเนสในการกำจัดสีน้ำตาลในน้ำผลไม้ ทำให้เกิดกระบวนการที่ไม่ใช้ความร้อนที่อุณหภูมิสูงและไม่ใช้สารเคมีซึ่งเป็นกรรมวิธีที่ใช้กันอย่างแพร่หลายในปัจจุบัน ผลลัพธ์ที่ได้คือน้ำผลไม้ที่มีสี กลิ่น รส และคุณค่าทางโภชนาการที่ดีขึ้น
<img class="alignnone size-full wp-image-3944" src="https://morphosis-staging.s3.ap-southeast-1.amazonaws.com/wpuploads/Gray-travel-mountain-photo-collage.jpg" alt="การวิจัย รศ. ดร. สรรพสิทธิ์ กล่อมเกล้า" width="1200" height="960" />
ในทุกการคิดค้นและการวิจัย รศ. ดร. สรรพสิทธิ์ กล่อมเกล้า ไม่เพียงเพิ่มความรู้ใหม่ ๆ ในวงการวิทยาศาสตร์และอุตสาหกรรมอาหาร เเต่ยังร่วมเผยแพร่ความรู้อบรมทักษะกับผู้ประกอบการแปรรูปอาหารต่าง ๆ ทั้งภาคอุตสาหกรรมและกลุ่มวิสาหกิจชุมชน และเป็นที่ปรึกษาที่ดีในการให้คำแนะนำและแบ่งปันประสบการณ์ให้แก่นักวิจัยและนักศึกษา นอกจากนี้ ผลงานของท่านยังเป็นแรงผลักดันที่ทำให้นักวิทยาศาสตร์และนักวิจัยรุ่นใหม่เข้าใจถึงความสำคัญของการวิจัยและนวัตกรรมในการพัฒนาอุตสาหกรรมของประเทศ
&nbsp;
ทั้งนี้ รศ. ดร. สรรพสิทธิ์ กล่อมเกล้า ได้เป็นตัวแทนและเป็นกำลังใจให้แก่นักวิจัยไทยทั้งในและต่างประเทศ ด้วยความมุ่งมั่นในการนำความรู้ไปใช้ให้เกิดประโยชน์สูงสุดและทำให้ประเทศไทยมีผู้นำทางในการวิจัยและนวัตกรรมทางอุตสาหกรรมอาหาร นับเป็นเกียรติและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่ได้มี รศ. ดร. สรรพสิทธิ์ เป็นส่วนหนึ่งของวงการนี้
&nbsp;
สำหรับผู้ที่สนใจรายละเอียดเกี่ยวกับงานวิจัยของ รศ. ดร. สรรพสิทธิ์ เพิ่มเติม สามารถเข้าไปดูได้ที่ <a href="https://scholar.google.com/citations?user=E_RJlCwAAAAJ&amp;hl=th">GOOGLE SCHOLAR</a>
&nbsp;
---
&nbsp;
บทความนี้เป็นส่วนหนึ่งของ "<a href="https://www.truedigitalpark.com/insights/articles/424/%e0%b8%97%e0%b8%a3%e0%b8%b9-%e0%b8%94%e0%b8%b4%e0%b8%88%e0%b8%b4%e0%b8%97%e0%b8%b1%e0%b8%a5-%e0%b8%9e%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b9%8c%e0%b8%84-%e0%b8%a3%e0%b9%88%e0%b8%a7%e0%b8%a1%e0%b8%a1%e0%b8%b7-2_1">Deep Tech Spotlight</a>" ที่เป็นความร่วมมือระหว่างทรู ดิจิทัล พาร์ค และ สมาคมนักวิจัยรุ่นใหม่ (TYSA) เพื่อเผยแพร่นวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของนักวิจัยไทย และนำเสนอการค้นพบใหม่ของนักวิจัยไทยที่ประสบความสำเร็จ ให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น
&nbsp;
&nbsp;
ติดตาม Deep Tech Spotlight ได้จากบทความบนเว็บไซต์  <a href="https://www.truedigitalpark.com/">truedigitalpark.com</a> เราจะนำเสนอนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทุกเดือน

deep-tech-spotlight-%e0%b8%a3%e0%b8%a8-%e0%b8%94%e0%b8%a3-%e0%b8%aa%e0%b8%a3%e0%b8%a3%e0%b8%9e%e0%b8%aa%e0%b8%b4%e0%b8%97%e0%b8%98%e0%b8%b4%e0%b9%8c-%e0%b8%81%e0%b8%a5%e0%b9%88%e0%b8%ad%e0%b8%a1-2

Deep Tech Spotlight: รศ. ดร. สรรพสิทธิ์ กล่อมเกล้า นักวิจัยและนักอุตสาหกรรมที่ทำให้ประเทศไทยโดดเด่นในสาขา Food Science และการใช้ประโยชน์จากวัสดุเศษเหลือ

<h3>ความร่วมมือระหว่าง TDPK และ TYSA:</h3>
โครงการ "Deep Tech Spotlight" เป็นความร่วมมือที่แข็งแกร่งระหว่าง TDPK และ TYSA ซึ่งมีเป้าหมายที่ชัดเจนที่จะเผยแพร่นวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีของนักวิจัยไทย ไม่เพียงแค่ให้ความสำคัญกับผลงานของนักวิจัยเพียงอย่างเดียว แต่ยังเน้นการสร้างโอกาสให้ผลงานวิจัยเหล่านั้นสามารถนำไปใช้ในโลกธุรกิจหรือต่อยอดในอนาคตได้อย่างก้าวหน้า
ในทางเศรษฐกิจสังคม นักวิจัยมีบทบาทสำคัญในการสร้างผลงานที่สร้างสรรค์และมีประโยชน์ต่อสังคม ผลงานที่ได้มาจากการวิจัยสามารถนำไปใช้ในการพัฒนาวิถีชีวิต และต่อยอดสร้างรายได้ทางธุรกิจได้ นอกจากนี้ นักวิจัยมีส่วนร่วมในการกำหนดทิศทางทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยี ทำให้สังคมมีการเปลี่ยนแปลงที่สามารถเป็นประโยชน์ต่อทุกคน อย่างไรก็ตาม ความสำเร็จในการนำผลงานจากห้องทดลอง (lab) ออกสู่ตลาด (market) ยังไม่แพร่หลายมากนักในประเทศไทย ทั้งๆ ที่ อาจารย์หรือนักวิจัยไทยหลายท่านมีผลงานที่น่าสนใจ และมีการสร้างความร่วมมือกับมหาวิทยาลัยต่างประเทศที่มีชื่อเสียง TDPK และ TYSA เห็นความสำคัญของการแผยแพร่ผลงานและนักวิจัยไทย เพื่อเพิ่มโอกาสการรับรู้ในวงกว้าง ให้สามารถงานวิจัยได้รับการต่อยอดในอนาคต จึงได้จัดโครงการDeep Tech Spotlight ขึ้น
ในมุมมองของการพัฒนาด้านเทคโนโลยี เทรนด์การวิจัยในช่วงนี้ จะเน้นไปในด้าน biotech, nanotechnology, digital tech, AI, และ robotics ซึ่งสอดคล้องกับการพัฒนาวิทยาการในโลกและการพัฒนาประเทศ เพราะฉะนั้นการให้ความรู้เรื่องผลการวิจัยใหม่ๆ สามารถส่งผลต่อการพัฒนาต่อไปทั้งสิ้น
นักวิจัยไม่เพียงแค่ค้นหาความรู้ แต่ยังเป็นนักคิดที่นำเสนอไอเดียใหม่ๆ ที่เปลี่ยนแปลงโลกของเรา ด้วยบทบาทที่สำคัญนี้ นักวิจัยเป็นแรงบันดาลใจที่ผลักดันสังคมให้เติบโตขึ้นไป
ติดตาม Deep Tech Spotlight ได้จาก<a href="https://www.truedigitalpark.com/insights/articles">บทความบนเว็บไซต์  truedigitalpark.com</a> เราจะนำเสนอนวัตกรรมทางวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทุกเดือน

%e0%b8%97%e0%b8%a3%e0%b8%b9-%e0%b8%94%e0%b8%b4%e0%b8%88%e0%b8%b4%e0%b8%97%e0%b8%b1%e0%b8%a5-%e0%b8%9e%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b9%8c%e0%b8%84-%e0%b8%a3%e0%b9%88%e0%b8%a7%e0%b8%a1%e0%b8%a1%e0%b8%b7-2_1

ทรู ดิจิทัล พาร์ค ร่วมมือกับ TYSA ผลักดันนวัตกรรมและนักวิจัยไทยให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น

ล่าสุด มีข่าวที่น่าตกใจกับการหายไปของซีเซียม 137 จากเตาปฏิกรณ์ในโรงงานผลิตไฟฟ้าพลังไอน้ำในจังหวัดปราจีนบุรี ซึ่งซีเซียม 137 เป็นไอโซโทปกัมมันตรังสีของธาตุซีเซียม ที่พบได้แพร่หลายที่สุด ถึงแม้ว่าเจ้าหน้าที่จากสำนักงานปรมาณูเพื่อสันติจะหาซีเซียม 137 จบพบ แต่วัตถุกัมมันตรังสีชนิดนี้ก็ได้ถูกเคลื่อนย้ายไปในหลายพื้นที่ รวมถึงเขตชุมชน ผลกระทบของซีเซียม 137 ในคนและสิ่งแวดล้อมนั้น มีอันตรายร้ายแรงที่อาจจะส่งผลถึงแก่ชีวิต เรามาดูกันตั้งแต่ต้นดีกว่า ว่าวัตถุกัมมันตรังสีตัวนี้คืออะไร มีผลกระทบอย่างไร และมีวิธีการรักษาหรือไม่
ซีเซียม 137 คืออะไร
ซีเซียม 137 เป็นไอโซโทปกัมมันตรังสีของธาตุซีเซียม ที่พบได้แพร่หลายที่สุด ซึ่งสามารถผลิตได้จากกระบวนการที่มีชื่อว่า “นิวเคลียร์ ฟิชชัน”หรือการแบ่งแยกของธาตุยูเรเนียมและพลูโตเนียมในเตาปฏิกรณ์หรือระเบิดปรมาณู ซีเซียม 137 แผ่สารกัมมันตรังสีออกมา 2 ชนิด ได้แก่ อนุภาคบีตา (Beta particles) และรังสีแกมมา (Gamma Rays) ค่าครึ่งชีวิตของวัตถุกัมมันตรังสีชนิดนี้ มีค่าถึง 30.17 ปี แล้วจะใช้เวลาประมาณ 300-600 ปีในการสลายไปทั้งหมด ในระหว่างนี้สารกัมมันตรังสีที่แผ่ออกมาก็ได้สร้างความเสียหายเป็นวงกว้าง
การใช้งานซีเซียม 137
หลังจากที่ได้พูดถึงผลกระทบไปคร่าวๆ ทุกคนคงสงสัยว่า ถ้าวัตถุกัมมันตรังสีชนิดนี้อันตรายขนาดนี้ แล้วทำไมมนุษย์ยังนำมันมาใช้อยู่ ในการดูแลอย่างใกล้ชิดและการบังคับใช้ที่เข้มงวด ซีเซียม 137ก่อให้เกิดประโยชน์มากกว่าโทษ ในปริมาณเล็กน้อย สามารถใช้ในการสอบเทียบเครื่องมือวัดรังสี และในปริมาณมากนั้น สามารถใช้ได้ในเครื่องฉายรังสีรักษามะเร็ง และอุปกรณ์วัดต่างๆในอุตสาหกรรม
ผลกระทบต่อร่างกาย
จากที่กล่าวมาข้างต้น ซีเซียม 137 เป็นสารที่แผ่สารกัมมันตรังสี เรามาทำความเข้าใจกับสาร 2 ชนิดนี้กันดีกว่า
อนุภาคบีตา (Beta particles) มีความสามารถในการทะลุผ่านเสื้อผ้าและชั้นผิวหนังได้ ส่งผลให้เกิดความเสียหายภายนอก เช่นผิวไหม้ หากกลืนหรือสูดสารนี้เข้าไป จะมีความอันตรายเป็นอย่างมาก โดยจะส่งผลให้เซลล์และอวัยวะภายในเกิดความเสียหาย
รังสีแกมมา (Gamma Rays) เป็นรังสีไอออไนซ์ที่อันตรายที่สุด ซึ่งสามารถทะลุผ่านชั้นผิวหนังได้ลึกกว่าอนุภาคบีตา จึงมีความอันตรายกว่า รังสีชนิดนี้สามารถผ่านทะลุได้ทั่วทั้งร่างกาย ส่งผลกระทบโดยตรงถึงเนื้อเยื่อในร่างกาย ตั้งแต่ผิวหนังถึงไขกระดูก ผลที่ตามมาคือความเสียหายในระดับดีเอ็นเอ ก่อให้เกิดเกิดความเสี่ยงที่จะเป็นมะเร็ง
เราจะรู้ได้อย่างไรหากสัมผัสถูกซีเซียม 137
หากสัมผัสกับซีเซียม 137 ในปริมาณมาก อาการเบื้องต้นคือคลื่นไส้ อาเจียน ท้องร่วง และเลือดออกตามผิวหนัง ในกรณีที่ร้ายแรง อาจทำให้เกิดอาการโคม่า และเสียชีวิตในที่สุด
มียารักษาสำหรับการสัมผัสซีเซียม 137 หรือไม่
ในปัจจุบัน มียาแก้พิษของซีเซียม 137 ที่มีชื่อว่า “ปรัสเซียนบลู” (Prussian Blue) เป็นยาที่มีประสิทธิภาพและปลอดภัย สำหรับการรักษาภาวะพิษสารเคมี ยาชนิดนี้เป็นยาเม็ด ทำงานโดยการกำจัดวัตถุกัมมันตรังสีซีเซียมออกจากร่างกาย ผ่านการดักจับและป้องกันการดูดซึมของซีเซียมเข้าสู่ร่างกาย วัตถุกัมมันตรังสีเหล่านี้จะเคลื่อนผ่านลำไส้และถูกขับออกจากร่างกาย ยาตัวนี้สามารถจ่ายได้โดยแพทย์เท่านั้น ดังนั้นหากใครมีอาการตามที่กล่าวมา ควรรีบไปโรงพยาบาลเพื่อพบแพทย์ให้เร็วที่สุด

cesium-137s-danger-and-what-happens-if-i-am-exposed-to-it_1

ซีเซียม 137 คืออะไร อันตรายอย่างไร และรักษาได้ไหม?

ทุกๆคนคงเคยได้ยินเกี่ยวกับฝุ่น PM 2.5 มาบ้าง PM 2.5 เป็นฝุ่นที่มีขนาดที่เล็กละเอียดและสามารถเข้าไปทำลายระบบของร่างกายได้ ในหลายปีที่ผ่านมามีผู้คนจำนวนมากได้ให้ความสนใจกับผลกระทบของ PM 2.5 ต่อสุขภาพ เมื่อพูดถึงเจ้าฝุ่นชนิดนี้ไม่ใช่แค่ส่งผลต่อระบบทางเดินหายใจแต่ยังทำลายชั้นปราการผิวอีกด้วย โดย PM 2.5 เป็นสาเหตุของภาวะเครียดออกซิเดชั่นของผิว ทุกคนคงสงสัยว่าภาวะเครียดออกซิเดชั่นของผิวคืออะไร เรามาทำความเข้าใจกันเลย
ภาวะเครียดออกซิเดชั่น (oxidative stress) คืออะไร และทำร้ายผิวอย่างไร
ภาวะนี้เกิดจากการเสียสมดุลระหว่างอนุมูลอิสระและสารต้านอนุมูลอิสระ และอนุมูลอิสระที่จะพูดถึงในบทความนี้คือ ROS (Reactive oxygen species) ผลวิจัยชี้ว่า PM 2.5 แทรกซึมเข้าไปในผิวและเพิ่มการผลิตของสาร ROS การเพิ่มขึ้นที่รวดเร็วของสารนี้จึงทำให้สมดุลระหว่างอนุมูลอิสระและสารต้านอนุมูลอิสระพังลงจนเกิดภาวะเครียดออกซิเดชั่น
เมื่อภาวะเครียดออกซิเดชั่นเพิ่มขึ้น โครงสร้างต่างๆของเซลล์และสารเคมีในร่างกายจึงถูกทำลาย ผลกระทบนี้ทำให้เซลล์ผิวหนังเกิดความเสียหายและเป็นสาเหตุของริ้วรอยก่อนวัยอันควร
ผลกระทบต่อผิวหนังจาก PM 2.5
เซลล์ผิวหนังที่เสียสมดุลโดยภาวะเครียดออกซิเดชั่นเป็นเวลานาน บวกกับการเพิ่มขึ้นของเซลล์ผิวที่ตายแล้วทำให้คอลลาเจนและอีลาสตินค่อยๆเสื่อมสภาพลง ริ้วรอย ความหย่อนคล้อย และการเพิ่มขึ้นของจุดด่างดำจึงปรากฏขึ้นบนผิวหนัง
สิวที่เกิดขึ้นบนใบหน้าก็มีส่วนมาจากการเผชิญกับ PM 2.5 ในระยะเวลาสั้นๆ โดย PM 2.5 มีส่วนประกอบของไนโตรเจนไดออกไซด์ ซัลเฟอร์ไดออกไซด์ และคาร์บอนมอนนอกไซด์ ซึ่งสารเหล่านี้ทำให้ผิวหนังเกิดความระคายเคืองและก่อให้เกิดสิวในที่สุด
 3 วิธีป้องกัน และรักษาผิวที่แพ้ฝุ่น PM 2.5
<ol>
<li>ทานอาหารที่มีสารต้านอนุมูลอิสระสูง</li>
</ol>
สารต้านอนุมูลอิสระที่เพิ่มขึ้นจะช่วยสร้างสมดุลและช่วยลดภาวะเครียดออกซิเดชั่นในร่างกาย การทานอาหารจำพวกผัก ผลไม้ ถั่ว และโฮลเกรนที่อุดมไปด้วยสารต้านอนุมูลอิสระจะลดปัญหาผิวและเสริมสร้างสุขภาพที่ดี
<ol start="2">
<li>ทำความสะอาดผิวเป็นประจำสม่ำเสมอ</li>
</ol>
หลังจากเผชิญมลภาวะมาทั้งวัน ฝุ่น PM 2.5 ก่อให้เกิดความระคายเคืองต่อผิวหนังได้ สิ่งที่ควรทำคือการทำความสะอาดผิวโดยใช้สบู่และคลีนซิ่งเพื่อขจัด PM 2.5 ตามร่างกายในทุกๆวัน
<ol start="3">
<li>พักผ่อนให้เพียงพอ</li>
</ol>
เซลล์จะซ่อมแซมตัวเองในเวลากลางคืน การพักผ่อนอย่างน้อย 6-8 ชั่วโมง ช่วยลดภาวะเครียดออกซิเดชั่นของผิวหนังและเสริมสร้างการผลิตคอลลาเจน กระบวนการนี้ช่วยให้ความหย่อนคล้อยและริ้วรอยลดลง

pm-2-5-is-back-how-oxidative-stress-causes-skin-problems-and-how-to-prevent-it

PM 2.5 ฝุ่นที่ทำร้ายผิวมากกว่าที่คุณคิด และวิธีป้องกันง่ายๆ

หากพูดถึงวงการอวกาศช่วงศตวรรษที่ 20 เราจะได้เห็นแต่ผลงานของผู้ชายผิวขาว แต่ในเมื่อนี่คือศตวรรษที่ 21 แล้ว วงการอวกาศ รวมทั้งวิทยาศาสตร์และเทคโนโลยีทั้งหลายก็มองข้ามผู้หญิง หรือคนสัญชาติอื่นๆ ไม่ได้แล้ว เมื่อเดือนกรกฎาคม 2563 สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ (UAE) ได้ส่งดาวเทียมสำรวจโฮปไปดาวอังคาร โดยใช้เวลาเดินทาง 7 เดือน ก่อนที่จะได้ไปถึงดาวอังคารเมื่อวันที่ 9 กุมภาพันธ์ 2564 ภายใต้การนำของ ซาราห์ อัล อามิรี ที่นอกจากจะเป็นรมต. ด้านวิทยาศาสตร์ชั้นสูงแล้ว ยังได้รับตำแหน่งประธานองค์การอวกาศแห่งชาติของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์อีกด้วย
&nbsp;
<h3>ซาราห์ อัล อามิรี</h3>
 
อามิรี มีความสนใจด้านอวกาศตั้งแต่อายุ 12 ปี เมื่อได้เห็นภาพของแกแลคซี่ Andromeda ที่อยู่ห่างจากโลกถึง 2.5 ล้านปีแสง หลังจากนั้นในปี 2552 เธอเรียนจบด้านการเขียนโปรแกรม และได้เข้าร่วมโครงการอวกาศอาหรับที่เพิ่งจะเริ่มเบ่งบานในช่วงนั้น เธอได้เข้าทำงานกับองค์การอวกาศแห่งชาติของสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ หรือ UAESA (เทียบเท่ากับนาซ่าของสหรัฐ) และได้เริ่มงานเป็น software engineer เมื่อตอนอายุ 22 ปี ด้วยความสามารถที่โดดเด่น อามิรีก็ได้รับตำแหน่งประธานของ UAESA ในปี 2563 ตอนที่อายุ 33 ปี
&nbsp;
<h3>ผู้หญิงกับวิทยาศาสตร์</h3>
&nbsp;
สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ถือได้ว่าเป็นประเทศที่สนับสนุนความเท่าเทียบกันทางเพศอยู่ในระดับค่อนข้างดี ถึงแม้จะอยู่ในโซนโลกมุสลิม เห็นได้จากความพยายามของรัฐบาลที่สร้างความเท่าเทียบกันในทุกภาคส่วน
โปรเจคโฮป นอกจากจะเป็นสัญลักษณ์ของการบุกเบิกอวกาศของ UAE แล้ว ยังเป็นสัญญาณบอกความเสมอภาคทางเพศในที่ทำงานอีกด้วย เพราะทีมงานของอามิรีประกอบไปด้วยนักวิทยาศาสตร์หญิง 80% เธอบอกว่าเราได้เห็นผู้หญิงออกจากโปรแกรม STEM (วิทยาศาสตร์ เทคโนโลยี วิศวกรรมศาสตร์ และคณิตศาสตร์) บ่อยครั้งนัก เราทุกคนควรตระหนักว่านี่คือสิ่งที่เกิดขึ้น และต้องทำอะไรกับมัน เพื่อให้ผู้หญิงอยากทำงานด้านวิทยาศาสตร์ และไม่รู้สึกว่านี่คืองานของผู้ชาย
อามิรีอยากเห็นผู้หญิงที่สนใจด้าน STEM ได้รับโอกาสและได้กำลังใจที่จะทำงานด้านนี้ต่อไป และหวังว่าคนรุ่นใหม่ในสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์และทั่วภูมิภาคอาหรับจะหันมาสนใจวิทยาศาสตร์ในโรงเรียนและในการศึกษาระดับสูงขึ้น
&nbsp;
<h3>ดาวเทียมสำรวจโฮป</h3>
&nbsp;
UAE เป็นชาติแรกในตะวันออกกลางที่ส่งดาวเทียมเข้าสู่วงโคจรของดาวอังคารได้สำเร็จ โดยมีเป้าหมายหลัก ที่จะเก็บข้อมูลเกี่ยวกับความเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศ โครงการนี้แสดงให้เห็นเจตนาของประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ที่จะลดการพึ่งพาน้ำมันและแก๊ส และหันไปให้ความสำคัญกับเศรษฐกิจที่ต้องใช้วิทยาการแทน
&nbsp;
ที่มา: Time, BBC

a-woman-who-leads-the-uae-in-space-exploration_1

หญิงเก่งแห่งวงการอวกาศ UAE ส่งดาวเทียมไปดาวอังคารแล้ว

สำนักงานส่งเสริมเศรษฐกิจดิจิทัล (depa) ร่วมกับพันธมิตรทั้งภาครัฐและภาคเอกชน จัดทำโครงการ   HACKaTHAILAND ขึ้น เพื่อเป็นกลไกสำคัญในการสร้างความตระหนัก และเป็นเวทีในการเผยแพร่องค์ความรู้ที่เกี่ยวเนื่องกับเทคโนโลยีดิจิทัล และความรู้ที่จำเป็นต่อการดำเนินธุรกิจ รวมถึงเพื่อเป็นเวทีในการระดมสมอง ระดมความคิด ในการแก้ปัญหา และทำลายข้อจำกัดต่าง ๆ ในการขับเคลื่อนประเทศไทย
&nbsp;
พบกับกิจกรรมมากมาย ทั้ง HACKaTHAILAND Hybrid Exhibition มหกรรมแสดงเทคโนโลยีและนวัตกรรมดิจิทัลล้ำสมัยจากทั่วโลก ร่วมด้วยการแข่งขัน HACKaTHAILAND Competition &amp; Beyond Hackathon
&nbsp;
<h3>ไฮไลท์ของงาน HACKaTHAILAND</h3>
&nbsp;
28 มี.ค. - 17 เม.ย. สัมผัสประสบการณ์ดิจิทัล พร้อมจุดประกายความคิดในการพัฒนาเทคโนโลยีดิจิทัล ไปกับ HACKaTHAILAND Hybrid Exhibition มหกรรมดิจิทัลครั้งประวัติศาสตร์ สนุกสนานไปกับ "TAWICHY AR GUIDE" ทวิชี่ไกด์เสมือนจริง ชมการแข่งแฮกกาธอนและบูธนิทรรศการไฮไลต์ในรูปแบบ Metaverse และกิจกรรมสนุกๆอีกเพียบ  เข้าชมได้ทุกวันฟรี ไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ
&nbsp;
จันทร์ที่ 28 มี.ค. พบกับ ‘น้องมิลค์’ แชมป์บินโดรนระดับโลก ที่จะมาโชว์ความสามารถและเทคนิคที่ทุกคนต่างยอมรับกับฝีมือบินโดรนสุดแพรวพราว
&nbsp;
4-11 เม.ย. ชมการแข่งขัน HACKaTHAILAND Competition 168 ชั่วโมง สู่นวัตกรรมพลิกโฉมประเทศ! กิจกรรมการแข่งขัน เพื่อระดมสมองและความคิดใหม่ ๆ และค้นหาสุดยอดผู้แข่งขัน Hackathon จากทั่วประเทศ ที่จะมาร่วมไขโจทย์แก้ปัญหาระดับชาติ ในการขับเคลื่อนอุตสาหกรรม 3 กลุ่มหลักของประเทศ ได้แก่ อุตสาหกรรมการเกษตร (Agriculture) อุตสาหกรรมการท่องเที่ยว (Tourism) และอุตสาหกรรมการขนส่ง (Logistics) ชิงเงินรางวัลสูงสุด 1 ล้านบาท!
&nbsp;
อังคารที่ 12 เม.ย. เชิญชวน Cosplayer เข้าร่วมการแข่งขัน "Cosplay Grand Prix 2022" ผู้ประกวดสามารถสามารถสมัครได้ทั้งเเบบเดี่ยวเเละเเบบคู่ ชิงเงินรางวัลสูงสุด 15,000 บาท
&nbsp;
พฤหัสบดีที่ 14 เม.ย. พาคุณพุ่งทะยานสู่โลกดิจิทัล แบบไม่มีอะไรมากั้น กับการประกวด "Miss SongKran Digital" ภายใต้ธีม Thai Beauty, Digital Literacy
&nbsp;
จัดเต็มกว่า 3 สัปดาห์ ระหว่างวันที่ 28 มีนาคม - 17 เมษายน นี้ ผู้สนใจสามารถติดตามข้อมูลข่าวสารและรายละเอียดต่าง ๆ ของโครงการฯ ได้ที่ <a href="https://hackathailand.com/" target="_blank" rel="noopener">www.hackathailand.com</a>
Facebook Page: <a href="https://www.facebook.com/HACKaTHAILAND" target="_blank" rel="noopener">HACKaTHAILAND</a>
หรือ LINE OA: @depathailand

%e0%b9%80%e0%b8%95%e0%b8%a3%e0%b8%b5%e0%b8%a2%e0%b8%a1%e0%b8%aa%e0%b8%b1%e0%b8%a1%e0%b8%9c%e0%b8%b1%e0%b8%aa%e0%b8%9b%e0%b8%a3%e0%b8%b0%e0%b8%aa%e0%b8%9a%e0%b8%81%e0%b8%b2%e0%b8%a3%e0%b8%93%e0%b9%8c-2

เตรียมสัมผัสประสบการณ์ด้านเทคโนโลยีดิจิทัลกับงาน HACKaTHAILAND ที่ทรู ดิจิทัล พาร์ค

The Great Disruption กลับมาอีกแล้ว พร้อมกับซีรีย์ใหม่ Healthtech Edition นวัตกรรมสู้ไวรัส
Ep. 1 นี้ GM ของ TDPK ดร. ธาริต นิมมานวุฒิพงษ์ คุยกับ CEO และ Co-founder ของ Baiya Phytopharm ผศ. ภญ. ดร.สุธีรา เตชคุณวุฒิ สตาร์ทอัปจากรั้วจุฬาฯ ที่จุดสปาร์กวงการ BioTech ไทย
ภายใต้ Business Model การเป็นแพลตฟอร์มที่สามารถผลิตยาและวัคซีนได้หลากหลายด้วย “โปรตีนจากพืช” Baiya Phytopharm ตั้งใจจะผลิตวัคซีนต้านไวรัสโควิด 19 โดยตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ก็ได้มีการระดมทุนด้วยการเปิดรับบริจาค 500 บาท จำนวน 1 ล้านคน เพื่อนำไปปรับปรุงสถานที่ในจุฬาฯ ให้เป็นสถานที่ที่ได้มาตรฐานที่ และสามารถต่อยอดผลิตวัคซีนได้
&nbsp;
เรามาคุยกันเรื่องการผลิตวัคซีนโดยคนไทย
<ul>
<li>ทำวัคซีนจากใบยาสูบ คือ อะไร?</li>
<li>ทำไมคนไทยต้องผลิตวัคซีนเอง?</li>
<li>ประสิทธิภาพของวัคซีนจะเป็นอย่างไรบ้าง?</li>
<li>ถ้าเชื้อไวรัสกลายพันธุ์ เราจะมีแผนรองรับอย่างไร?</li>
<li>การเป็นสตาร์ทอัปด้าน Biotech เจออุปสรรคอะไรบ้าง?</li>
<li>และคำถามอีกมากมาย แบบเจาะลึกกันไปเลย</li>
</ul>
<iframe src="https://www.youtube.com/embed/JgXjDeGC-uU" width="560" height="315" frameborder="0" allowfullscreen="allowfullscreen"></iframe>
&nbsp;
ติดตามตอนหน้าของ TDPK The Great Disruption ได้ทุกวันพฤหัสเวลา 2 ทุ่ม
ทาง Facebook True Digital Park: <a href="https://www.facebook.com/TrueDigitalPark/" target="_blank" rel="noopener">https://www.facebook.com/TrueDigitalPark/</a>
และ YouTube True Digital Park: <a href="https://www.youtube.com/truedigitalpark" target="_blank" rel="noopener">https://www.youtube.com/truedigitalpark</a>
&nbsp;
The Great Disruption Healthtech Edition เป็นรายการทอล์ก เปิดมุมมองจากผู้เชี่ยวชาญในด้านวัคซีนและเทคโนโลยีสุขภาพหลายๆภาคส่วน ให้คุณได้รู้เท่าทัน COVID-19 ระลอกใหม่ รู้วิธีรับมือ พร้อมปรับตัว อยู่รอด และผ่านพ้นช่วงการระบาดไปได้
ทรู ดิจิทัล พาร์ค—ศูนย์กลางเทคและสตาร์ทอัพที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน ตั้งอยู่ใจกลางย่านนวัตกรรมต้นแบบด้านดิจิทัลของประเทศไทย

are-thai-vaccines-ready-for-new-covid-strains

TDPK The Great Disruption Ep. 1: โควิดจะกลายพันธุ์ไปถึงไหน วัคซีนไทยพร้อมหรือยัง?

TDPK The Great Disruption Ep. 2: Data Driven Model กับการวิเคราะห์พื้นที่เสี่ยงติดเชื้อ เพื่อนำไปสู่การควบคุมการระบาด
The Great Disruption ซีรีย์ใหม่ Healthtech Edition นวัตกรรมสู้ไวรัส
Ep. 2 นี้ทาง TDPK จะมาพูดคุยกันต่อหัวข้อ “Data Driven Model กับการวิเคราะห์พื้นที่เสี่ยงติดเชื้อ เพื่อนำไปสู่การควบคุมการระบาด” จากนายแพทย์ ไผท สิงห์คำ ผู้อำนวยการกองนวัตกรรมและวิจัย กรมควบคุมโรค ที่จะมาให้ข้อมูลว่าด้วยการควบคุมการระบาด
<ul>
<li>สถานการณ์การระบาดของไทยตอนนี้เป็นยังไง เราอยู่ในการระบาดระลอกไหน?</li>
<li>แบบไหนถึงจะเรียกว่าควบคุมการระบาดได้แล้ว?</li>
<li>หรือศัพท์ที่เคยได้ยินกันมาอย่าง ระบาดระลอก 2 หรือ wave 2 คืออะไร? แล้วไทยมีโอกาสเกิดการระบาด ระลอก 3 หรือไม่?</li>
<li>รวมทั้งบทบาทของกรมควบคุมโรคในการเก็บข้อมูล และเอาข้อมูลมาวิเคราะห์เพื่อที่จะหา data model หรือ data pattern รวมทั้งการใช้หลักสถิติในการทำนายการระบาดของโควิดเพื่อเตรียมตั้งรับได้ทัน มีรายละเอียดอย่างไร?</li>
<li>ข้อดีของการที่เราทำนายการระบาด และควบคุมได้ ส่งผลดีต่อประเทศในเชิงนโยบายยังไงบ้าง?</li>
</ul>
<iframe src="https://www.youtube.com/embed/AsxAezEPS4s" width="560" height="315" frameborder="0" allowfullscreen="allowfullscreen"></iframe>
ติดตามตอนหน้าของ TDPK The Great Disruption ได้ทุกวันพฤหัสเวลา 2 ทุ่ม
ทาง Facebook True Digital Park: <a href="https://www.facebook.com/TrueDigitalPark/">https://www.facebook.com/TrueDigitalPark/</a>
และ YouTube True Digital Park: <a href="https://www.youtube.com/truedigitalpark" target="_blank" rel="noopener">https://www.youtube.com/truedigitalpark</a>
&nbsp;
----
The Great Disruption Healthtech Edition เป็นรายการทอล์ก เปิดมุมมองจากผู้เชี่ยวชาญในด้านวัคซีนและเทคโนโลยีสุขภาพหลายๆภาคส่วน ให้คุณได้รู้เท่าทัน COVID-19 ระลอกใหม่ รู้วิธีรับมือ พร้อมปรับตัว อยู่รอด และผ่านพ้นช่วงการระบาดไปได้
ทรู ดิจิทัล พาร์ค—ศูนย์กลางเทคและสตาร์ทอัพที่ใหญ่ที่สุดในอาเซียน ตั้งอยู่ใจกลางย่านนวัตกรรมต้นแบบด้านดิจิทัลของประเทศไทย

data-driven-analysis-model

TDPK The Great Disruption Ep. 2: Data Driven Model กับการวิเคราะห์พื้นที่เสี่ยงติดเชื้อ

People Talks โดยทรู ดิจิทัล พาร์ค เป็นรายการที่พาไปคุยกับแขกรับเชิญที่มีแรงบันดาลใจ รวมไปถึงมีมุมมองความคิดทางด้านธุรกิจ เพื่อที่จะสร้างความฝันให้เป็นไปได้ สำหรับตอนที่ 4 นี้ พิธีกร มนต์ชัย วงษ์กิตติไกรวัล พูดคุยกับคุณเดวิด จาง (David Zhang) - CTO &amp; CPO &amp; Co-founder ของ Eko หนึ่งในบริษัทสตาร์ทอัพไฟแรงที่มาร่วมเติมเต็ม Startup Ecosystem ใน True Digital Park - ที่เดียวทุกความเป็นไปได้!
เดวิด เคยร่วมงานกับนาซ่า ทำงานโปรเจค CubeSat ทำหุ่นยนต์สำรวจอวกาศขนาดใหญ่ ที่ตอนนี้ใช้เก็บตัวอย่างข้อมูลอยู่บนดาวอังคาร และหลังจากนั้นจึงได้ร่วมมือกับเพื่อนเปิดสตาร์ทอัปของตัวเอง ปัจจุบันนี้คือ Eko
Eko ให้บริการแพลตฟอร์มการสื่อสารสำหรับองค์กรยุคใหม่ ปัจจุบันมีสำนักงานในกรุงเทพฯ นิวยอร์ก ลอนดอน กัวลาลัมเปอร์ และเพิ่งได้รับเงินทุนจากกองทุนชั้นนำของโลกระดับ Series B อีกกว่า 20 ล้านเหรียญสหรัฐ (หรือกว่า 660 ล้านบาท) เพื่อขยายตลาดในอเมริกา และยุโรป
เดวิดให้แง่คิดว่า “เพราะสตาร์ทอัพในตลาดมีอยู่มากมาย ก่อนที่คุณจะพ่ายแพ้ให้คนอื่น เมื่อเริ่มเดิน...ไม่กลัวที่จะล้มแต่จงระวัง และโฟกัสที่กลุ่มเป้าหมายของคุณจริงๆให้ได้ในขั้นแรก ก่อนนำธุรกิจเข้าสู่ตลาดใหญ่ขึ้น”
นอกจากนั้นยังบอกอีกว่าถ้าสตาร์ทอัปไทยอยากจะประสบความสำเร็จเป็นยูนิคอร์น ควรจะ “ตั้งจุดมุ่งหมายไปสู่เป้าหมายสากลตั้งแต่วันแรก จะทำให้บริษัทมีศักยภาพมากขึ้น”
ดูสัมภาษณ์ตอนนี้ได้ที่นี่เลย
<iframe src="https://www.youtube.com/embed/PCfLzk3U-HQ" width="560" height="315" frameborder="0" allowfullscreen="allowfullscreen"></iframe>
ติดตามข้อคิดและเรื่องราวแรงบันดาลใจ จากบุคคลชั้นนำในแวดวง Startup ที่เชื่อในสิ่งเดียวกัน คือ “ทำสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ ให้เป็นไปได้” กับบทสัมภาษณ์ “True Digital Park: People Talks”
<a href="https://www.truedigitalpark.com/en/insights/articles/123/small-team-big-ideas">ตอนที่ 1 ตัวแทนกูเกิลให้แง่คิดการทำงานแบบทีมเล็กแต่คิดใหญ่</a>
<a href="https://www.truedigitalpark.com/en/insights/articles/27/how-to-make-impossible-possible">ตอนที่ 2 500TUKTUKS แนะจะสำเร็จต้อง“ทำสิ่งที่ IMPOSSIBLE ให้ POSSIBLE ได้</a>
<a href="https://www.truedigitalpark.com/en/insights/articles/128/how-to-teach-new-gen-children">ตอนที่ 3 ผอ.KRISแนะอย่าตีกรอบเด็กให้เรียนอะไรที่เหมือนคนอื่น</a>
<a href="https://www.truedigitalpark.com/en/insights/articles/135/business-with-happiness-first">ตอนที่ 4 เหตุผลที่คุณควรทำธุรกิจแบบเอาความสุขมาก่อน เงินมาทีหลัง</a>
<a href="https://www.truedigitalpark.com/en/insights/articles/122/keypoints-for-starting-business">ตอนที่ 5 กุญแจสำคัญในการเริ่มธุรกิจไม่ใช่แค่เพียงไอเดียแต่คือคน</a>
&nbsp;

วิทยาศาสตร์ Articles

Deep Tech Spotlight Ep. 4: ดร. วิจิตรา สุริยกุล ณ อยุธยา ผู้ขับเคลื่อนการสื่อสารวิทยาศาสตร์และนวัตกรรมพิพิธภัณฑ์

ทรู ดิจิทัล พาร์ค ร่วมมือกับ TYSA ผลักดันนวัตกรรมและนักวิจัยไทยให้เป็นที่รู้จักมากขึ้น

ซีเซียม 137 คืออะไร อันตรายอย่างไร และรักษาได้ไหม?

PM 2.5 ฝุ่นที่ทำร้ายผิวมากกว่าที่คุณคิด และวิธีป้องกันง่ายๆ

หญิงเก่งแห่งวงการอวกาศ UAE ส่งดาวเทียมไปดาวอังคารแล้ว

เตรียมสัมผัสประสบการณ์ด้านเทคโนโลยีดิจิทัลกับงาน HACKaTHAILAND ที่ทรู ดิจิทัล พาร์ค

TDPK The Great Disruption Ep. 1: โควิดจะกลายพันธุ์ไปถึงไหน วัคซีนไทยพร้อมหรือยัง?

TDPK The Great Disruption Ep. 2: Data Driven Model กับการวิเคราะห์พื้นที่เสี่ยงติดเชื้อ

อดีตโปรแกรมเมอร์ที่นาซ่าแนะสตาร์ทอัปไทยตั้งเป้าหมายสากลตั้งแต่วันแรก

แหล่งความรู้เพื่อสตาร์ทอัป

ติดต่อทีมงานทรู ดิจิทัล พาร์ค

หรือเข้าชม สถานที่

ที่อยู่

โทร