ขยะอิเล็กทรอนิกส์หรือ E-Waste นั้นเป็นขยะที่เกิดจากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่หมดอายุขัยการใช้งานลง กลายมาเป็นขยะ หลายครั้งคนอาจคิดว่าต้องมาจากอุปกรณ์ทันสมัย ๆ อย่างสมาร์ทโฟน คอมพิวเตอร์ตั้งโต๊ะ หรือ Tablet เท่านั้น แต่จริง ๆ แล้วมันหมายรวมถึงอุปกรณ์ทุกชนิดที่ต้องใช้ไฟฟ้าเสียมากกว่า เช่น ไมโครเวฟก็ใช่ แบตเตอรี่มือถือหรืออุปกรณ์พกพา หูฟัง แบตเตอรี่พกพาสำรอง (Power bank) หรือเกมส์กดมือถือแบบ Tetris ในสมัยก่อนก็สามารถจัดอยู่ในหมวดนี้ได้เช่นกัน
เป็นประเด็นที่มองข้ามไม่ได้เลย มีหลายหน่วยงานออกมารณรงค์ให้คนไทยตระหนักและให้ความสำคัญกับการทิ้งอย่างถูกที่และถูกวิธี เพราะขยะประเภทนี้นอกจากจะไม่ย่อยสลายตามธรรมชาติแล้ว ยังปล่อยสารพิษลงสู่สภาพแวดล้อม สุดท้ายก็จะย้อนกลับมาทำร้ายมนุษย์เรานี่เอง
1)ผลจากการขยายตัวทางเศรษฐกิจ เศรษฐกิจเติบโต คนมีรายได้ดีขึ้น ทำให้กำลังซื้อผู้บริโภคเพิ่มขึ้นในทุกกลุ่มรายได้ ชุมชนเมืองและรสนิยมแบบสังคมเมืองกระจายตัว จำนวนผู้บริโภคที่เข้าถึงสื่อโฆษณาของบริษัทเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์เพิ่มมากขึ้น
2)ความก้าวหน้าทางเทคโนโลยี ทำให้ประเภทอุปกรณ์เครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์มีมากขึ้น อุปกรณ์อำนวยความสะดวกในชีวิตประจำวันเกือบทั้งหมดเป็นอุปกรณ์ไฟฟ้า นอกจากนี้ด้วยความก้าวหน้าทางเทคโนโลยีและตลาดที่ขยายตัว ยังทำให้ราคาเครื่องใช้ไฟฟ้าและอิเล็กทรอนิกส์ถูกลง ผู้บริโภคเข้าถึงง่ายขึ้น
3)อุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งอุปกรณ์สื่อสารกลายเป็นสิ่งจำเป็น ทุกคนต้องใช้ มีการออกรุ่นใหม่สม่ำเสมอ ทำให้ผู้บริโภคเปลี่ยนเครื่องใหม่ถี่ขึ้น แม้แต่โทรทัศน์ที่เปลี่ยนจากโทรทัศน์ธรรมดากลายเป็น Smart TV ที่ต่ออินเตอร์เน็ตหรือทำอะไรได้มากกว่าโทรทัศน์แบบเดิม ๆ ก็ทำให้ผู้บริโภคเปลี่ยนโทรทัศน์กันมากขึ้น
เพื่อที่จะป้องกันปัญหาเหล่านี้ โดยปกติแล้ว E-Waste ควรจะได้รับการคัดแยกประเภทหรือถูกเก็บและเรียกคืนโดยผู้ผลิตและผู้จำหน่ายสินค้า ซึ่งเป็นผู้ที่มีความรู้เรื่องการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์เป็นอย่างดี และสามารถนำขยะไปผ่านกระบวนการจัดการที่ถูกต้องได้ แต่สิ่งที่เกิดขึ้นในประเทศไทยกลับไม่ได้เป็นอย่างนั้น ผู้ใช้งานผลิตภัณฑ์ในประเทศไทยส่วนใหญ่ยังไม่มีความตระหนักว่าซากผลิตภัณฑ์เป็นของเสียอันตรายที่ต้องมีการจัดการอย่างถูกวิธี และยังไม่มีความรู้ความเข้าใจในการคัดแยกซากผลิตภัณฑ์อิเล็กทรอนิกส์ ทำให้มีการทิ้งปะปนกับขยะมูลฝอยทั่วไป หรือขายให้กับซาเล้งและร้านรับซื้อของเก่า ภาระจึงไปตกอยู่กับองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่นซึ่งยังไม่มีระบบที่มีความพร้อมในการจัดการขยะประเภทนี้ ไม่ว่าจะเป็นกระบวนการคัดแยกหรือกระบวนการRecycle ก็ตาม
วิธีการจัดการขยะอิเล็กทรอนิกส์ในประเทศไทย จะเริ่มต้นโดยตั้งจุดรับทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์ตามจุดต่างๆ ในชุมชน รวมถึงบริการฝากทิ้งขยะอิเล็กทรอนิกส์ของไปรษณีย์ไทยที่ให้บริการรับฝากอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ไม่ใช้แล้วโดยไม่มีค่าใช้จ่าย เพื่อส่งต่อไปยังสถานที่จัดการ Recycle ขยะอิเล็กทรอนิกส์อย่างเหมาะสมปลอดภัยต่อสิ่งแวดล้อม โดยวิธีการจัดการกับขยะอิเล็กทรอนิกส์ในเบื้องต้นจะนำไปแยกส่วนประกอบและวัตถุที่มีค่าภายใน เช่น โลหะ เงิน ทองคำขาว และทองแดง ออกมา แล้วนำไป Recycle อีกทั้งยังแยกอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ที่ไม่ต้องการแต่ยังสามารถใช้งานได้กลับมาใช้ใหม่อีกครั้ง โดยจะนำมาซ่อมแซม และบริจาคให้กับผู้ที่ขาดแคลนต่อไป นับได้ว่าเป็นการใช้ทรัพยากรอย่างคุ้มค่าและก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด
จะเห็นได้ว่า หากเราแยกขยะอิเล็กทรอนิกส์ออกจากขยะประเภทอื่นๆ และส่งต่อไปยังหน่วยงานที่มีความเชี่ยวชาญในการกำจัดขยะอิเล็กทรอนิกส์โดยเฉพาะแล้ว จะทำให้ลดอันตรายจากขยะอิเล็กทรอนิกส์ทั้งต่อตัวเราเอง และไม่เป็นภาระสิ่งแวดล้อมอีกด้วย
ปัญหา E-Waste มีแนวโน้มวิกฤติขึ้นเรื่อย ๆ เราทุกคนต้องตระหนักในความรุนแรงของปัญหา และมีส่วนร่วมแก้ไขอย่างถูกวิธี แน่นอนว่าหากเราหวังให้ภาครัฐภาคเอกชนเคลื่อนไหว อาจต้องใช้เวลา แต่ถ้าเราทุกคนเข้าใจถึงความอันตรายของขยะอิเล็กทรอนิกส์ แล้วเราจะจัดการขยะได้ดีขึ้นอย่างแน่นอน คิดก่อนซื้อ ดูแลระหว่างใช้ และทิ้งให้ถูกที่ ก็จะสามารถทำให้โลกของเราน่าอยู่ขึ้นได้อย่างแน่นอน
Tags